ตอนนี้มี 2 ข่าวใหญ่ ที่คนไทยในสังคมโซเชียลมีเดียให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง คือ การหลุดรอดออกมาจากโรงไฟฟ้าของ ซีเซียม-137 สารกัมมันตรังสี ที่อันตรายต่อชีวิตคน ซึ่งเวลายังไม่แน่ชัดว่า ที่พบสารของ ซีเซียม-137 ในโรงหลอม ที่ จ.ปราจีนบุรี ใช่แท่งเดียวกับที่หลุดออกมาหรือไม่...แต่เบื้องต้น จากการตรวจของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ยังคงยืนยันว่า ยังไม่หลุดและยังไม่มีอันตราย

ส่วนอีกประเด็น คือ ข่าวฮอตในวงการบันเทิง ที่มีข่าวคำใบ้ดารายุค 90 ได้หย่ากับภรรยา ส่วนจะเป็นใครที่เดาไว้หรือไม่ คาดว่าไม่นานก็คงชัดเจน

ที่ผ่านมา มักมีคำพูดว่า “คนเดี๋ยวนี้เลิกกันง่าย” แม้จะเป็น “คำพูดลอยลม” แต่ก็มีส่วนจริง เพราะจากสถิติสำนักทะเบียนราษฎร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ประมวลผลโดยกองพัฒนาข้อมูลและตัวชี้วัดสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ย้อนหลัง 5 ปี พบว่า สถิติการ “หย่าร้าง” เพิ่มขึ้น จนเกือบจะ 50% ของคนที่จดทะเบียนสมรส ที่สถิติ 5 ปีหลัง ตั้งแต่ 2560-2564 มีตัวเลขที่น่าสนใจ 

...

นางสุทธินี เมธีประภา อดีตนายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ประธานมูลนิธิผู้ช่วยเหลือเยาวชนสยาม กล่าวว่า ปัจจัยหลักในการ “หย่าร้าง” ของไทยมากที่สุด อันดับ 1 มาจากเรื่อง “ความรุนแรงในครอบครัว” โดยเฉพาะฝ่ายสามีทำร้ายร่างกายภรรยาจนทนไม่ไหว ถึงแม้จะพยายามไกล่เกลี่ยแล้ว จนไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้

อันดับ 2 “นอกใจ” มีกิ๊ก มีเมียน้อย และยกย่องคนใหม่ ซึ่งสถิติใกล้เคียงกับ “ความรุนแรงในครอบครัว”

อันดับ 3 ไม่รับผิดชอบ ไม่ดูแลครอบครัว

อันดับ 4 ปัญหายาเสพติด ซึ่งปัญหานี้มักบานปลายด้วยการทำร้ายร่างกายคู่รักด้วย

“ต้องยอมรับว่า สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปมากตามยุคสมัย ฉะนั้น ทัศนคติของคนยุคนี้ จะไม่ทนต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และที่สำคัญคือ บางคู่แม้จะรู้ว่าเขามีสามีหรือภรรยาอยู่แล้ว ฝ่ายที่เป็นกิ๊กก็ไม่สนใจ ไม่สนจริยธรรม ยกตัวอย่างเช่น “สามี” นอกจากภรรยา แล้วมี “ผู้หญิงอื่น” ฝ่ายเมียน้อยหรือกิ๊ก เขาก็จะตอบว่า ให้ฝ่ายชายเลือกว่าจะเลือกใคร โดยไม่สนว่า สามีคนนี้จะมีลูกหรือภรรยาต้องดูแลหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้น มันสะท้อนถึงจริยธรรมในด้านนี้ ที่ลดน้อยถอยลงไป”

นางสุทธินี เผยว่า ปัจจุบัน คนจดทะเบียนสมรสน้อยลง ก็ส่งผลให้มีการเลิกรากันง่ายขึ้น หรือบางครอบครัวยอมรับได้ที่จะมี 3 คน

ที่ผ่านมา ได้มีการช่วยเหลือด้านกฎหมายประสบความสำเร็จบ้างหรือไม่ อดีตนายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ยอมรับว่า ก็มีหลายคู่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่บางคู่ก็ยอมปรับตัว ปรับพฤติกรรม เพราะเห็นแก่ลูก โดยใช้วิธีการแยกกันอยู่ชั่วคราว ที่สำคัญคือ ปัจจุบันมี พ.ร.บ.ป้องกันความรุนแรงในครอบครัว พอเริ่มมีปัญหา ก็จะมีสหวิชาชีพเข้ามาช่วยเหลือให้คำปรึกษา พาพบแพทย์ มีการไกล่เกลี่ยในชุมชน เป็นต้น

“ปัญหาครอบครัวที่แก้ไขไม่ได้เลย คือ ปัญหาเรื่องยาเสพติด เป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะเวลาที่มีการไกล่เกลี่ย ก็มักจะยอมรับความผิดทั้งหมด แต่พอถึงเวลากลับไปในครอบครัวก็จะเป็นแบบเดิม เสพยา ทำร้ายคนในครอบครัว ถึงแม้จะทำสัญญาว่าจะไม่ทำอีก แต่สุดท้ายก็ลงมือทำแบบเดิม” นางสุทธินี กล่าว

คนที่ติดเหล้ายังพอคุยได้ แต่ติดยานี่ยากมาก ยกตัวอย่าง มีทั้งหมด 20 เคส ช่วยกลับมาได้ 3 เคส ถือว่าประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่แล้ว...

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาจากการช่วยเหลือ 100% กลับมาเป็นครอบครัว ยกเลิกการหย่ากี่เปอร์เซ็นต์ อดีตนายกสมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย กล่าวว่า 85% ยังคงทำการหย่าต่อไป ส่วนอีก 15% เปลี่ยนใจ เพราะเห็นแก่ลูก

“ปัญหาการมีหญิงอื่นหรือชายอื่น แม้ปากจะบอกว่า “เลิกกัน” แต่ก็พบว่า ส่วนมาก ยังแอบติดต่อกัน มันเลิกกันไม่ค่อยขาด มันไม่เหมือนสิ่งของที่ทิ้งแล้วก็ทิ้งไปได้”

...

เมื่อถามว่า คนที่เข้ามาปรึกษาการหย่าร้างเป็นคนวัยไหน นางสุทธินี กล่าวว่า อายุ 30-45 ปี หรือ บางเคส 50 ปี แต่มากที่สุดจะอายุราว 40 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะปัญหาสามีไปมีหญิงอื่น และสาเหตุที่ต้องเลิกกัน เพราะสามีไม่ส่งเสียเลี้ยงดู

“ส่วนมากที่เข้ามาปรึกษาด้านกฎหมาย คือ เพราะ “อยู่กันไม่ได้แล้ว” แต่เข้ามาเพราะต้องการปรึกษาปัญหาด้านกฎหมายในการฟ้องร้อง เพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูบุตร ประมาณ 70% ซึ่งผู้หญิงกลุ่มนี้จะไม่อยากได้สามีคืนแล้ว และยินดีหย่า”

การหย่าเพิ่มขึ้น... ถือเป็นเรื่องปกติของคนยุคนี้ เพราะผู้หญิงสมัยนี้ทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ต้องขอเงินผู้ชายเหมือนคนยุคเดิม เขาจึงต้องทน ในขณะที่ผู้ชายบางคนก็ยังคงติดยึดกับสมัยก่อน ที่ผู้หญิงต้องทำงานบ้าน และมองว่าลูกเมียเป็น “สมบัติ” ของตนเอง แม้จะเลิกกันไปแล้ว แต่พอทราบว่าผู้หญิงมีคนใหม่ ก็กลับมาข่มขู่ ทำร้าย หรือแม้แต่ฆาตกรรมก็มี

ผู้หญิงจะมีความอดทนมากกว่าผู้ชาย บางครั้งแม้จะทำงานข้างนอกมาเหนื่อยแค่ไหน ก็กลับมาทำกับข้าว คอยเอาใจ แต่พอวันหนึ่งเขาเหนื่อย เขาทำไม่ไหว ความอดทนของเขาก็มีจำกัด จึงทำให้มีการทะเลาะเบาะแว้ง และมีการหย่าร้างกันมากขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัวก็เป็นสิ่งสำคัญ

...

“เวลาการอยู่ร่วมกันก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ บางคู่ เช่น ดารานักร้อง ทำงานไม่ตรงเวลา และส่วนใหญ่เลิกกันก็เหมือนกับคนอื่นๆ โดยมีสาเหตุหลัก คือ การไปมีหญิงอื่น รองลงมา คือ ไม่เลี้ยงดู ดูแลชีวิตคู่ มันจำเป็นต้องใช้ความอดทน และแลกเปลี่ยนความรู้สึกกัน”

เมื่อถามว่า “การหย่าร้าง” คือ “ทางออก” ไหม นางสุทธินี กล่าวว่า ถ้าครอบครัวนั้นมีลูกต้องดูแล ก็ต้องคุยกันให้ดี สิ่งสำคัญ คือ ลูก ฉะนั้น พ่อแม่ต้องคำนึงถึงลูกมากที่สุด ขณะเดียวกัน หากคู่นั้นจบลงด้วยดี ลูกเข้าใจ ก็อาจจะเป็นทางออกทางหนึ่ง

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน

อ่านบทความที่น่าสนใจ