• เพราะโควิดระบาดไม่หยุด ทำให้ภูเก็ต จังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากเดิมในปี 2561 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา 10.6 ล้านคน จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยทั้งสิ้น 39.7 ล้านคน สร้างรายได้ให้กับประเทศมากถึง 4 แสนกว่าล้านบาท

  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อคน เคยสูงสุดอันดับ 1 ของภาคใต้ จากข้อมูลสภาพัฒน์ในปี 2562 พบว่ารายได้ต่อคนต่อปี 4 แสนกว่าบาท แต่ทุกอย่างกำลังจมดิ่ง รายได้คนภูเก็ตมีแนวโน้มลดลง โดยฝ่ายวิจัย คณะการบริการและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต ประมาณการรายได้คนภูเก็ตระหว่างเดือน ก.พ.-ก.ย. 2564 จะอยู่ที่ 1,984 บาทต่อเดือนเท่านั้น

  • ขณะเส้นความยากจนของประเทศไทย อยู่ที่ 3,044 บาทต่อเดือน นั่นหมายความว่า รายได้คนภูเก็ตมีแนวโน้มต่ำกว่าเส้นความยากจนของประเทศ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะรายได้ของจังหวัดภูเก็ต พึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลักมากถึง 84% ส่วนใหญ่มีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อีกหนึ่งความจริงในฐานะคนพื้นที่จากปากของ "น.ส.เชิญพร กาญจนสายะ" ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ออกมายืนยันว่าขณะนี้รายได้ของคนภูเก็ตลดลงอย่างมาก นับตั้งแต่โควิดแพร่ระบาด โดยชั่วโมงทำงานของแต่ละคนลดลงไม่ถึง 1 ใน 3 เพราะต้องสลับกันทำงาน ทำให้ต้องหารายได้เสริม ออกไปรับจ้างเพื่อให้ได้เงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งต้องยอมรับภูเก็ตอยู่ได้เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก และพยายามหาทางออกเปิดการท่องเที่ยวว่าจะเริ่มเมื่อใด ขณะที่มัลดีฟส์ เปิดให้ท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวจองจนเต็ม เข้าใจว่าด้วยความเป็นเกาะในทางภูมิศาสตร์สามารถทำได้ มองว่าภูเก็ตและสมุยก็น่าทำได้เช่นกัน หากสร้างระบบจัดการที่ดี

...

“ถ้ารัฐบาลซื้อวัคซีนในราคาของรัฐบาล โดสละ 5 ดอลลาร์ หากลงทุนซื้อวัคซีนฉีดให้คนภูเก็ตทั้งเกาะคนละ 2 โดส ใช้เงินประมาณ 100 ล้านบาท แลกกับสิ่งที่จะได้มาในการช่วยชีวิตคนภูเก็ต ให้กลับคืนมา ก็น่าจะลงทุนในการแลกกับเศรษฐกิจ และใช้ระบบมาบริหารจัดการ

อย่ามองว่าทำไมฉีดเฉพาะภูเก็ต ต้องมองว่าภูเก็ตเป็นโปรดักส์ของประเทศ ต้องเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ดาหน้าลงทุนทั้งหมด ต้องดูเมืองไหนทำเกษตร ไม่ใช่อุดหนุนเรื่องยางพารากันทั้งประเทศโดยไม่ได้อะไร ตัวไหนทำเงินกลับมาได้ก็ควรทำ เป็นการช่วยให้คนไทยแข็งแรง”

จากวิกฤติที่เกิดขึ้นต่อรายได้คนภูเก็ต ได้มีการหารืออย่างต่อเนื่อง จนฝ่ายท่องเที่ยวเข้ามาช่วยว่าจะเปิดให้ท่องเที่ยวได้เมื่อใด โดยฝ่ายรัฐบาลอยากให้เปิดในเดือน ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่น แต่ทางเราอยากให้เปิดช่วงเดือน ต.ค. พร้อมกับนำวัคซีนเข้ามา ควรเอาโควตาวัคซีนมาลงภูเก็ตเพื่อฉีดให้กับทุกคน รวมทั้งคนต่างถิ่นที่อยู่อาศัยในภูเก็ต หากวัคซีนเหลือก็ลุยต่อสมุย และเปิดรับนักท่องเที่ยวบินตรงมาภูเก็ต

โรงแรมที่พัก 1 แสนห้อง ร้างนักท่องเที่ยว วัคซีนโควิด คือความหวัง

ในส่วนตัวเลขคนว่างงานในภูเก็ต อยู่ระหว่างการสำรวจตัวเลขจริงขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต ขณะที่ข้อมูลแรงงานจังหวัดมีประมาณ 2 หมื่นกว่าคน จากตัวเลขคนเคยมีงานทำ 6-9 แสนคน และในจำนวนนี้มีประมาณ 3 แสนคน ได้ออกจากภูเก็ตกลับภูมิลำเนา จากข้อมูลการใช้สัญญาณมือถือย้ายไปจังหวัดอื่น เนื่องจากไม่มีงานทำ

...

นอกจากนี้ มีคนต่างถิ่นบางส่วนยังคงอาศัยในภูเก็ต เพราะซื้อบ้านไปแล้ว และพยายามอยู่ให้รอดในสถานการณ์เช่นนี้ บางคนตกงาน ต้องออกไปรับจ้างหาเงิน ซึ่งคิดว่าควรเตรียมทักษะในการทำอาชีพอื่น เช่น งานก่อสร้างและทำเฟอร์นิเจอร์ โดยมองว่าปีหน้ากิจการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว น่าจะขยับตัวได้ ภายหลังโรงแรมที่พักกว่าแสนห้องไม่มียอดจอง ร้างนักท่องเที่ยวมานาน 2 ปี หลายแห่งต้องปิดกิจการ ถูกขายต่อให้กับต่างชาติ

“ทางออกของภูเก็ตตอนนี้ คือวัคซีน อย่างน้อยต้องได้มา 1 ล้าน ถึง 1.5 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนภูเก็ตและคนต่างถิ่น ครอบคลุมประมาณ 7 แสน 5 หมื่นคน ไม่เช่นนั้นแล้วปัญหาสังคมจะเกิดขึ้นตามมามากกว่านี้จากการตกงาน เพราะขณะนี้เริ่มมีการจี้ปล้นมากขึ้น”.

ผู้เขียน :ปูรณิมา