ปีนี้ประเทศไทยอากาศร้อนที่สุดมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 8 ปี ตั้งแต่กลางเดือน มี.ค. และเดือน เม.ย. จะยิ่งร้อนอบอ้าวและร้อนจัดในหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงที่สุด 40-43 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะจังหวัดสุโขทัย ตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุด 38-39 องศาเซลเซียส ก่อนจะสิ้นสุดฤดูร้อนในช่วงกลางเดือน พ.ค. แต่คาดกันว่าอากาศจะร้อนยาวนานไปถึงเดือน ก.ย. ด้วยซ้ำไป

จากสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ อุณหภูมิมากกว่า 35 องศาเซลเซียสขึ้นไป สามารถฆ่าคนให้ตายได้ จากภาวะฮีตสโตรก หรือโรคลมแดด มีสาเหตุหลักมาจากความร้อนที่สูงและอบอยู่ในร่างกาย จนร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกไปได้ นอกจากนี้ยังเกิดจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์สูง จะทำให้ร่างกายไม่สามารถขับเหงื่อออกมาได้เช่นกัน ทำให้ไม่มีทางออกของอุณหภูมิ ส่งผลให้ความร้อนในร่างกายสูงขึ้น



ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากภาวะฮีตสโตรกไม่มากนัก หากเทียบกับบางประเทศที่อากาศร้อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีคนไทยเสียชีวิตจากฮีตสโตรกมากขึ้น เพราะหลายคนมีความจำเป็นต้องออกไปพื้นที่กลางแจ้งแดดจัด แม้แต่การอยู่ในพื้นที่อับ ร้อนจัด มีความชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก จะมีความเสี่ยง รวมถึงกลุ่มเสี่ยงจะต้องระวังทั้งทารก เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการทางสมอง เป็นโรคหัวใจ และความดัน

...

ไม่เท่านั้น คนอ้วน คนที่ดื่มสุรา เบียร์ ของหวาน จะมีความเสี่ยงสูงมาก เพราะร่างกายไม่สามารถปรับตัวกับความร้อนที่เพิ่มสูงได้ และสิ่งที่ดีที่สุดต้องให้ดื่มนํ้า อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หากอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 41 องศาเซลเซียส มีอาการผิวแห้ง ชีพจรเต้นเร็วและแรงผิดปกติ เป็นภาวะฉุกเฉินวิกฤติ อาจทำให้หมดสติ ถึงขั้นเสียชีวิตได้.