เปิดสถิติอาชญากรรม ปี 2566 ภาพรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ทั้งฆ่า พยายามฆ่า และข่มขืน "วิรุตม์" ชี้ ตัวเลขไม่สะท้อนความจริง เพราะบางครั้ง...สอบปากคำ ทำเหมือนจริง ทิ้งภายหลัง?
ในปีกระต่ายที่ผ่านมา ประเทศไทยมีคดีที่เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ โดยมีการแจ้งความ 17,848 คดี จับกุมได้ 16,678 คดี จำนวนคนร้าย 22,045 คน เรียกว่า จับกุมได้ 93.44%
โดยคดีที่ก่อเหตุมากที่สุด คือ การทำร้ายร่างกาย 9,616 คดี รองลงมาคือ พยายามฆ่า 2,241 คดี ข่มขืน 1,885 คดี และฆ่าผู้อื่น 1,308 คดี
ในขณะที่ฐานความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ภาพรวมมีการแจ้งความ 58,765 คดี จับกุมได้ 48,070 คดี มีผู้กระทำความผิด 58,006 คน ผลการปฏิบัติงานที่จับได้ 81.8%
สำหรับคดีที่มีคนร้ายก่อเหตุมากที่สุด คือ คดีลักทรัพย์ 27,148 รองลงมา การฉ้อโกง (ไม่รวมคดีออนไลน์) 11,874 คดี ยักยอกทรัพย์ 6,218 คดี
นี่คือภาพรวมที่เกิดขึ้นในปี 2565/2566 (ข้อมูล สตช. เก็บระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 ถึง 30 ก.ย. 66) คำถามคือ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2565 ล่ะ เป็นอย่างไร คำตอบของคำถามนี้ คือ “เพิ่มขึ้น” เพราะภาพรวมในปี 2565 (ข้อมูล วันที่ 1 ต.ค. 64 ถึง 30 ก.ย. 65) คดีความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย มีแจ้งความ 15,038 คดี จับกุมได้ 14,395 คดี มีผู้กระทำความผิด 17,980 คน แบ่งเป็นคดีทำร้ายร่างกายมากที่สุด 6,985 คดี รองลงมา พยายามฆ่า 1,732 คดี ข่มขืน 1,577 คดี และฆ่าผู้อื่น 1,210 คดี
...
พ.ต.อ.วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม กล่าวกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า โดยตั้งข้อสังเกตว่าสถิติน่าจะน้อยกว่าความเป็นจริงมาก โดยเฉพาะคดี “ลักทรัพย์” จะน้อยกว่าความจริงมาก ถ้าให้ประเมิน คือ อาจจะมากถึง 80%
สาเหตุเพราะคดีที่ไม่รู้ตัวผู้กระทำผิด ตำรวจมักไม่ทำเป็นคดี การที่จะเป็นคดีความได้ ต้องมี “เลขคดี” ดังนั้น บางครั้งการรับแจ้งความไม่เป็นคดีก็มี
“เมื่อเป็นเช่นนี้ ชาวบ้านเขาก็ไม่รู้จะไปร้องกับใคร ก็ไปร้องกับ กัน จอมพลัง, สายไหมต้องรอด หรือแม้แต่โหนกระแส ไปร้องกับ “สายไหมต้องรอด” พาไปออกสื่อ นี่คือ ปัญหาที่เลวร้ายมาก”
หน้าที่ตำรวจ = ป้องกันอาชญากรรม จับคนร้าย ไม่ใช่ผลงาน!
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า หน้าที่ของ “ตำรวจ” ที่แท้จริง คือ การป้องกันอาชญากรรม และการจับกุมคนร้ายได้ ไม่ใช่ผลงาน ไม่ใช่ความชอบ สมัย ร.5 ท่านเคยตรัสไว้ “จับคนร้ายไม่ใช่ความชอบ แต่การป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่างหาก คือความชอบ”
เมื่อถามว่า การป้องกันจะพิสูจน์ผลงานอย่างไร... พ.ต.อ.วิรุตม์ ชี้ว่า เรื่องนี้ไม่ยาก...เพียงแต่ตัวเลขที่สะท้อนออกมาต้องเป็นความจริง และที่ผ่านมาตำรวจถูกแยกออกมาจาก ก.มหาดไทย ทำให้ขาดการตรวจสอบ เมื่อก่อนมีการประชุมร่วมกัน มีตัวเลขออกมาเทียบกันบ้าง แต่เมื่อแยกออกมา จึงไม่มีการทำตัวเลข
“สิ่งที่อยากฝากถึง ผบ.ตร. คือ ขอแค่ท่านควบคุมลูกน้องไม่ให้แตกแถว ด้วยการก่ออาชญากรรมเสียเอง หรือรังแกชาวบ้าน ก็เพียงพอแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาคนในเครื่องแบบ โดยเฉพาะตำรวจ กลายเป็นคนร้ายก่ออาชญากรรมมากมาย และที่ไม่เป็นข่าวอีกเท่าไร ในคดีล่าสุด ที่ตำรวจยิงบนทางด่วน เรื่องนี้เลวร้ายหรือไม่ ถ้าเป็นตำรวจญี่ปุ่น ผบ.ตร. อาจจะลาออกแล้วก็ได้”
เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ระบบการตรวจสอบตำรวจในประเทศไทยมันอ่อนมาก แทบจะไม่มีอะไรควบคุมได้ ยกเว้นกรรมาธิการตำรวจ แต่ในช่วงที่ผ่านมาก็มีปัญหาด้านการควบคุม โดยมีคนของรัฐบาลเข้ามาดูแล
“สรุปคือปัญหาอาชญากรรมในปัจจุบัน มันรุนแรงเกินกว่าสถิติตัวเลขที่บ่งบอกหลายสิบเท่า ฉะนั้น ประชาชนก็ต้องดูแลตัวเอง อย่าฝากความหวังมาก ยกตัวอย่างคดีล่าสุด ผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกลักกระเป๋าเงิน แจ้งความแล้วก็รู้สึกเหนื่อย และต้องตามสืบเอง สุดท้ายโพสต์ว่าขอกระเป๋าเงินคืน แถมเงินให้ 2,000 บาท เพราะอยากได้เอกสาร สิ่งที่เกิดนี้สะท้อนอะไร...?”
...
พ.ต.อ.วิรุตม์ กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมในชั้นตำรวจปัจจุบัน คนจนๆ แทบหมดสิทธิแจ้งความ เพราะข้อเท็จจริงบางคดี คือ เขาจะไม่ทำอะไรเลย แต่จะบอกว่า “เหมือนทำ” ประมาณว่าสอบปากคำ ทำเหมือนจริง ทิ้งภายหลัง...
ที่สำคัญ รัฐบาลหลายรัฐบาล ก็คล้ายเป็นการส่งเสริม คือ มองเห็น...แต่ไม่แก้ปัญหา การไม่แก้ปัญหาก็เหมือนการส่งเสริม คนที่เป็นนายกฯ มองอย่างไร ที่ประชาชนไปร้องกับ กัน จอมพลัง กับ สายไหมต้องรอด แบบนี้เห็นว่าเป็นความผิดปกติในชั้นการสอบสวนหรือไม่ ยุติธรรมแห่งปี ควรให้ “หนุ่ม กรรชัย” นะ เขาเอามาออกรายการกี่ร้อยคดี และคดีนั้นๆ มักได้ผลด้วย
“เมื่อเป็นข่าว ตำรวจก็จะขมีขมัน แปลว่า หากจะจับคนร้ายจริงๆ ก็ทำได้ เพราะเดี๋ยวนี้มีกล้องวงจรปิดทั่วเมือง หากคุณเช็กและทำ ก็ตามจับได้”
...
เมื่อถามว่า การลงพื้นจับกุม จำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายหรือไม่ ตำรวจชั้นผู้น้อยขาดงบการทำคดีหรือไม่ พ.ต.อ.วิรุตม์ บอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น ถ้าขาดงบก็ต้องบอกเจ้านาย บอกสารวัตร ผู้กำกับ ผู้บังคับการ หรือ ผบ.ตร. กลับกัน พยาบาลบอกว่า ไม่มีเข็มฉีดยา แบบนี้จะโทษใคร...
สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงได้ คือ การเปลี่ยนรัฐบาล คือ ต้องได้รัฐบาลที่มีแนวคิดการปฏิรูปตำรวจจริงๆ เดี๋ยวนี้ประชาชนเขาไม่ได้มองที่นโยบายลดแลกแจกแถม แต่มองเรื่องการปฏิรูป ตำรวจในประเทศที่เจริญแล้วเขามีพลัง ประชาชนเห็นตำรวจเขามองเหมือนกฎหมาย อย่างเช่น อังกฤษ คนเห็นตำรวจ เขาบอกว่า The Law is coming ส่วนประเทศเรา กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวาดกลัว กลัวโดนยัดของกลาง ใช้อำนาจเกินขอบเขต เรียกตรวจค้นโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่น่าสนใจ
...