ต้องยอมรับว่าเวลานี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในเวลานี้กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว แต่....เมื่อถามถึงแนวทางการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ดูเหมือนจะแก้ด้วยความยากลำบาก เพราะปัญหามีหลายมิติ
ถ้าอยู่ในชุมชนเมืองนอกจากจะเจอควันจากรถแล้ว ยังมีสารพัดสารที่ก่อให้เกิด PM 2.5 ถ้าอยู่ต่างจังหวัดก็เจอปัญหาการเผาพืชผลทางเกษตรทางในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เรียกว่าลมควันกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ สำหรับคนทั่วไปก็อาจจะแก้ปัญหาด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ป้องกัน PM 2.5 หรือถ้าอยู่บ้านก็อาจเปิดเครื่องฟอกอากาศช่วยด้วย แต่...สำหรับ “สัตว์เลี้ยง” และ สัตว์จรทั่วไปล่ะ...จะทำอย่างไร ปัญหา PM 2.5 กับสัตว์ เช่น หมา แมว ได้รับผลกระทบแค่ไหน
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้พูดคุยกับ นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ จันทิก ประธานเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร ศูนย์กายภาพ และผิวหนังสัตว์เลี้ยง (PRS Center) ที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์เลี้ยง กล่าวว่า สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือแมว ก็มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ เพราะหากสูด PM 2.5 ก็มีโอกาสที่จะก่อโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจได้
...
นอกจากโรคทางเดินหายใจแล้วยังมีโอกาสทำให้เกิดการ “ระคายเคือง” หรือ “อาการแพ้” เรียกว่า “แพ้ฝุ่น” ฉะนั้นโอกาสที่สัตว์เลี้ยงของเราจะเป็นโรค จึงไม่แตกต่างจากคน
“สิ่งที่แตกต่างคือ โรคที่เกิดกับสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ทั่วไปนั้น เขาจะไม่แสดงอาการที่เด่นชัดเหมือนคนที่อาจจะสื่อสารได้ แต่เขาสื่อสารกับเราไม่ได้ และเมื่อเราไม่ได้ไปโฟกัสกับตัวสัตว์ จึงอาจทำให้เราไม่ทราบว่าเขาเริ่มป่วยแล้ว หรือนอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ ที่เขาเป็นอยู่ก่อน แต่เราไม่ทราบ จึงทำให้มองข้ามอาการเหล่านี้ไป”
นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ กล่าวว่า โรคที่เกี่ยวกับฝุ่นในสัตว์ไม่ได้มีการบ่งบอกที่ชัดเจน แต่มันก็เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ทั้งหลอดลมอักเสบ มีอาการแพ้ที่ผิวหนัง
ที่ผ่านมายังไม่มีรายงานอย่างเป็นที่การที่ระบุถึงการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่ได้มีการสูด PM 2.5
การสังเกตอาการ และการป้องกัน ฝุ่นพิษ PM 2.5 ในสัตว์
นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ ให้ความรู้ถึงวิธีการป้องกันว่า คนเลี้ยงต้องคอยติดตามรับข้อมูลข่าวสาร เช่น วันไหนฝุ่นเยอะ เราก็ไม่ควรพาออกมาด้านนอก ควรให้อยู่แต่ในบ้านเรือน
การสังเกตอาการ : หากเราเห็นว่าสัตว์ของเราเริ่มจาม ไอ ผื่นขึ้นตามตัว หรือเริ่มเบื่ออาหาร ก็ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
สิ่งที่ควรทำ คือ การหมั่นให้มีการอาบน้ำบ้าง เพราะฝุ่น PM 2.5 ควันต่างๆ มันกระจายอยู่ในอากาศ ฉะนั้นควันเหล่านี้อาจจะติดตามตัวสัตว์ จับตัวแล้วรู้สึกสากๆ สกปรก ก็ควรพาไปทำความสะอาด ซึ่งเราปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดโรคผิวหนังด้วย
หมา กับ แมว สัตว์ชนิดไหนเสี่ยงมากกว่ากัน นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ ตอบว่า ความเสี่ยงพอๆ กัน เพราะคนก็มีความเสี่ยง หลักการเดียวกับของคน
กรณี หมา-แมว จรจัด จะทำอย่างไร นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ ตอบว่า เราไม่ได้ติดตามเขาตลอดเวลา มันจึงถือว่าเป็นเรื่องยากในการป้องกัน
“ปกติ หมา แมว เขาก็มีภูมิป้องกันโรคดีระดับหนึ่ง แต่โอกาสที่จะเจ็บป่วยจากฝุ่นก็ย่อมมีอยู่ แต่ประเด็นคือ ไม่มีใครพามาหาหมอ และอีกอย่างคือ หมา แมว เหล่านี้บางครั้งมีการย้ายถิ่นฐาน”
...
การรักษาอาการป่วยหมา แมว จากฝุ่นพิษอย่างไร นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นคงเป็นการรักษาตามปกติ คือ เริ่มต้นด้วยการตรวจร่างกาย ซักประวัติ และที่สำคัญหากสัตว์มีอาการป่วยอยู่ก่อนก็ต้องเตรียมยาที่ใช้อยู่แล้วมาด้วย
“หากตรวจร่างกายตามมาตรฐานวิชาชีพแล้วพบอาการผิดปกติ แล้วจำเป็นต้องเอกซเรย์ปอด ก็จำเป็นต้องทำ หรือถ้าเกี่ยวข้องกับโรคผิวหนังในสัตว์ อาจจะต้องมีการตรวจเซลล์ของสัตว์เลี้ยง”
นายสัตวแพทย์นพกฤษณ์ ทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทใด หากอยู่ในความรับผิดชอบของเรา เขาก็เป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว ฉะนั้นหากพบว่ามีอาการผิดปกติเพียงเล็กน้อย ก็อย่า “ชะล่าใจ” เพราะสัตว์เลี้ยงนั้นมีความอดทนกว่ามนุษย์เยอะ ฉะนั้น เมื่อเขาแสดงอาการก็แปลว่าเขาอาจจะป่วยมานานแล้ว หรือหลายวันแล้ว ควรรีบพาไปหาหมอ เพราะหาหมอเร็วเท่าใด ก็มีโอกาสช่วยเหลือให้รอดได้มากขึ้น...
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ
...