จากกรณี ส.ต.อ.คลั่งยา ถูกให้ออกจากราชการ ก่อเหตุใช้มีดและปืนฆ่าเด็กเล็ก ครู ในศูนย์เด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู และขับรถไล่ชน เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตหลายสิบศพ และล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ก่อเหตุได้ฆ่าตัวตายแล้ว โดยเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 ศพ 

พล.ต.ท.พิศาล มุขแจ้ง หัวหน้าอาจารย์วิชาอาชญาวิทยาโรงเรียนนายร้อยสามพราน กล่าววิเคราะห์กับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า ในมุมอาชญาวิทยา หากผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการตำรวจ หรืออดีตตำรวจ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ และการฝึกฝนด้านอาวุธ การกระทำจะรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

ส่วนสาเหตุที่ กระทำความผิด ดูได้หลายปัจจัย จากข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่าผู้กระทำผิด มีปัญหาด้านหน้าที่การงาน ซึ่งถูกให้ออกจากราชการ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่อาจจะคิดว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่สามารถยับยั้งชั่งใจได้ ก็อาจจะเป็นชนวนสำคัญในการก่อเหตุ แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ โดยเฉพาะในพื้นที่ศูนย์เด็กเล็ก ทั้งนี้ หากทำผิดจริง จนถูกให้ออกจากราชการแล้วรู้สึกสำนึก เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น

พล.ต.ท.พิศาล กล่าวต่อว่า ส่วนการก่อเหตุในศูนย์เด็กเล็ก คงต้องไปตรวจสอบต่อไปว่ามีความสัมพันธ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไร เกี่ยวข้องกับคนที่เกี่ยวข้องกับเขาหรือไม่ ถ้าเหยื่อไม่เกี่ยวข้อง

“คนที่เป็นตำรวจ หรืออดีตตำรวจ ซึ่งถือเป็นคนในเครื่องแบบ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ ไม่ควรทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำเลย...”

...

ถ้ากรณี เสพยาเสพติดด้วย จะกลายเป็นอีกประเด็นหนึ่ง คือ เพราะอาจจะก่อให้เกิดอาการหลอนต่อจิตและประสาท ส่งผลให้ขาดสติ ไม่รู้สำนึก มีการหวาดระแวง อาจจะคิดว่า ทุกคนเป็นศัตรู แม้แต่เด็กก็อาจจะหลอนด้วยว่าเป็นศัตรู ยิ่งตัวเองมีทักษะด้านอาวุธ ก็จะยิ่งก่อความรุนแรงมากกว่าคนทั่วไป

พล.ต.ท.พิศาล กล่าวทิ้งท้ายว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถือเป็นเรื่องที่ สตช. (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ต้องทบทวนการตรวจบุคลากร โดยเฉพาะต้องตรวจสอบภาวะทางจิต และตรวจสอบพฤติกรรมเรื่องยาเสพติด เพราะ สิ่งที่ทำนั้น ไม่ใช่คนทั่วไปจะทำ โดยเฉพาะการลงมือกับเด็กที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วย ส่วนตัวคาดว่า คนร้าย น่าจะมีการวางแผนมาก่อน เพราะเตรียมอาวุธมาใช้ก่อเหตุ และการกลับมาก่อเหตุยิงตัวตาย อาจจะเป็นการประชดชีวิตหรือสังคม