อีกช่องทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ภายหลัง สปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้านของไทย เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ในด่านสากลทุกด่าน ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค. 2565 เป็นต้นไป โดยอนุญาตให้พลเมืองทุกสัญชาติที่ได้รับการยกเว้นวีซ่ากับ สปป.ลาว สามารถเข้าประเทศได้ไม่ต้องขอวีซ่า และหากไม่มีใบรับรองฉีดวัคซีนครบโดส จะต้องมีผลตรวจ ATK ภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางจากประเทศต้นทาง และเมื่อถึง สปป.ลาว ไม่ต้องมีการตรวจซ้ำ
เพื่อรองรับการเดินทางระหว่างไทย และ สปป.ลาว ทางบริษัทขนส่ง จำกัด ได้เปิดบริการเดินรถในวันที่ 15 มิ.ย.2565 เป็นวันแรก รวม 9 เส้นทาง หลังประกาศหยุดเดินรถเส้นทางระหว่างประเทศดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 เป็นเวลา 2 ปีกว่า โดยมีเพียงพาสปอร์ตก็สามารถเดินทางได้ไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในสปป.ลาว ได้ครั้งละไม่เกิน 30 วัน
สำหรับเส้นทางเดินรถระหว่างประเทศ ร่วมกันระหว่างไทย และ สปป.ลาว มี 5 เส้นทาง 1. กรุงเทพฯ-ปากเซ 2. อุบลราชธานี – ปากเซ 3. นครพนม – ท่าแขก 4. มุกดาหาร-สะหวันนะเขต 5. เชียงของ-บ่อแก้ว
...
อีก 4 เส้นทางเดินรถเฉพาะของไทย 1. กรุงเทพฯ-นครหลวงเวียงจันทน์ 2. เลย-หลวงพระบาง 3. หนองคาย-นครหลวงเวียงจันทน์ 4. อุดรธานี-นครหลวงเวียงจันทน์
ส่วน 5 เส้นทาง ยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝน ผู้โดยสารน้อย และทาง สปป.ลาว มีปัญหาค่าเงินที่อ่อนตัวจาก 1 บาท ต่อ 260 กีบ เป็น 1 บาท ต่อ 460 กีบ และราคาน้ำมันแพงประมาณ 50 บาทต่อลิตร ทำให้บริษัทคู่สัญญา ไม่พร้อมเดินรถ ประกอบด้วยเส้นทางขอนแก่น-นครหลวงเวียงจันทน์, อุดรธานี-หนองคาย-วังเวียง, เชียงใหม่-หลวงพระบาง, น่าน-หลวงพระบาง และ เชียงราย-บ่อแก้ว
ขณะที่เส้นทางอุดรธานี-วังเวียง ทั้งไทยและ สปป.ลาว อยู่ระหว่างการสำรวจเส้นทางใหม่ เพื่อลดระยะเวลาในการเดินรถ จากเดิมใช้เวลาเดินทาง 7 ชั่วโมง จะเหลือเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น
“สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ย้ำว่า ผู้เดินทางกับรถโดยสารระหว่างประเทศต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม และผู้เดินทางที่ใช้หนังสือเดินทาง ต้องลงทะเบียน Thailand Pass มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ส่วนผู้โดยสารไทยที่ใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว (Border Pass) ไม่ต้องลงทะเบียน Thailand Pass แต่ต้องมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด และชาวต่างประเทศยกเว้นคนไทย เมื่อเดินทางเข้า สปป.ลาว จะต้องซื้อประกันสุขภาพ
อีกกรณีสำหรับผู้ต้องการเดินทางไป สปป.ลาว โดยขับรถยนต์ไปเอง จะต้องขับชิดขวา เพราะรถยนต์ใน สปป.ลาว ขับพวงมาลัยซ้าย ซึ่งแตกต่างจากไทย และสามารถเดินทางผ่านด่านพรมแดนทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย เพื่อข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว อาทิ ในพื้นที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เพื่อต่อไปยังหลวงพระบางและเวียงจันทร์ โดยทางเรือกลางแม่น้ำโขง สำหรับผู้ต้องการวิถีสโลว์ไลฟ์ ไม่เร่งรีบมาก
อีกเส้นทางเข้าสู่ อ.เมือง จ.หนองคาย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 เข้าสู่นครหลวงเวียงจันทน์ ระยะทาง 19 กิโลเมตร และสามารถเดินทางต่อไปยังกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้เช่นกัน
...
นอกจากนี้สามารถเดินทางไป อ.เมือง จ.นครพนม ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 ไปเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว หรือเดินทางเข้าสู่ อ.เมือง จ.มุกดาหาร ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 เข้าไปแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว และสามารถเดินทางเข้าเส้นทางถนนหมายเลข 9 เชื่อมต่อไปยังเวียดนามระยะทาง 245 กิโลเมตร
หรือจะเลือกเดินทางไป อ.ท่าลี่ จ.เลย ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเหือง เข้าเมืองแก่นท้าว แขวงไชยะบุรี และต่อไปยังหลวงพระบาง ระยะทาง 363 กิโลเมตร และอีกทางเลือกขับรถยนต์ไปด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ซึ่งจุดนี้ไม่ต้องข้ามผ่านแม่น้ำโขง สามารถไปสู่เมืองปากเซ ระยะทาง 38 กิโลเมตร และเดินทางไปต่อเพื่อเที่ยวชมน้ำตกหลี่ผี และน้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นน้ำตกที่แม่น้ำโขงทั้งสายไหลลงมา เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัย
...
หากตัดสินใจไปเที่ยว สปป.ลาว โดยการขับรถยนต์ นอกจากต้องมีใบอนุญาตขับรถที่ยังไม่หมดอายุ ซึ่งต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ จะต้องเตรียมสำเนาหนังสือแสดงการจดทะเบียน หรือใบคู่มือการจดทะเบียนรถที่ไม่ค้างชำระภาษีประจำปี, สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพื่อขอหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (เล่มสีม่วง) และเครื่องหมายแสดงประเทศ (T) รวมถึงกรมธรรม์ประกันภัยบุคคลที่สามของ สปป.ลาว มีจำหน่าย ณ จุดชายแดน.
...