ภารกิจการค้นหาร่างน้องมาวิน วัย 18 ปี ประสบอุบัติเหตุตกจากเจ็ตสกี จมน้ำสูญหายไปในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2565 เป็นไปด้วยความยากลำบากและมีอุปสรรคต่างๆ ทำให้ต้องยกเลิกภารกิจการค้นหาเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมเวลาทั้งสิ้น 16 วัน

แต่ทีมงานค้นหายังไม่ถอดใจ รวมถึงผู้เป็นแม่ของน้องมาวิน มีความหวังจะพบร่างลูกชาย จึงตัดสินใจจะค้นหาอีกครั้งในวันที่ 18 พ.ย. ตั้งเป้าหมายจะใช้เวลาค้นหา 2 วัน จากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในหลายพื้นที่กว่า 200 ชีวิต ซึ่งร่วมวางแผนเตรียมอุปกรณ์ในการค้นหาร่างน้องมาวิน และนำมาเป็นประสบการณ์ในการค้นหาเคสต่อๆ ไป เนื่องจากร่างน้องมาวินถือเป็นร่างที่ 9 จมหายไปในเขื่อนศรีนครินทร์

แผนการค้นหาแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน โดยทีมโซนาร์ สแกนหาวัตถุใต้น้ำ, ทีมโดรนอากาศ ค้นหาทางอากาศ, ทีมโดรนใต้น้ำ ค้นหาในน้ำระดับความลึก 35-150 เมตร, ทีม scuba กู้ภัย ค้นหาใต้น้ำระดับความลึก 30 เมตร, ทีมเรือค้นหาตามผิวน้ำตามเกาะต่างๆ และหากพบร่าง ทางทีมนักดำน้ำเทคไดร์จะลงไปกู้ร่างทันที

ร่างน้องมาวิน จมใต้น้ำนาน 26 วัน ไม่เน่าเปื่อย ผิดปกติเหนือธรรมชาติหรือไม่

...

แม้จะยากลำบากเพียงใด ในที่สุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ย. 2565 มีการยืนยันว่าพบร่างน้องมาวินแล้วในระดับน้ำความลึก 70 เมตร ในสภาพนอนหงาย ร่างไม่เน่าเปื่อย สร้างความดีใจให้กับผู้เป็นแม่ ซึ่งเดินทางไป จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. หวังว่าจะเจอร่างลูกชาย และได้เจอจริงๆ หลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เจอร่างลูกชาย

ร่างน้องมาวิน จมใต้น้ำนาน 26 วัน ไม่เน่าเปื่อย ผิดปกติเหนือธรรมชาติหรือไม่

กรณีจมน้ำเสียชีวิต หากศพจมอยู่ใต้ท้องน้ำ หรือโดนกดทับจนจมอยู่ใต้น้ำ โดยมากมักจะเน่าช้ากว่าศพที่ลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำ เนื่องจากศพอยู่ใต้ท้องน้ำจะสัมผัสกับออกซิเจนในระดับต่ำกว่าในระดับผิวน้ำ ซึ่งในเรื่องนี้ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ ได้คลายข้อสงสัยของหลายคนอาจมองว่าการที่ร่างของน้องมาวินไม่เน่าเปื่อย เกี่ยวข้องกับสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นเรื่องปกติในทางวิทยาศาสตร์

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ อธิบายว่า ภายหลังการเสียชีวิตมี 2 ลักษณะ คือ มีออกซิเจน กับไม่มีออกซิเจน หากศพทั่วไปสัมผัสออกซิเจน ก็จะเน่าเร็ว แต่ถ้าศพอยู่ในน้ำ ก็เท่ากับว่ามีออกซิเจนน้อยกว่า 2-4 เท่า ทำให้ศพเน่าช้า ไม่เน่าเปื่อยเหมือนกรณีน้องมาวิน หรือศพถูกฝังในดิน ยิ่งเน่าช้ามากกว่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติเหนือธรรมชาติ

ร่างน้องมาวิน จมใต้น้ำนาน 26 วัน ไม่เน่าเปื่อย ผิดปกติเหนือธรรมชาติหรือไม่

“ศพของน้องมาวินอยู่ใต้น้ำลึก มีออกซิเจนน้อย ยิ่งน้ำมีอุณหภูมิที่เย็นยิ่งชะลอการเน่าเปื่อยไปใหญ่ หรืออธิบายง่ายๆ ให้เข้าใจถ้ามีออกซิเจนมาก ศพจะเน่าเร็ว และถ้ามีออกซิเจนน้อย ศพจะเน่าช้า เป็นแบคทีเรียแอนแอโรบิคที่ไม่ใช้ออกซิเจน คนละประเภทกับแบคทีเรียแอโรบิคที่ต้องการออกซิเจน”

ยกตัวอย่าง คดีเจนจิรา เมื่อปี 2536 ถูกฆ่าหั่นศพนำไปทิ้งบ่อเกรอะ ผ่านไป 1 เดือนปรากฏว่าศพยังสดมากไม่เน่า เพราะลอยเหนือบ่อเกรอะ เป็นแบคทีเรียที่ต้องการออกซิเจน ถ้าไม่มีออกซิเจน ศพจะเน่าเร็ว และหากอยู่ใต้บ่อเกรอะ ศพก็จะเน่าไปทั้งหมด ซึ่งแตกต่างกันกับกรณีศพน้องมาวินที่อยู่ใต้น้ำ

คดีเจนจิรา เมื่อปี 2536 ถูกฆ่าหั่นศพนำไปทิ้งบ่อเกรอะ
คดีเจนจิรา เมื่อปี 2536 ถูกฆ่าหั่นศพนำไปทิ้งบ่อเกรอะ

...

สำหรับขั้นตอนต่อไปเมื่อมีการกู้ร่างน้องมาวินขึ้นมาจากใต้น้ำ จะต้องชันสูตรศพ แต่ยากจะบอกเวลาเสียชีวิตได้ เพราะจากสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ ทำให้ศพเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องใช้ข้อมูลจากประจักษ์พยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์นำมาสรุปเวลาการเสียชีวิต.

ร่างน้องมาวิน จมใต้น้ำนาน 26 วัน ไม่เน่าเปื่อย ผิดปกติเหนือธรรมชาติหรือไม่