- ตุ่ม หนอง ผื่น คัน ความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศหญิงส่งผลร้าย โดยเฉพาะโรคติดเชื้อ เช่น หูดหงอนไก่ เริม แผลริมอ่อน ถ้าไม่รีบรักษามีสิทธิลุกลาม สร้างความรำคาญในการดำเนินชีวิต
- หมอแนะนำการสังเกตมะเร็งบริเวณอวัยวะเพศหญิงจะไม่แสดงอาการ แต่ถ้าคลำเจอก้อนเนื้อหรือตุ่มที่โตรวดเร็ว สีผิวอวัยวะเพศคล้ำขึ้น บางกรณีสีผิวจางลง มีโอกาสเสี่ยง
- เตือนความเชื่อผิดๆ สวนล้างช่องคลอดใช้นำยาล้างมีกลิ่นหอม ไม่ช่วยทำให้สะอาดมากขึ้น แต่เสี่ยงติดเชื้อ ตกขาวเรื้อรัง ซึ่งควรล้างด้วยน้ำเปล่าสร้างสมดุลกรดด่างในช่องคลอด
กลายเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ หลังสูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ ประกาศปิดอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก เนื่องจากมีผู้หญิงส่งรูปภาพความผิดปกติของจุดซ่อนเร้นมาให้ตรวจสอบเป็นจำนวนมาก โดยมีการโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า "เนื่องจากมีการส่งภาพ กี เข้ามาในอินบ็อกซ์เยอะมาก ทีมงานจึงปิดอินบ็อกซ์... คนไข้ควรเข้าพบแพทย์ การส่งรูปกีมาให้ดู ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพกีดีขึ้น”
เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพปัญหาสุขอนามัยบริเวณจุดซ่อนเร้น โดยผู้หญิงส่วนหนึ่งอายไม่กล้าไปพบแพทย์ จนเกิดโรคร้ายตามมาถึงขั้นเสียชีวิต แพทย์ได้สะท้อนถึง 5 โรคความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศหญิง และวิธีการสังเกต รวมถึงการทำความสะอาดที่มีความเชื่อผิดๆ มายาวนาน
“อ.พญ.กีรติ เชียงทอง” สาขาเวชศาสตร์เชิงกรานสตรีและศัลยกรรมซ่อมเสริม ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ลักษณะอาการผิดปกติบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงจะมีความหลากหลาย แต่ความผิดปกติที่มักพบคือ มีลักษณะเป็นก้อนเนื้อ ตุ่มนูนแดง หรือ แผลบริเวณอวัยะเพศ จึงต้องวิเคราะห์เชิงลึกถึงต้นเหตุของโรคว่าเกิดจากการติดเชื้อ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับมะเร็งหรือไม่
...
สำหรับอาการผิดปกติของคนไข้ ส่วนใหญ่มาด้วยสาเหตุการติดเชื้อบริเวณอวัยวะเพศ พบมากในช่วงอายุ 20 – 30 ปี ซึ่งมีประวัติเพศสัมพันธ์ โดยโรคที่พบบ่อยมีดังนี้
- หูดหงอนไก่ คนไข้มีความผิดปกติบริเวณจุดซ่อนเร้น จะคลำเจอก้อนเนื้อที่ยื่นออกมาบริเวณผิวหนังภายนอก หรือปากช่องคลอด การรักษาแพทย์จะใช้ยาเพื่อทำการรักษาหรือตัดออก
- เริมบริเวณอวัยวะเพศ มีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณเดียวกันเป็นกระจุก มีอาการแสบคัน คนไข้พอเป็นแล้วสามารถเป็นซ้ำได้
- แผลริมอ่อน มีคนไข้เข้ามาพบแพทย์มากขึ้น ลักษณะอาการเป็นแผลปนกับหนองบริเวณอวัยวะเพศ มีอาการเจ็บบริเวณแผล
ความผิดปกติจากถูกสารเคมีและซีสต์
ส่วนอีกลักษณะอาการที่มีความผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศหญิงจะมีดังนี้
- อาการแพ้จากการสัมผัสหรือถูกสารเคมี จะมีผื่นคันขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ แพทย์จะทำการรักษาด้วยยาแก้แพ้
- ซีสต์ที่ต่อมบาร์โธลิน เป็นลักษณะผิดปกติที่พบบ่อย คนไข้จะคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณปากช่องคลอด เกิดจากการอุดตันของต่อมบาร์โธลินที่สร้างเยื้อเมือก เมื่อต่อมนี้มีการอุดตันทำให้มีก้อนซีสต์เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ การรักษาต้องผ่าตัดเปิดที่ก้อนซีสต์
สังเกตมะเร็งร้ายบริเวณจุดซ่อนเร้น
“อ.พญ.กีรติ” กล่าวว่า ส่วนอาการผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศที่มีสาเหตุมาจากมะเร็ง จะต้องตรวจอย่างละเอียด เพราะลักษณะของอาการจะมีก้อนหรือผื่นที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงสีผิวบริเวณอวัยวะเพศมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น สีคล้ำมากขึ้น หรือบางรายมีสีผิวจางลง กรณีนี้แพทย์ต้องตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปวินิจฉัย มะเร็งบริเวณอวัยวะเพศภายนอกในระยะแรกจะมีลักษณะเป็นก้อน มักไม่มีอาการอย่างอื่น แต่ถ้าปล่อยไว้จะทำให้เชื้อมะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ที่พบบ่อยคือ ต่อมน้ำเหลืองบริเวณขาหนีบ
ผู้หญิงที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจะเกิดมะเร็ง พบมากในกลุ่มคนที่หมดประจำเดือน ช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ดังนั้นเพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้าย ควรมีการตรวจภายในทุกครั้งของการตรวจร่างกายประจำปี
“หากมีอาการผิดปกติบริเวณอวัยวะเพศ ควรรีบมาพบแพทย์ทันที ก่อนที่อาการของโรคจะเป็นมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต”
...
สำหรับสิ่งที่น่าเป็นห่วงในการดูแลสุขอนามัยของผู้หญิงคือ ความเชื่อว่าสวนล้างช่องคลอด แล้วจะสะอาดมากขึ้น ซึ่งเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจะทำให้ความเป็นกรดด่างในช่องคลอดขาดความสมดุล เพิ่มโอกาสเกิดการติดเชื้อได้มากขึ้น การดูแลสุขอนามัยที่ถูกต้อง ควรล้างด้วยน้ำเปล่าหรือใช้น้ำสบู่อ่อนๆ ล้างบริเวณภายนอก
ส่วนน้ำยาล้างช่องคลอดจะไม่แนะนำให้ใช้ โดยเฉพาะประเภทที่มีกลิ่นหอมมากๆ เพราะจะส่งผลต่อความเป็นกรดและด่างในช่องคลอด และทำให้มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ ซึ่งผู้หญิงบางคนเมื่อเกิดความผิดปกติจะไม่กล้ามาพบแพทย์ จึงอยากให้เปลี่ยนมุมมองใหม่ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของตัวเอง รวมถึงป้องกันโรคร้ายที่จะเกิดขึ้น
“อีกปัญหาที่คนไข้มาพบแพทย์มากขึ้น เกิดจากขนาดอวัยวะเพศที่มีขนาดใหญ่ แพทย์จะทำการประเมินจากอาการและผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เช่น เมื่อใส่กางเกงแล้วเจ็บบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือด้วยขนาดที่กว้างผิดปกติทำให้เกิดการอับชื้น จนทำให้เกิดการติดเชื้อ แต่ปกติอวัยวะเพศจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามสรีระร่างกาย จึงไม่อยากให้มีความกังวลในสิ่งเหล่านี้มากนัก”
ปัญหาจุดซ่อนเร้นสำหรับผู้หญิง จำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติ เพื่อให้คนที่อายและไม่กล้าไปพบแพทย์ มีความกล้าที่จะบอกสาเหตุถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก่อนที่โรคร้ายจะลุกลาม และพรากชีวิตตัวเองไปจากคนที่รัก.
ผู้เขียน : ปักหมุด