การเมืองไทยเริ่มเข้มข้นมากขึ้น หลายพรรคการเมืองต่างเปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อกันบ้างแล้ว แต่พรรคใหญ่อย่าง “พรรคเพื่อไทย” กลับยังคงกั๊กอยู่ แม้ว่าจะส่ง “อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” มาสร้างแบรนด์พรรคเพื่อไทยไม่หยุดในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะแว่วกันว่า คนแดนไกล “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ “โทนี่ วู้ดซัม” แห่งคลับเฮาส์ยังคงรอไฟเขียวจาก “คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์” ว่าจะส่งชื่อลูกสาวคนสุดท้อง “อิ๊งค์ แพทองธาร” ที่ขณะนี้กําลังอุ้มท้องลูกคนที่สองอยู่นั้น มาอยู่ในบัญชีรายชื่อหรือไม่ หากส่งควรอยู่ในอันดับไหนระหว่างเบอร์ 1 และเบอร์ 2
ประวัติ “อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร”
เรามาทำความรู้จักกับ “อิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร” กันมากขึ้น เริ่มจากประวัติที่รู้กันดีคือ อิ๊งค์ แพทองธาร เป็นบุตรสาวคนสุดท้องของทักษิณ-คุณหญิงพจมาน มีชื่อเล่นจริงๆ ว่า “อิ๊งค์” ซึ่งเป็นตัวอักษรตัว “อ.” ตามพี่ๆ อย่าง “โอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร และ “เอม” พินทองทา ชินวัตร แต่หลายคนเรียกว่า อุ๊งอิ๊งค์ ตามที่ทักษิณเรียก จึงทําให้เป็นชื่อเล่นที่หลายคนเรียกจนถึงปัจจุบันด้วย
อิ๊งค์ แพทองธาร เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2529 สําเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาที่ 5 จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ และศึกษาต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่โรงเรียนโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 2551 และศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ สาขาวิชา MSc International Hotel Management ที่มหาวิทยาลัยเซอร์เรย์
...
ชีวิตครอบครัวของ อิ๊งค์ แพทองธาร สมรสกับ “ปอ–ปิฎก สุขสวัสดิ์” นักบิน โดยจัดงานแต่งงานตามประเพณีไทย 2 ครั้ง ครั้งแรกจัดงานที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2562 โดยมี “พานทองแท้” เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวแทน “ทักษิณ” ส่วนครั้งที่สองบินไปจัดงานฉลองเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2562 ที่โรงแรมโรสวูด ฮ่องกง ที่ทั้ง “ทักษิณ” “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อยู่ที่นั้น
หลังจากมีบุตรสาวคนแรก เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2564 ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อิ๊งค์ ก็มีข่าวดี เพราะตั้งท้องบุตรคนที่ 2 มีกําหนดคลอดในเดือนพฤษภาคม 2566
อิ๊งค์ แพทองธาร ทำงานอะไรมาบ้าง
“อิ๊งค์ แพทองธาร” ปัจจุบันดํารงตําแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านบริหาร กลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัทเรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด และกรรมการบริษัทธุรกิจในเครืออีกหลายธุรกิจ เช่น โรงแรมโรสวูด กรุงเทพฯ และโรงแรม เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ สนามกอล์ฟอัลไพน์ โรงแรมเอสซี ปาร์ค
ส่วนฐานะความร่ำรวยนั้น เฉพาะหุ้นใน บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ SC ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีมูลค่าถึงประมาณ 4,645 ล้านบาท โดยคำนวณจากวันที่ 25 สิงหาคม 2565 ที่อิ๊งค์ถือหุ้นใหญ่สุดถึง 28.82% หรือคิดเป็นจำนวน 1,216,149,870 หุ้น คูณราคาหุ้น ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ที่ปิดตลาดราคาอยู่ที่ 3.82 บาท
นอกจากนี้ยังมีหุ้นในธุรกิจอีกจำนวนมากที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งที่จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ทักษิณยังทำธุรกิจในไทย และที่จัดตั้งใหม่ในภายหลัง
อิ๊งค์ แพทองธาร บนเส้นทางการเมือง
อิ๊งค์ แพทองธาร ถูกจับตามองว่าจะเป็นสมาชิกในตระกูลชินวัตร คนที่ 4 ที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ หากเป็นจริง ก็จะถูกนับต่อจาก “ทักษิณ” บิดา “อาเขย” สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะการเมืองในปี 2565 นี้ อิ๊งค์ แพทองธาร ได้รับการชูให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยยังไม่คอนเฟิร์ม หลังจากอาสามาเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นำทัพหาเสียงเพื่อเตรียมฐานคะแนนเสียงไว้ หากมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป
อิ๊งค์ แพทองธาร เข้ามามีบทบาทอย่างเป็นทางการ ในพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2564 หลังจาก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ลาออกจากตําแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแต่งตั้ง “อิ๊งค์ แพทองธาร” เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย จากการจัดประชุมใหญ่สามัญประจํา ปี 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น ในหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”
...
“ดิฉันค่อนข้างโชคดีที่ได้ใกล้ชิดกับคุณพ่อ เพราะช่วงที่เกิดมาเป็นช่วงที่คุณพ่อประสบความสําเร็จในหน้าที่การงานแล้ว และมีเวลาให้มากกว่าพี่ๆ เมื่อท่านไปอยู่ต่างประเทศก็มีเวลาไปหาบ่อยๆ ทุกเดือนหรือแทบจะเดือนเว้นเดือน ...จึงบอกกับตัวเองว่า ความรู้และโอกาสที่มีมานั้น อยากเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาส มีความหวังและทําฝันให้เป็นจริง”
นั่นคือการเล่าที่มาของการเดินเข้าสู่เส้นทางการเมืองของลูกสาวคนสุดท้องทักษิณ
ย้อนหลังไปมากกว่านั้น อิ๊งค์เล่าถึงการได้สัมผัสการเมืองมาตั้งแต่ 8 ขวบ ตอนที่ทักษิณเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม และต่อมาก็ได้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งมีโอกาสได้ติดตามลงพื้นที่ต่างจังหวัดและไปร่วมประชุมเอเปกในต่างประเทศด้วย
...
เรียกว่าอิ๊งค์ แพทองธาร เป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นกันเลยทีเดียว และแน่นอนเมื่อเป็นลูกทักษิณ ก็ต้องสื่อสารเหมือนที่พรรคไทยรักไทยเคยสำเร็จกับการชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ที่ประกาศใน 6 เดือนต่อมา คือเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 ที่ศูนย์ประชุมมณฑาทิพย์
จังหวัดอุดรธานี ในงานเปิดตัว “ครอบครัวเพื่อไทย : บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” กับประกาศทวงคืน 14 ล้านเสียง และแลนด์สไลด์ทั่วแผ่นดิน ที่ “อิ๊งค์ แพทองธาร” ได้ตำแหน่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แต่ยังไม่กล้าตอบเรื่องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี บอกได้แต่เพียงว่า “เมื่อยุบสภาเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน”
ดูเหมือนว่า เวลาที่ผ่านไปยิ่งทำให้ “อิ๊งค์ แพทองธาร” สื่อสารกับฐานเสียงมากขึ้น และเขย่าความรู้สึกนักการเมืองรุ่นใหญ่ไม่น้อย เพราะผลโพลที่ยิ่งทำบ่อยเท่าไร ความนิยมก็มีเปอร์เซ็นต์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
...
หากถามว่าเอาอะไรมามั่นใจ แน่นอนว่า นอกจากการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในการลงสนามการเมืองอย่างเต็มที่แล้ว ยังมีความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นกับ อาปู “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่ใช้เวลาเพียง 49 วัน ก็กระโดดมาสร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทยได้
ส่วน “อิ๊งค์ แพทองธาร” ถือว่ามีเวลาเตรียมตัวมากกว่าเป็นเท่าตัว เปิดหน้าลงสนามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องวัดใจว่า “อิ๊งค์ แพทองธาร” จะเป็นเพียงแผนมาร์เก็ตติ้ง ที่เป็นสีสันดึงความสนใจกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ เพราะสุดท้าย “ทักษิณ-พจมาน” อาจไม่อยากให้ลูกสาวคนสุดท้องเป็นไพ่ใบสุดท้ายในตระกูลชินวัตร ที่เสี่ยงลงสนามการเมือง เพราะประวัติศาสตร์มีให้เรียนรู้ว่า แม้จะได้อำนาจ แต่อาจต้องแลกกับอะไรอีกมากมายมหาศาล