เหตุระทึกอีกครั้งกลางถนนราชดำริ เมื่อหนุ่มใหญ่ สัญชาติไทยเชื้อสายอินเดีย รู้จักกันในนาม ”เค ร้อยล้าน” ขับรถเบนซ์ มาจอดแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ก่อนปล่อยงู 3 ตัว เลื้อยไปมาอยู่กลางถนน จากนั้นพยายามจะใช้อาวุธมีดยาวปาดคอตัวเอง

ท่ามกลางความแตกตื่นและน่าหวาดเสียวของผู้คนที่พบเห็น ขณะชายคนนั้นกำลังกรีดแขนขวาจนเลือดไหล และเทน้ำแดงราดตัวเองจนชุ่ม พร้อมกับเทถุงพวงมาลัยดอกดาวเรือง กองเต็มหน้ากระโปรงรถสีแดง เกลื่อนไปทั่วพื้นถนน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อม ให้สงบสติอารมณ์ จนในที่สุดชายคนนี้ได้ล้มตัวนอนกลิ้งไปมากับพื้นถนน และถูกนำตัวไปรักษายังโรงพยาบาล

เหมือนเหตุการณ์ลักษณะนี้เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน บนถนนราชดำริแห่งนี้ และกลายเป็นว่าชายคนนี้ คือนายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา บุคคลคนเดียวกันที่เคยก่อเหตุเมื่อปี 2562 อ้างเพราะความศรัทธาในพระพุทธเจ้า และนับถือหลวงปู่ศุข ซึ่งให้ไปรับพลังจากพระอาทิตย์ เพื่อให้โลกพ้นภัย ด้วยการนำงูเห่าที่เป็นบริวารของพระศิวะมาด้วย กระทั่งผ่านไป 3 ปี ได้กลับมาที่เดิม และทำสิ่งน่าหวาดเสียวเช่นเดิมอีกในวัย 46 ปี

...

ชื่อของนายคเณศพิศณุเทพ จักรภพมหาเดชา เป็นที่สนใจอีกครั้ง เมื่อตรวจสอบเนื้อหาเก่าๆ ที่เคยตกเป็นข่าวระบุว่าเป็นนักธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ และเป็นเจ้าของร้านตัดสูท ซึ่งทางญาติเคยยืนยันว่าเขามีอาการป่วยทางจิต แต่ไม่ยอมไปรักษา จนมาก่อเหตุอีกบริเวณจุดเดิม

ก่อนหน้านี้นายคเณศพิศณุเทพ เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 5 ครั้ง และเปลี่ยนนามสกุลมา 1 ครั้ง โดยเมื่อปี 2549 ใช้ชื่อว่านายกันตฐพงศ์ ได้ขับรถมาจอดบริเวณหน้าสำนักงานเลขานุการกองทัพบก แล้วฉีดสเปรย์สีแดงเขียนข้อความรอบๆ รถสีดำของตัวเอง อ้างว่าเพื่อให้กำลังใจพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หลังทำรัฐประหาร

จนเมื่อปี 2551 เคยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี อ้างถูกมือปืนขับรถยนต์ไล่ยิง เพราะเป็นพยานในคดีทุจริตซื้อที่ดินโครงการบ้านเอื้ออาทรลาดกระบัง และต่อมาอ้างว่าไม่พร้อมมาให้ปากคำ

ในขณะที่การก่อเหตุล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์สารเสพติด และสภาพทางจิต และได้แจ้งข้อหาทิ้งขยะลงบนทางสาธารณะ พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร จอดรถกีดขวางการจราจรและอาจโดนแจ้งข้อหาอื่นๆ เพิ่มเติมอีก โดยขณะนี้นายคเณศพิศณุเทพ อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากบาดแผลลึกไปถึงเส้นเลือดใหญ่.