“ฤๅษี” ลวงโลก อ้างรักษาคุณไสย “ทีมข่าวแสบเฉพาะกิจ” เปิดโปงกลวิธีตุ๋นเหยื่อ ใช้ไม้ไล่ไปบนผิว ผสมผงด่างทับทิม พอโดนน้ำมีสีเหมือนเลือด พบก่อคดีมาทั่วประเทศ เหยื่อหลงเชื่อจ่ายค่าครูกว่า 30,000 บาท พร้อมคอร์สเสริมยาสมุนไพรเถื่อน
“ทีมข่าวแสบเฉพาะกิจ” ได้รับรายงานจากประชาชนที่เป็นเหยื่อ กรณีที่ไปรักษาโรค แต่กลับถูกหลอกเอาเงินค่าครูจำนวนมาก ซึ่งเบื้องต้นทีมข่าวได้ปลอมตัวเป็นผู้ป่วยเข้าไปรักษาหลายครั้ง และพบว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายหลอกลวงจริง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ และสาธารณสุขบุกเข้าตรวจสอบ

โดยเมื่อวานนี้ (วันที่ 14 ก.พ. 68) นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในสำนักปู่ฤาษีตาไฟ “อาจารย์อ๊อด” ทราบชื่อต่อมาคือนายสมยศ (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี เป็นเจ้าสำนัก ตั้งอยู่ที่บ้านเขาโป่ง (ไร่บน) ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่าสำนักดังกล่าวมีการหลอกลวงประชาชน อ้างสามารถรักษาอาการป่วยต่างๆ และเรียกรับเงินเป็นจำนวนมาก มีผู้เสียหายหลายรายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
...
น.ส. เอ (ของสงวนนาม) หนึ่งในผู้เสียหาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีอาการปวดท้องไม่รู้สาเหตุไปหาหมอก็รักษาไม่หาย ต่อมาทราบว่าสำนักอาจารย์อ๊อดปู่ฤาษีตาไฟ สามารถรักษาได้จึงเดินทางมา

เมื่อมาถึง อาจารย์อ๊อด ถามวันเดือนปีเกิด และระบุทันทีว่าตนโดนของ โดยให้ถอดเสื้อแล้วใช้กระดาษทิชชู่วางบนแผ่นหลัง ก่อนใช้ที่ฉีดน้ำฉีดหลัง และเอาไม้กดจุดมากดแล้วปรากฏมีสีแดงคล้ายเลือดซึมออกมา เพื่อยืนยันว่าตนถูกทำคุณไสยใส่โดยมีค่าบูชาครู 300 บาท
จากนั้นจะทำพิธีแก้คุณไสยโดยให้ถอดกางเกงในออกให้ตนหลับตาและปรากฏมีหนังควายแห้งตกมาที่บริเวณหว่างขา อ้างว่าเป็นการถอนของมนต์ดำสำเร็จโดยเรียกค่าพิธีอีก 1,500 บาท และมีการกล่าวอ้างบ้านตนถูกทำคุณไสยใส่ด้วย หากให้จะไปขับไล่คุณไสยต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย
โดยบ้านตนอยู่ที่ จ.สระบุรี อาจารย์อ๊อดเรียก 70,000 บาท แต่ตนไหวตัวก่อนและรู้สึกว่าถูกหลอกจึงแจ้งดำเนินคดี ส่วนผู้เสียหายรายอื่นทราบว่ามีการจ่ายเงินกว่า 30,000 บาท เพื่อให้อาจารย์อ๊อดไปทำพิธีที่บ้าน แต่หลังทำพิธีแล้วก็ไม่ดีขึ้นและรู้ตัวว่าถูกหลอกและไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ อ.เขาย้อย และเชื่อว่ามีผู้ถูกหลอกเช่นนี้อีกหลายราย

เมื่อ “ทีมข่าวแสบเฉพาะกิจ” บุกพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบบริเวณสำนักฤาษีดังกล่าว เป็นบ้านชั้นเดียว ด้านหน้าเป็นประตูกระจก คณะเดินทางเข้าตรวจสอบพบประตูหน้าบ้านปิดล็อคสนิท
เจ้าหน้าที่เรียกหลายครั้งนานกว่า 10 นาที จึงมีหญิงวัยกลางคนรายหนึ่งมาเปิดประตู สอบถามทราบว่าเป็นภรรยาอาจารย์อ๊อด อ้างว่าอาจารย์อ๊อดออกไปทำธุระด้านนอกไม่อยู่บ้าน
เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนและให้หญิงรายดังกล่าวนำเข้าตรวจสอบ พบภายในห้องด้านหน้าตั้งโต๊ะหมู่บูชา มีพระพุทธรูปปางต่างๆ รูปปั้นฤาษี เศียรฤาษี และเป็นสถานที่ที่พยานระบุว่าเป็นห้องที่ อาจารย์อ๊อดทำพิธีเป็นร่างทรงของฤาษีตาไฟ และใช้ทำการรักษา ตรวจสอบพบขวดยาสมุนไพรไม่ทราบชนิด ไม้นวดกดจุด กระบอกฉีดน้ำ น้ำมัน ผงด่างทับทิม หนังควายแห้ง รายชื่อผู้เข้ารับพิธีกรรม และอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาอื่นๆ นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้ป่วยนั่งรถวีลแชร์ กำลังเข้ารับการรักษาอยู่ 1 ราย ส่วน อาจารย์อ๊อดเจ้าของสำนักดังกล่าวไม่พบตัวคาดหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นไม่นาน

...
ดร.ธนกฤต ได้สาธิตกลวิธีอุบายที่คาดว่าอาจารย์อ๊อดจะใช้ในการหลอกลวงผู้เสียหายในการรักษาวิธีต่างๆ โดยใช้ที่ค้นเจอเป็นองค์ประกอบ เพื่อจำลองเป็นเลือดที่ออกจากบริเวณด้านหลังของผู้ป่วย โดยโรยผงด่างทับทิมใส่กระดาษทิชชู่ แล้วฉีดน้ำใส่ก่อนที่จะใช้ไม้กดจุดกดให้น้ำซึมเข้ากระดาษ ผงด่างทับทิมจะทำปฏิกิริยากับน้ำเป็นสีม่วง เมื่อกดละเลงกับผิวหนังจะมีสีและลักษณะคล้ายเลือดแห้ง และยังสาธิตโดยใช้ด่างทับทิมโรยไปที่พื้น ก่อนที่จะราดน้ำสะอาดใส่ ทำให้น้ำกลายเป็นสีเลือด เพื่อหลอกผู้เสียหาย
การตรวจสอบข้อเท็จจริงวันนี้ เราทำตามกฎหมายสาธารณสุข เนื่องจากสถานที่ดังกล่าวเปิดเป็นสถานพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่ และกระทรวงสาธารณสุขมีอำนาจเข้าตรวจค้นโดยไม่ต้องขอหมาย
เนื่องจากพบมีว่าการใช้กลอุบายทางหลักวิทยาศาสตร์ในการหลอกลวงผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นการรักษา จึงได้แจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ ให้ติดตามกับอาจารย์อ๊อด มาดำเนินคดีฐานมีความผิด พรบ.การสาธารณสุข และฐานฉ้อโกง ส่วนองค์ประกอบอื่น อาทิ ยาสมุนไพร น้ำมัน จะนำไปทำการตรวจสอบเพิ่มเติมหากพบว่าเข้าข่ายความผิดใดเพิ่มก็จะแจ้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง

...
“การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงประชาชน ทำให้เกิดการหลงผิดในการรักษา และไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องตามหลักการแพทย์ ซึ่งอาจส่งผลเสียให้อาการป่วยที่เป็นรุนแรงอันตรายอาจถึงชีวิต หากประชาชนพบการกระทำลักษณะหลอกลวงสามารถแจ้งหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีได้เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพชีวิตประชาชนส่วนรวม”
ติดตาม #ข่าวแสบเฉพาะกิจ รายการวาไรตี้ข่าวสุดแสบ จะพิสูจน์ ตรวจสอบ พร้อมลงทุกพื้นที่ ขยี้ทุกความจริง ทุกวันเสาร์ 6 โมงเย็น ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32.