ชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเอง หรือชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Rapid Antigen Test) รู้ผลภายในเวลาประมาณ 30 นาที กำลังเป็นอุปกรณ์ที่เป็นความหวัง ในการช่วยให้การแยกผู้ติดเชื้อโควิด-19 ออกจากผู้อื่นได้เบื้องต้น เพื่อลดการแพร่ระบาด
การได้ผลตรวจเป็นบวก คือมีเชื้อ หรือเป็นลบ ไม่มีเชื้อนั้น มีแนวทางการปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่ประกาศในวันที่ 12 ก.ค. ดังนี้
กรณีผลทดสอบเป็นบวก หรือพบเชื้อโควิด ให้ปฏิบัติตัวดังนี้
1. แจ้งหน่วยบริการใกล้บ้านที่ติดต่อได้
2. แยกกักตัวเองจากผู้อื่น เพื่อลดการแพร่เชื้อ เช่น
แยกห้องน้ำ ของใช้ส่วนตัว หลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์เลี้ยง สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
3. สังเกตอาการตนเอง วัดอุณหภูมิประจำ ถ้ามีอาการหายใจลำบาก ให้ติดต่อขอรับการรักษาทันที
4. แจ้งผู้ใกล้ชิดกับตนเอง ให้ทราบความเสี่ยงจากการสัมผัส และควรได้รับการทดสอบการติดเชื้อต่อไป
กรณีผลเป็นลบ หรือไม่พบเชื้อ แต่ก็ยังไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ยังต้องปฏิบัติตัวดังนี้
1. ถ้ามีความเสี่ยงสูง เชื้ออาจอยู่ในช่วงฟักตัว ต้องแยกตัวจากผู้อื่น และตรวจซ้ำภายใน 3-5 วันต่อมา เป็นระยะๆ ครบ 14 วัน
2. หากแสดงอาการของการติดโควิด-19 ให้ตรวจซ้ำทันที หรือควรไปสถานพยาบาลรับการตรวจ แบบ RT-PCR
...
ขณะเดียวกันในต่างประเทศมีการใช้ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน (Rapid Antigen Test) นี้แล้วหลายประเทศ และมีแนวปฏิบัติไม่ต่างกันมากนัก เช่น สหรัฐอเมริกา โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ได้ประกาศแนวทางปฏิบัติไว้ โดยเฉพาะผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะมีอาการ หรือไม่มีอาการ ต้องกักตัว 14 วัน หากผลตรวจเป็นบวก ก็เข้าสู่กระบวนการรักษา ส่วนกรณีผลตรวจเป็นลบ ให้ตรวจซ้ำทุก 3-7 วัน จนครบ 14 วัน เช่นกัน.