ป.ป.ท.เขต 5 ลงพื้นที่ 'ร.ร.ราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ลาน้อย' จ.แม่ฮ่องสอน ปม 'อาหารเด็ก' อึ้ง! พบเนื้อสัตว์เริ่มเน่าเสีย แช่ปนกับวัตถุดิบเตรียมประกอบอาหาร ด้าน ผอ.กลุ่มปราบปรามฯ ยื่นเรื่องขอเอกสารชี้แจงการจัดซื้อทั้งหมดจากโรงเรียนแล้ว...

เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้ง สำหรับวัน 'ครู' แห่งชาติ 16 มกราคม 2567 แต่ยังไม่ทันที่คนในประเทศจะได้ซาบซึ้งกับ 'พระคุณครู' ก็เกิดข่าวไม่สู้ดีเกี่ยวกับครูเกิดขึ้นอีกครั้ง!

ไม่กี่วันก่อนหน้าวันครูแห่งชาติ นักเรียนกลุ่มหนึ่งของ 'โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ลาน้อย' จ.แม่ฮ่องสอน ได้โพสต์คลิปอาหารกลางวันในถาดหลุมที่มีเพียงไข่ต้ม 1 ฟอง พร้อมกับน้ำพริก และข้าวเปล่า ซึ่งปริมาณ และสภาพอาหาร ดูจะขัดกับเงินสนับสนุนที่โรงเรียนได้รับมามื้อละ 30 บาท หรือวันละ 90 บาท ต่ออาหาร 3 มื้อ 

โลกออนไลน์ต่างวิพากษ์วิจารณ์ต่อคลิปต้นเรื่อง กระทั่งวันที่ 15 มกราคม 2567 กลุ่มปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 5 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง 

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จึงไม่รอช้า ต่อสายตรงหา 'นายณัฏฐนันท์ บัวศักดิ์' ผู้อำนวยการกลุ่มปราบปรามฯ ให้ช่วยขยายความข้อมูลจากการลงพื้นที่ และสอบถามความคืบหน้าว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

...

ป.ป.ท.เขต 5 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง : 

หลังจากมีคำสั่งให้ 'ผู้อำนวยการ' โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน หยุดปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ณัฏฐนันท์ นำทีม ป.ป.ท.เขต 5 ลงพื้นที่ดังกล่าวเพื่อตรวจเยี่ยม และตรวจสอบ เหตุการณ์ล่าสุดพบว่า 'สภาพอาหาร' เปลี่ยนไปจากก่อนที่จะเป็นข่าว 

นักเรียนให้การกับ ผอ.กลุ่มปราบปรามฯ ว่า การจัดเลี้ยงอาหารกลางวันนั้นใช้วัตถุดิบที่ไม่มีคุณภาพ และปริมาณของอาหารก็ไม่เพียงพอ แม้บางวันจะมี 'ไก่ทอด' แต่มีเพียงเนื้อติดกระดูกอยู่เล็กน้อย หรือบางวันมี 'ข้าวผัด' กับ 'น้ำซุป' แต่น้ำซุปจะมีกลิ่นบูด ไม่สามารถรับประทานได้ 

นักเรียนให้การต่อว่า แต่หลังจากผู้อำนวยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเริ่มมีข่าวเรื่องอาหารกลางวันออกสู่สาธารณะ พวกเขาจึงเริ่มได้กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ทางด้าน ผอ.กลุ่มปราบปรามฯ ป.ป.ท.เขต 5 บอกกับทีมข่าวฯ ว่า "เราจะติดตามต่อไปว่าเด็กได้รับอาหารแบบนี้จริงๆ ไหม"

พบ 'นมกล่อง' แพงกว่านมโรงเรียนทั่วไป :  

ผู้อำนวยการ ป.ป.ท.เขต 5 กล่าวกับทีมข่าวฯ ว่า จากการได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ 'ข้อเท็จจริง' ทำให้พบเรื่องส่อแววผิดปกติอยู่ 2 ข้อ จนนำไปสู่การตั้งข้อสังเกตว่า… นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับความไม่โปร่งใสหรือไม่?

เริ่มกันที่เรื่องแรก เรื่องของ 'นม'

ในวันนั้น (15 มกราคม 2567) โรงเรียนจัดซื้อนมกล่องยี่ห้อหนึ่งแจกนักเรียนคู่กับมื้ออาหารกลางวัน ดูเหมือนจะ 'ปกติ' แต่ก็ 'ไม่ปกติ' ผอ.ณัฏฐนันท์ บอกกับเราว่า นมที่ซื้อแจกนักเรียนนั้นเป็นนมยี่ห้อหนึ่ง ที่มีวางขายในท้องตลาด ซึ่งมีราคาแพงกว่านมโรงเรียนปกติ

"ปกติแล้วที่ผมเคยตรวจสอบมา เวลาซื้อนมลอตใหญ่แจกเด็ก โรงเรียนต่างๆ จะซื้อนมที่มีคำว่า 'นมโรงเรียน' แจก ไม่ว่าจะเป็นแบบกล่อง หรือแบบถุง แต่นมในวันที่เราไปตรวจสอบดูเหมือนว่านี่เป็นการจัดซื้อ 'เฉพาะกิจ' ที่ไม่มีมาก่อน"

ทางด้านนักเรียนบอกกับ ผอ.ณัฏฐนันท์ ว่า "เพิ่งเคยได้กินนมแบบนี้เป็นวันแรก" ทางผู้อำนวยการกลุ่มปราบปรามฯ จึงต้องข้อสังเกตเบื้องต้นว่า "มันดูผิดปกติไป" และย้ำกับทีมข่าวฯ ว่า "เราจะตรวจสอบเอกสารจัดซื้อจัดจ้างอีกที ว่านมพวกนี้เป็นไปเป็นมาอย่างไร"

...

ตรวจพบเนื้อสัตว์เริ่มเน่าเสีย แช่ปนกับเนื้อสัตว์ดี : 

เรื่องที่สองเป็นเรื่องของวัตถุดิบ ใครจะไปคิดว่าถุงบรรจุ 'เนื้อสัตว์' ที่เริ่มส่งกลิ่นเหม็นคล้ายใกล้เสีย จะปะปนอยู่กับเนื้อสัตว์ที่เตรียมทำอาหารให้นักเรียน!

ผอ.ณัฏฐนันท์ กล่าวว่า "วันที่ผมไปลงพื้นที่ ยังมีเนื้อสัตว์บางส่วนที่มีสีคล้ำ และมีกลิ่นเหม็น ใส่ถุงแช่ปะปนอยู่ในตู้แช่อาหาร ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียแล้ว"

ผู้อำนวยการกลุ่มปราบปรามฯ จึงสอบถามไปยัง 'ผู้ประกอบอาหาร' ว่า ทำไมจึงนำมาแช่อยู่แบบนี้ จะประกอบอาหารให้นักเรียนกินหรืออย่างไร?

...

ผู้ประกอบอาหารชี้แจงว่า เป็นถุงที่ "เตรียมนำไปทิ้ง จะไม่นำมาประกอบอาหาร"

ผอ.ณัฏฐนันท์ แสดงความคิดเห็นกับทีมข่าวฯ ต่อว่า อย่างไรก็ตามเรามองว่าไม่ใช่เรื่องเหมาะสมที่นำของไม่ดีไปแช่ปะปนอยู่กับของดี แถมยังทำให้สงสัยต่อไปอีกว่า "ทำไมเมื่อมีการจัดซื้อวัตถุดิบอาหาร แล้วยังต้องเหลือทิ้ง หรือมีบางวันไหมที่นำของเสียมาทำให้นักเรียนกินจริงๆ"

ส่งเรื่องขอเอกสารจัดซื้อจัดจ้าง และเอกสารชี้แจงจากโรงเรียน : 

แม้ว่าตอนนี้กระแสสังคมจะตัดสินเรื่องนี้ไปแล้ว แต่ในทางกฎหมาย ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเหตุการณ์นี้ 'ผิด' หรือ 'ไม่ผิด' 

อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าในขณะนี้ ทาง ป.ป.ท.เขต 5 ได้ส่งเรื่องขอเอกสารชี้แจงข้อมูลการเบิกจ่ายจากโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ข้อมูลมาครบถ้วนจะมีการตรวจสอบเอกสาร และพฤติการณ์ในการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป

"เมื่อได้รับเอกสารแล้วเราจะดูนำข้อมูลว่าสอดคล้องกับคำให้การของพยาน คำให้การของนักเรียน และหลักฐานต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตามเอกสารจัดซื้อที่จะได้รับ เราก็ไม่ทราบว่าข้อมูลจะ 'ถูกต้อง' หรือเอกสารจะเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่ แต่หากเอกสารถูกต้อง ต้องมาดูต่อว่าข้อมูลสอดรับรับกับ 'ข้อเท็จจริง' หรือไม่"

...

กล่าวคือ ตามขั้นตอนต้องตรวจสอบเอกสาร ถ้าแสดงว่าซื้อวัตถุดิบจริง ไม่มีการตุกติก ต้องตรวจสอบย้อนไปต่อว่าเมื่อซื้อวัตถุดิบแล้วได้นำไปประกอบอาหารให้เด็กไหม หรือวัตถุดิบอยู่ที่ไหน ทำไมนักเรียนจึงได้รับอาหารแบบนี้ เพราะตอนนี้นักเรียนมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายที่สามารถยืนยันความผิดปกติได้ และพยานส่วนใหญ่ให้การสอดคล้องว่า "เป็นความจริงตามภาพถ่ายเหล่านั้น"

ความคืบหน้าของอดีตผู้อำนวยการ : 

ผอ.ณัฏฐนันท์ เน้นย้ำกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า หากได้เอกสารครบถ้วนแล้วจะเข้าสู่การดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการ ต้องมาดูกันว่าหากมีมูลความผิดจริง แล้วใครผิดบ้าง เช่น เจ้าหน้าที่จัดซื้อจัดจ้าง, เจ้าหน้าที่ตรวจรับ, เจ้าหน้าที่ผู้อนุมัติ ฯลฯ บุคคลเหล่านั้นผิดหรือไม่ หากผลชี้ออกมาว่ามีมูลความผิดจริงจะต้องได้รับโทษตามกฎหมาย

ตอนนี้ทางด้านของ 'อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน' ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ส่วน ผอ.ณัฏฐนันท์ บัวศักดิ์ กล่าวว่า เดี๋ยวจะมีกระบวนการให้ ‘โอกาส’ อดีต ผอ.ได้ชี้แจงได้เต็มที่ว่าเป็นไปตามข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือมีคำชี้แจงใดๆ ต่อเจ้าหน้าที่หรือเปล่า เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป…

อย่างไรก็ดี ทีมข่าวฯ พยายามติดต่อทางคณะผู้บริหารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ลาน้อย เพื่อขอคำชี้แจงสำหรับประเด็นนี้ มีเพียง รองผู้อำนวยการ 'สุภชัย สุนามเจริญกุล' ที่ได้ให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า

"ตอนนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ ยังไม่รู้ว่าผลและรายละเอียดว่าเป็นอย่างไร ยังไม่สะดวกให้ข้อมูล เพราะอยู่ในระหว่างกระบวนการด้วยครับ"

ส่วนตามที่มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการสถานศึกษามีมติให้ย้าย (อดีต) ผู้อำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 21 แม่ลาน้อย พ้นจากหน้าที่ และมีผลในทันที 'นายสง่า สายสวาท' ประธาณคณะกรรมการสถานศึกษา ชี้แจงว่า

"ในเหตุการณ์นั้นผมไม่รู้อะไรเลยนะ ณ วันนี้รู้เพียงว่าทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ย้าย ผอ.เข้าส่วนกลางไปแล้ว ผมพอจะทราบแค่นี้ ส่วนมติขับ ผอ. ผมมั่นใจ เชื่อใจ ยืนยันว่าไม่ได้พูด

ไปถามคณะกรรมการท่านอื่นก็ได้ ไม่มีการประชุมเกิดขึ้น เพราะช่วงที่เกิดเหตุ ผมไปนอนโรงพยาบาลรักษาโควิด และไข้เลือดออก ข่าวที่ว่าเป็นมติของคณะกรรมการนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริง พวกผมไม่ได้ประชุม"

เราต้องติดตามกันต่อไปว่า 'เหตุการณ์' นี้จะเป็นอย่างไร หากมีความคืบหน้า ทีมข่าวฯ จะรายงานให้ทราบต่อไป.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

ภาพ : ป.ป.ท.เขต 5

อ่านบทความที่น่าสนใจ :