กลายเป็นกระแสบนโลกโซเชียล เมื่อ “อ๊อฟ ปองศักดิ์” โพสต์รูปน้องหมาพันธุ์ดัชชุนที่เพิ่งซื้อมาจากฟาร์มแห่งหนึ่ง แต่พบว่าน้องมีภาวะหูหนวก ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงฟาร์มผสมพันธุ์จนเลือดชิด แม้ยอมเปลี่ยนสุนัขตัวใหม่ให้ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าจะเลี้ยงต่อ กรณีนี้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงฟาร์มสุนัข ที่ขายลูกสุนัขพิการ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวของผู้ซื้อ
“ถึงหนูจะหูหนวก หม่ามี๊ก็รัก อย่าผสมกันมั่วซั่ว แล้วเห็นว่าลายดี เอามาขายแพงๆ สงสารน้องบ้าง แต่นี่รักไปแล้ว จะดูแลให้ดีที่สุด” ข้อความตอนหนึ่งจากไอจีของ “อ๊อฟ ปองศักดิ์” ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากแฟนคลับ โดยหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงความห่วงใย และวิจารณ์ถึงฟาร์มสุนัขที่มีการผสมพันธุ์จนทำให้ลูกสุนัขเกิดความพิการ แล้วนำน้องมาขายต่อในราคาแพง
เหตุการณ์ของนักร้องดังไม่ใช่รายแรกที่ถูกหลอกขายลูกสุนัขพิการให้กับลูกค้า “พ.ต.ต.ภูวดล พลเดช” สารวัตรกองกำกับการสุนัขตำรวจ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือหน่วย ‘K-9’ วิเคราะห์ปัญหานี้กับ “ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์” ว่า ขณะนี้มีหลายฟาร์มเพาะพันธุ์ลูกสุนัขโดยไม่มีความรู้ ทำให้สุนัขมีความพิการ แล้วมาหลอกขายให้กับลูกค้าจำนวนมาก เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานที่เข้ามาควบคุมเรื่องนี้เข้มงวด แต่ผู้ที่ซื้อไปส่วนใหญ่จำใจต้องเลี้ยงต่อ เพราะรู้สึกผูกพันและสงสาร
“การขายลูกสุนัขที่มีความพิการ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการผสมพันธุ์ โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ที่ไม่ใช่พันธุ์แท้ และมีเลือดชิด ทำให้เกิดข้อผิดพลาดทางพันธุกรรม จนลูกสุนัขที่เกิดมามีความพิการ แต่ทางฟาร์มก็นำมาย้อมแมวขายให้กับลูกค้าด้วยราคาที่สูง ทั้งนี้ถ้าเป็นฟาร์มขนาดใหญ่จะมีมาตรฐานในการแสดงใบรับรองการตรวจสอบสายพันธุ์ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า รวมถึงประวัติการรักษา เพื่อให้มั่นใจว่าลูกสุนัขเป็นสายพันธุ์แท้”
...
สุนัขพันธุ์ผสมค่อนข้างมีปัญหาด้านสุขภาพ เพราะถ้าไม่ใช่สายพันธุ์แท้ ความต้านทานโรคของลูกสุนัขจะมีน้อย ดังนั้นการซื้อลูกสุนัขที่มีราคาแพง ผู้ซื้อต้องมีการตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ตัวอย่างเช่น ขา มีความบิดเบี้ยวผิดรูปหรือไม่ หัวกะโหลกมีการเติบโตเหมาะสมกับวัย ส่วนผิวหนังต้องตรวจละเอียด ดูรอยแผลที่อาจเกิดขึ้นได้จากโรคต่างๆ
ส่วนการเช็กภายใน ต้องให้แพทย์ตรวจปอด กรวยไต ถ้ามีความผิดปกติจะส่งผลต่อสุนัขระยะยาว การตรวจลักษณะนี้ต้องทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าเป็นฟาร์มสุนัขที่น่าเชื่อถือจะมีผลตรวจแสดง หรือเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อพาสุนัขไปตรวจได้
ด้วยความที่ฟาร์มสุนัขหลายแห่งพยายามเพาะพันธุ์สุนัขให้มีสีขนสวยงาม จนขาดการคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ ตัวอย่างเช่น พันธุ์ดัชชุนของนักร้องดัง มีปัญหาด้านการได้ยิน เป็นสภาวะที่สุนัขสายพันธุ์นี้มักพบ จึงควรตรวจการได้ยินของหูทั้งสองข้างก่อนทุกครั้ง
สำหรับสุนัขพันธุ์เล็ก เช่น ปั๊กและชิสุห์ ปัญหาที่มักเจอคือบริเวณใต้ขอบตา เมื่ออายุมากขึ้น เกิดรอยพับบริเวณดังกล่าวจนเป็นที่สะสมเชื้อโรค ทำให้ระคายเคืองตา ตาแดง เป็นปัญหาด้านสุขภาพตา ดังนั้น ถ้าเลือกซื้อสุนัขที่ไม่ใช่สายพันธุ์แท้ อาจมีปัญหาร้ายแรงมากขึ้น
“ลูกหมาที่ทางฟาร์มนำมาขาย เริ่มตั้งแต่เริ่มหย่านม ถ้าอายุต่ำกว่านั้น มีโอกาสเสียชีวิตสูง การสังเกตภาวะผิดปกติของลูกสุนัขที่ซ่อนอยู่ภายในค่อนข้างยาก ขณะเดียวกันเมื่อสุนัขมีอายุได้ 6 เดือน ต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค หากไม่มีการฉีดวัคซีนสุนัขจะป่วยง่าย”
อยากฝากถึงผู้ที่จะซื้อสุนัข ควรศึกษาลักษณะเฉพาะของสายพันธุ์ เพื่อเป็นแนวทางการเลือกซื้อ เพราะสุนัขแต่ละพันธุ์มีปัญหาด้านสุขภาพต่างกัน แต่ถ้ามีข้อมูลจะทำให้เลือกสุนัขที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และไม่กลายเป็นภาระให้กับผู้เลี้ยงระยะยาว
หากมีการซื้อขายสุนัขที่ไม่ตรงกับคำโฆษณาของผู้ขาย ผู้ซื้อควรไปแจ้งความ ซึ่งจะเป็นความผิดทางแพ่ง เพื่อขอเงินคืน หรือเปลี่ยนสุนัขตัวใหม่ ที่สำคัญก็เพื่อป้องกันไม่ให้ฟาร์มดังกล่าวไปหลอกผู้อื่นอีก เพราะการเลือกซื้อสุนัข ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความพึงพอใจของผู้ซื้อ ดังนั้นผู้ขายต้องมีความซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวง
นอกจากนี้ไทยควรมีกฎหมายเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์สุนัขให้เหมาะสมมากขึ้น เพื่อป้องกันการเพาะพันธุ์สัตว์ที่มีเลือดชิดจนทำให้เกิดความพิการตั้งแต่กำเนิด และเป็นการป้องกันปัญหาการหลอกลวงที่เกิดขึ้นได้.