ในสังคมยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและการสื่อสารมีความก้าวหน้า จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เรียกได้ว่า เป็นสังคมแบบไร้พรมแดน ผู้คนมีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น ต่างจากยุคสมัยก่อน ที่กว่าหนุ่มสาวจะได้ทำความรู้จักกัน ก็ต้องเขียนจดหมายหากัน รอตอบกลับเป็นสัปดาห์ เมื่อการสื่อสารรวดเร็วและเปิดกว้างมากขึ้น ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น ทั้งการสื่อสารกันต่อหน้าและการสื่อสารกันผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ โดยเฉพาะใน "โลกโซเชียลมีเดีย" ที่มีทั้งแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ ที่ทำให้คนเราทำความรู้จักกันได้อย่างง่ายดาย
จึงมีคนกลุ่มหนึ่ง ที่เลือกใช้ช่องทางบนโลกออนไลน์ ในการหาเพื่อนคุย เพื่อนเที่ยว เพื่อนกิน เพื่อนคู่คิด รวมถึงเพื่อนรวมเตียง โดยบางคู่ทั้งสองฝ่าย ไม่เคยรู้จักมักคุ้น หรือเจอหน้าคาตากันมาก่อน และ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของทั้งสองฝ่าย ก็อาจไม่ต้องมีข้อผูกมัดซึ่งกันและกัน กลายเป็นความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคราวในแบบที่สบายใจกันทั้งสองฝ่าย
หากจะให้คำนิยามของ "ความสัมพันธ์แบบชั่วคราว" สำหรับคนยุคนี้ ก็อาจเป็นเรื่องยาก เพราะในทุกๆความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของความพึงพอใจของคนสองคน แต่ในเชิงวิชาการ เรื่องนี้มีข้อมูลที่น่าสนใจ โดย “คุณถิรวัฒน์ วรรณพฤษกษ์” จากสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ที่อธิบายฉายภาพให้เห็นถึง ปรากฏการณ์ความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ รวมถึงคนรุ่นเก่าบางคนที่ผิดหวังกับความรัก ที่ต้องการความสัมพันธ์แบบไม่ทางการ หรือ ไม่ผูกมัด
...
“ไม่มีใคร ไม่อยากมีคู่ที่จะอยู่ดูแลไปจนแก่เฒ่า แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่เป็นใจ หรือสภาพเศรษฐกิจและสังคมไม่เอื้อ การมีความสัมพันธ์คู่แบบชั่วครั้งชั่วคราว ก็สามารถเติมเต็มความสุขทางเพศของคนเราได้”
เพราะสมัยนี้การหาคู่ ทั้งการหาคู่ชีวิต คู่นอน เพื่อนกิน เที่ยว ทำได้ง่ายๆ ผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ มีหนุ่มสาวไทยรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยใช้หาคู่ เพื่อมีเซ็กซ์ และใช้เซ็กซ์เพื่อแลกเงิน แม้บางคู่ไม่ต้องการนิยามความสัมพันธ์ของตนเอง แต่ก็มีคำเรียกและนิยามความสัมพันธ์ระยะสั้น สำหรับหาคู่ที่ต้องการความสัมพันธ์แบบเดียวกัน มี 3 รูปแบบ แบ่ง ตามความคุ้นเคยและจำนวนครั้งการมีเซ็กซ์
One-night Stands: ONS คือการมีเซ็กซ์ครั้งเดียวกับคนแปลกหน้าหรือเพิ่งรู้จักหรือรู้จักกันน้อยมาก เป็นความสัมพันธ์ทางเพศในค่ำคืนหลังที่ได้รู้จักกัน เพียงแค่เสร็จกิจในคืนนั้น เช้ามาก็แยกย้าย ไม่มีการติดต่อหรือติดตาม หาประสบการณ์ทางเพศกับคนใหม่ๆ ได้เรื่อย
Booty Call บู้ทตี้ คอลล์ หรือ นัดยิ้มพิมพ์ใจ คือ การมีความสัมพันธ์กับคนที่ไม่คุ้นเคยกันมากกว่าหนึ่งครั้ง อาจพัฒนามาจาก ONS ก็ได้ ถ้ามีเซ็กซ์ที่ถูกใจกันทั้งสองฝ่าย แล้วมีการนัดมาทำกิจกรรมทางเพศเท่านั้น มีการถามไถ่เรื่องส่วนตัวเล็กน้อยหรือแทบไม่มี ความสัมพันธ์นี้อาจพัฒนาเป็นคู่นอนประจำได้ หรือ sex buddy ได้ บางครั้งอาจใช้คำว่า แอบแซ่บ หรือ แอบกินกัน เพราะแต่ละคนอาจไม่รู้ว่า คู่นอนที่นัดมามีอะไรกัน ต่างมีคนในใจอยู่แล้ว
Friend with Benefits : FWB เป็นขั้นความสัมพันธ์ที่เริ่มจากคนไม่รู้จัก มาเป็นเพื่อน เพื่อนสนิท จนมาเป็นเพื่อนนอน สามารถคุยได้ทุกเรื่อง แสดงความห่วงใย ใส่ใจกัน รับรู้เรื่องราวส่วนตัวกันและกันได้ แต่มีบางอย่างที่ไม่สามารถเป็นแฟนกันได้ หรือถูกใจเรื่องเซ็กซ์แต่ไม่ถูกใจนิสัย มีความต้องการทางเพศแต่ไม่ต้องการวันไนท์กับใคร เพราะเสี่ยงโรคหรือความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน “FWB” จึงเป็นความสัมพันธ์ค่อนข้างโรแมนติก แต่ไม่เรียกว่า “แฟน” หรือ “ คนรัก” ไม่มีเงื่อนไขของเวลา หรือ ไม่พูดถึงความสัมพันธ์ในอนาคต ไม่มีข้อผูกมัด “แต่มีข้อตกลงร่วมกัน” เพื่อไม่ให้เกินเลยจนเป็นความรัก ความผูกพัน ยอมรับได้ถ้าคนใดคนหนึ่งไปเจอคนอื่นที่อยากศึกษาดูใจกันมากกว่า
เมื่อลองค้นหา คนที่ต้องการความสัมพันธ์แบบชั่วคราวในแต่ละรูปแบบ จากหลายแพลตฟอร์มออนไลน์ จะพบ ชาย-หญิง จำนวนไม่น้อย ที่ออกมาโพสต์แสดงความต้องการ อยากมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกับอีกฝ่ายแบบเปิดเผย ทั้งที่ต้องการเพียงเพื่อนคุยแก้เหงา ต้องการเพื่อนเที่ยว รวมถึง ต้องการคู่นอน หรือ เพื่อมีเซ็กซ์ เท่านั้น!!
“ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” มีโอกาสได้พูดคุยกับ “คุณ ต.” ชายหนุ่มวัย 30 ปี ที่มีชีวิตเพียบพร้อม ประสบความสำเร็จ ทั้งการงานและการเงิน จากการทำธุรกิจส่วนตัว เป็นคนหนึ่งที่เลือกใช้ช่องทางออนไลน์ อย่าง Twitter มองหาความสัมพันธ์แบบไม่ต้องผูกมัดกับใครสักคน ซึ่งเขายอมเปิดเผย เบื้องลึก เบื้องหลัง ความสัมพันธ์กับหลายคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแบบหมดเปลือก มีทั้งความประทับใจ และ ด้านมืดของความสัมพันธ์ที่ไม่อยากจะไปต่อ
"คุณ ต." เปิดเผย กับ “ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์” ว่า ก่อนหน้านี้เคยมีแฟนมาก่อน แต่ก็เลิกรากันไป รู้สึกเบื่อหน่ายความสัมพันธ์แบบแฟน จึงมองหาความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ๆ หลังจากนั้นลองใช้ Twitter มาประมาณ 6 เดือน เห็นว่าการใช้ช่องทางนี้เป็นอะไรที่เข้าถึงคนได้หลากหลายและง่าย โดยที่ไม่ต้องรู้จักว่าใครเป็นใครมาก่อน ไม่จำเป็นต้องแสดงตัวตน และมีโอกาสได้เจอผู้คนมากขึ้น จึงหาคนที่อยากจะสานสัมพันธ์แบบ FWB
...
"คุณ ต." เล่าต่อว่า เมื่อก่อนคนที่เข้ามาหามักจะเห็นว่า ตนเองประสบความสำเร็จในธุรกิจ คาดหวังว่าเราเป็นคนเก่ง มองว่าเราจะเป็นคนที่เข้าถึงยาก หลายคนเห็นตัวตนของเราในการทำงาน ในการทำธุรกิจ ก็อยากจะเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ แต่การหาความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดโดยที่ไม่รู้จักมันมาก่อน การทำความรู้จักกัน ด้วยเรื่องที่ว่า ชอบอะไรแบบไหน มีรสนิยมทางเพศเป็นอย่างไร เป็นการทำความรู้จักแบบง่ายๆ ซึ่งสบายใจกว่าการที่รู้จักตัวตนกันมาก่อน หรือ การมาเจอหน้ากัน แล้วแลกนามบัตรคุยกันเรื่องงาน
ที่ผ่านมาสังเกตว่า คนในยุคปัจจุบันเริ่มสนใจการมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดกันมากขึ้น ซึ่งจากประสบการณ์ตรงจะมีคนใหม่ๆ ทักเข้ามาคุยด้วยทุกวัน แต่ว่าก็มี "บางคนที่ยังไม่กล้าเปิดตัว เพราะต้องยอมรับว่า ยังมีเรื่องของศีลธรรม และกรอบสังคมไทยยึดถือ ความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้จึงกลายเป็นความสัมพันธ์ในด้านมืดที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้สำหรับบางคน" ส่วนหนึ่งที่คนยุคปัจจุบันเลือกเริ่มความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด อาจเป็นเพราะทำแบบนี้แล้วคนไม่ได้เหงา มีคนให้คุยเหมือนมีแฟน แค่ความสัมพันธ์ไม่ได้มั่นคง แต่อย่างน้อยก็มีคนเข้ามาเรื่อยๆ และสังคมทุกวันนี้ก็เปิดกว้างการติดต่อสื่อสารก็ทำได้ง่ายขึ้น
...
“การหาความสัมพันธ์จากโลกออนไลน์อยากจะได้ความสัมพันธ์ที่ดีมากกว่า แต่ไม่จำเป็นต้องมีสถานะเป็นแฟนกัน มองหาคนที่คุยกันรู้เรื่อง”
ส่วนตัวชอบความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะเปิดกว้าง เริ่มต้นจะลองคุยกันดูก่อน อยากจะหาคนที่เข้ากันได้ สนใจในเรื่องคล้ายๆกัน มีไลฟ์สไตล์แบบไหนศึกษากันก่อน แล้วถึงจะมีการนัดกินข้าว นัดเจอตัวกัน อาจจะไม่โฉ่งฉ่างเหมือนกับเคสอื่นๆ หากรู้สึกดีก็จะพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป บางทีการพัฒนาความสัมพันธ์ก็อาจจะคุยหลายๆคนพร้อมกันก็มี
"เหมือนการเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์คล้ายกับแฟนแต่ไม่มีข้อผูกมัด”
ความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมีหลายมิติ แต่คนมักจะมองว่าเป็นเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งคนที่มาหาความสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ แบ่งได้หลายแบบ ตามความต้องการของแต่ละคน ในวงการนี้บางคนก็จะหาแค่ one night stand ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย รวมถึงสาวประเภทสองและกลุ่มชายรักชาย
ขณะที่บางคนถ้าเป็นความสัมพันธ์ทั่วไปแบบธรรมดา เริ่มต้นความสัมพันธ์จากการทักหาและมีการแลกเปลี่ยนรูปกัน จากนั้นก็จะนัดเจอ กินข้าวแล้วก็แยกย้าย บางคนก็ต่อด้วยการลองมีเซ็กซ์กัน ถ้าชอบกันทั้งสองฝ่ายก็สานสัมพันธ์ต่อ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะจบด้วยการมีเซ็กซ์เสมอไป
ส่วนบางคนเลือกความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดเพื่อที่จะหารายได้ บางคนผันตัวไปเป็น sex creator ซึ่งเป็นงานที่มีทำรายได้สูง คู่นั้นก็อาจจะมีการสานความสัมพันธ์กันแบบไม่ผูกมัดและสร้าง Content ร่วมกัน และอีกระดับหนึ่งก็คือ มีความต้องการมากขึ้นไปอีก ถึงขั้นแลกเปลี่ยนกันในเรื่องเพศ พัฒนาไปสู่การมีเพศสัมพันธ์แบบแลกคู่ ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน
...
ถ้าเป็น friend with benefit ในต่างประเทศก็จะเริ่มจากการมาเป็นเพื่อนกันก่อน รู้สึกดีต่อกันก็พัฒนาไปสู่การมีเซ็กส์ แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ถ้าในแบบของคนไทย มักจะมองไปในเรื่องของการหาคู่นอน หรือ ลักษณะของเซ็กซ์บัดดี้มากกว่า
"ด้านมืดที่ต้องระวังตัว" ต้องยอมรับว่า การหาความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดบนโลกออนไลน์ มีทั้งด้านดีและมีด้านมืด เพราะจะมีคนหลายประเภทที่เข้ามา ตั้งแต่ คนที่ทะลึ่งลามก คนที่มีความเหงา คนที่มีนิสัยดี รวมถึงมีความหลากหลายทางเพศ ปัญหาที่เจอมา คือ คนก็ส่งรูปปลอมไม่ตรงปก มีการแอบอ้างเป็นผู้หญิง แต่จริงๆ แล้วเป็นสาวประเภทสอง บางคนก็มีโปรไฟล์ที่สวย คุยกันเพียงไม่กี่คำ ก็นัดกันไปโดยออกอุบายให้จองโรงแรมหรู และให้ช่วยกันจ่ายคนละครึ่ง โดยบอกว่า จะต้องโอนค่าโรงแรมก่อนเจอกัน ก็ถือว่าเป็นมิจฉาชีพที่แฝงตัวมารูปแบบหนึ่ง ขณะที่บางคน ทักมามีจุดประสงค์หลักเพื่อขอเงิน รับงานขายบริการทางเพศ
เมื่อถามว่า เคยสานความสัมพันธ์ถึงขั้นอยากเป็นแฟนหรือไม่? "คุณ ต." ตอบว่า ส่วนใหญ่คนที่เลือกความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด จะไม่ได้มองถึงการคบกันระยะยาวถึงขั้นอยากจะครอบครองกันและกัน เพราะเมื่อไม่ต้องครอบครองก็ไม่ต้องสูญเสีย ก่อนตัดสินใจสานความสัมพันธ์ต้องมีการคุยกันตั้งแต่เริ่มต้น ตกลงกันให้ชัดว่าความสัมพันธ์จะเป็นแบบไหน บางคนมีถามถึงว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ถึงเป็นแฟนหรือไม่ แต่ก็ต้องมากำหนดเส้นกันไว้ก่อน เจอกันเฉพาะวันหยุด ส่วนวันอื่นๆก็ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกัน ต่างคนต่างอยู่
บางคนก็อาจจะแค่ทำความรู้จักติดต่อกันบางช่องทางไม่ ได้ต้องรู้จักชีวิตประจำวันกันขนาดนั้น เอาไว้เป็นช่องทางในการพูดคุยทักทายถามไถ่ชีวิตประจำวันบ้างก็พอ บางคนก็อาจจะตกลงกันได้ว่าอยากจะเจอกันบ่อยขึ้น มีความเหงาหรือต้องการความอบอุ่น ต้องเป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจทั้งสองฝ่าย
มุมที่สวยงามของความสัมพันธ์แบบนี้ก็มี ความสัมพันธ์แทบไม่ต่างจากแฟน ค่อนข้างมีความสวยงามถ้าไม่ได้ใช้ในทางที่ผิด เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีความกดดันว่าใครจะต้องดูแลใครแบบไหน เพราะถ้าเป็นแฟนก็อาจจะต้องไปรับ ไปส่งดูแลเทคแคร์ยามเจ็บป่วย แต่การไม่ผูกมัดก็ไม่ต้องถึงขั้นนั้น
ถามว่าปลายทางความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดจะสิ้นสุดที่ตรงไหน?
"คุณ ต." บอกในตอนท้ายว่า ในความคิดคนยุคปัจจุบัน บางทีไม่ได้จบที่การแต่งงานมีครอบครัว แต่ที่สุดแล้วทุกคนก็อยากจะสร้างครอบครัว แต่ระหว่างนั้นก็อาจจะเจอหลายสิ่งระหว่างทาง ทำให้การสร้างความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด ไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะถึงปลายทางตรงไหน แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ที่จะต้องสร้างครอบครัวก็อาจจะต้องหยุดความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด
“สุดท้ายคนเราก็มีขอบเขต และมีความต้องการไม่เหมือนกัน ก็อาจจะต้องจบกัน”
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง