หากวันหนึ่ง "เซ็กซ์ทอย" จะเป็นสิ่งถูกกฎหมายในไทย จะเกิดอะไรขึ้น แน่นอนกว่าจะไปถึงจุดนั้นคงอีกยาวไกล กับการถกเถียงทางความคิดระหว่างความสุขทางเพศของมนุษย์เป็นสิทธิ์ที่เลือกได้ และการคัดค้านของคนอีกกลุ่ม มองว่าเป็นเรื่องน่าอาย และทำลายศีลธรรม

ประเด็นปลดล็อก "เซ็กซ์ทอย" กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊กออกมาเตือนภัยเซ็กซ์ทอย ไร้คุณภาพ หลังสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ และเกิดไฟช็อตบริเวณขั้วสายไฟเกือบตาย

ปัจจุบันเซ็กซ์ทอย ในไทยยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เข้าข่ายลามก อนาจาร เป็นอันตรายต่อสังคมและศีลธรรม ทางกรมศุลกากร ห้ามนำเข้า หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นวัตถุหรือสื่อลามก มีความผิดกฎหมายอาญา มาตรา 287 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แม้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ยังมีการลักลอบนำมาขาย ทำให้ "สิระ เจนจาคะ" ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร มีแนวคิดจะแก้กฎหมาย เพื่อให้เซ็กซ์ ทอย ถูกกฎหมาย สามารถควบคุมให้ได้มาตรฐาน และมองว่ามีประโยชน์ทั้งการลดปัญหาอาชญากรรม การฆ่าข่มขืน ลดปัญหาหย่าร้าง จากความต้องการทางเพศที่ไม่สมดุล

...

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ส.ส.ของไทย พยายามเสนอแนวคิดในการแก้กฎหมายในเรื่องนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ของสภาผู้แทนราษฎร เคยนำเรื่องนี้มาหารือ เพื่อผลักดันร่างกฎหมาย ทำให้เซ็กซ์ทอย ไม่เป็นวัตถุลามก มาสู่สินค้าควบคุมพิเศษ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้และสร้างรายได้ให้กับรัฐ

รายงานตัวเลขจากบริษัทวิจัยข้อมูลเทคนาวิโอ ของอังกฤษ คาดการณ์การเติบโตของตลาดเซ็กซ์ทอย ช่วงปี 2562-2566 จะเติบโตต่อเนื่องปีละ 7% สร้างเม็ดเงินเพิ่มขึ้น 3 กว่าแสนล้านบาท โดยเกือบครึ่งของการเติบโตเป็นความต้องการจากภูมิภาคเอเชีย ซึ่งอินเดียและจีนเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุด

“นิศารัตน์ จงวิศาล” หรือตุ๊กตา นักกิจกรรมอนามัยเจริญพันธุ์ ตัวแทนกลุ่มทำทาง หญิงสาวผู้เคยออกมาเคลื่อนไหวเมื่อปี 2561 รณรงค์ให้เซ็กซ์ทอย ถูกกฎหมาย เสนอให้แยกสินค้าเพื่อความสุขทางเพศ ออกมาจากประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 ไปเป็นสินค้าควบคุมพิเศษ ให้มีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพ ทั้ง อย. และ มอก. มาตรวจสอบรับรอง เพื่อความปลอดภัยต่อผู้ใช้ กระทั่งผ่านไปเกือบ 3 ปี ได้มี ส.ส.ออกมาเสนอแนวคิดนี้อีก

“ตุ๊กตา” ปัจจุบันอายุ 32 ปี เธอบอกว่า จากที่เคยมองว่าการปลดล็อกเซ็กซ์ทอย ให้ถูกกฎหมาย จะช่วยลดโรคติดต่อ ลดการข่มขืน จึงขอกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะอย่างไรแล้วอาชญากรก่อคดีข่มขืนในไทย ก็คงยังมีอยู่ ตรงกันข้ามกับต่างประเทศที่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ไม่ใช่เหตุผลหลักในการปลดล็อกในเรื่องนี้ เพื่อลดปัญหาการข่มขืน แต่ทุกคนมีสิทธิ์มีความสุขทางเพศ และเพื่อเพิ่มความสุขให้กับประชาชน

“ต้องขอบคุณหญิงสาวที่กล้าออกมาโพสต์ว่าของที่ซื้อไม่มีคุณภาพ และแสดงให้เห็นว่าคนมีปัญหาแบบนี้ในเรื่องทางเพศ แต่ไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าใด มันเป็นราคาที่ต้องจ่ายในเรื่องทางเพศ โดยที่ผู้บริโภคได้ของไม่มีคุณภาพ เพราะจากรูป ที่หญิงสาวรายนั้นโพสต์ ไม่ใช่เซ็กซ์ทอย แต่มันเป็นเครื่องนวดต่อปลั๊ก ใช้ในหนังโป๊ ไม่เหมาะกับการเสียบปลั๊กไฟ เอามาใช้กับจุดซ่อนเร้น ซึ่งผู้บริโภคไม่ผิด แต่คนขายผิด เอาของมาขายผิดประเภท”

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาเพศทางบวกในสังคมไทย ถูกมองไม่ถูกต้อง และหมิ่นเหม่ศีลธรรม ตราบใดที่ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เอาเรื่องเซ็กซ์ทอย มาตีความว่าผิด ตามความเข้าใจ ทั้งๆ ที่เป็นความสุขทางเพศ และยังมองว่าหนังโป๊ ผิดไปทั้งหมด จนกลายเป็นเรื่องลบ เหมือนลูกโซ่ โดยคนในสังคมไทยควรปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด ให้ความเข้าใจในเรื่องนี้ใหม่ ไม่ให้เด็กเยาวชนกังวลในเรื่องเพศอีกต่อไป เพราะช่วงเวลาหลายปีพบว่าสังคมได้เปลี่ยนไปมากแล้ว

...

จากวันที่เริ่มต้นออกมารณรงค์ให้เซ็กซ์ทอย ถูกกฎหมาย ได้เกิดกระแสในสังคมเป็นอย่างมาก ถือว่าประสบความสำเร็จไปหนึ่งก้าว แม้ในแง่กฎหมายไม่มีความคืบหน้า เพราะหากไม่มีกระแสสังคม ก็จะไม่มี ส.ส.คนใดออกมาพูดถึงเรื่องแก้กฎหมายปลดล็อกเซ็กซ์ทอย จึงอยากให้กลไกรัฐสภา เข้ามาช่วยกันผลักดัน

เพราะในความเป็นจริง เซ็กซ์ทอย ไม่ได้มีจุดประสงค์เพียงเพื่อให้คล้ายกับการมีเพศสัมพันธ์ แต่ทำให้มีความสุขทางเพศ ไม่ใช่เพียงสิ่งเทียมอวัยวะเพศ ไม่ว่าใครที่ต้องการมีความสุขทางเพศ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกใช้ได้ และเซ็กซ์ทอย เป็นตัวอย่างของชายเป็นใหญ่ เมื่อเอามาพูดในสังคมไทย โดยภาพแรก คือ ดิลโด หรืออวัยวะเพศปลอม มีการบอกว่าของปลอมจะสู้ของจริงได้หรือ มองว่าเป็นสัญลักษณ์เพศชาย ซึ่งไม่ใช่ แต่เป็นสิทธิ์ที่ใครก็ได้จะมีความสุขทางเพศ

“ทุกครั้งที่ออกมาพูด จะเห็นปฏิกิริยาโดยเฉพาะผู้ชายก็จะทำท่ายักไหล่ และผู้หญิงก็ออกมาพูด สังคมไม่ได้บอกว่าเป็นความสุขทางเพศ แต่มองว่าเป็นเรื่องแฟนตาซี ทั้งๆที่เรื่องความสุขทางเพศเป็นสิทธิ์ของทุกคน เป็นการประท้วงผู้ชายฉันก็มีความสุขทางเพศได้ เป็นความสุขของเพศกำเนิดที่จะเลือกได้เพื่อความสุขของเรา ควรทำให้เซ็กซ์ทอย ถูกกฎหมาย มีมาตรฐาน ความปลอดภัย ผ่านการรับรองโดยสถาบันต่างๆ”

...

แม้ความเป็นจริงในสังคมเกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจเดินหน้าผลักดันได้ล่าช้า และคงเป็นอยู่เช่นนี้ไปอีก 1-2 ปี สุดท้ายแล้วขอฝากความหวังไปยัง ส.ส.ที่เราเลือกเข้ามาทำหน้าที่ ว่าจะทำให้ประชาชนมีความสุขหรือไม่ อย่าง "สิระ เจนจาคะ" ออกมาพูดสร้างกระแส แต่ควรเดินหน้าผลักดันแก้กฎหมายให้สำเร็จ ในการปลดล็อก "เซ็กซ์ทอย" ให้ถูกกฎหมายต่อไป.