อะไรคือความน่าสนใจของการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ในสายตาของ นันทขว้าง สิรสุนทร...
คำว่า "เข็มทิศ" และ "ตาชั่ง" ที่ใครต่อใคร ให้ค่ากับ "ลูกโลกทองคำ" ในยุค 80s-90s นั้น ความหมายของมันก็คือ เมื่อลูกโลกทองคำให้รางวัลหนังเรื่องใดนั้น"...ออสการ์" ก็จะมีคำตอบที่คล้ายๆกันด้วย เนื่องเพราะการจัดงานมักจะใกล้กัน
เรียกว่าถ้าเปรียบเป็นระยะวิ่ง - ขณะที่สมาคม สมาพันธ์ หรือชมรมนักวิจารณ์ ประกาศก่อนใคร - ลูกโลกทองคำ จะอยู่ช่วงกลาง และออสการ์ ปิดท้าย
ปีนี้ วันที่ 8 มกราคม 2024 ลูกโลกฯ จะประกาศรางวัล โดยเพิ่มมาอีกสองสาขาคือ cinematic กับ box-office achivement .... แล้วรางวัลที่วิ่งๆ เดินๆ มาถึงปีที่ 81 ชื่อนี้ มีอะไรเปลี่ยนไป หรือคงเดิม เราลองมาหมุน ลูกโลกทองคำ ให้ช้าลง...
ในแง่เรตติ้ง - คนดูคนติดตามรางวัลนี้ น้อยลงจากอดีต อาจจะมีหลายเหตุผล แต่หนึ่งในนั้น น่าจะมาจากการที่ "ผู้หลักผู้ใหญ่" ของลูกโลก มีข่าว "ตุ๋ย" หรือล่วงละเมิดทางเพศ ราวๆ 5-6 ปีที่แล้ว
...
เมื่อรับกันมา ก่อนหน้า กับเทรนด์กระแสของ me too, woke ก็ทำให้รางวัลนี้หม่นไปพอสมควรจากเรื่องนอกเวที (หลังจากวงการหนัง หมองไปมาก จากไวน์สตีน ที่เล่นเถิดเทิงกับสาวๆ ในวงการเป็นร้อยๆ คน)
การพยายาม "กลับมา" ของลูกโลกฯ จึงอยู่ที่คนมาลีดงานที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่ง และตัวหนังที่น่าสนใจมีสีสัน ซึ่งอย่างที่ทราบ - คณะกรรมการคือ สื่อต่างประเทศที่มีเบสทำงานในลอสแอนเจลิส
ต่างจาก "ออสการ์" ที่กรรมการหรือ voter เกือบหมื่น มาจากผู้คนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ...แม้แต่ช่างแต่งหน้า ก็ลงคะแนนได้
หลายปีมานี้ หนังรางวัลของ "ออสการ์" เป็นสาย minority เป็นเรื่องราวของคนนอก คนชายขอบ คนตัวเล็กๆ ในสังคม แต่กับ "ลูกโลกทองคำ" ปีนี้ หนัง 6 เรื่องที่เข้ามาชิง มีลักษณะของ American for American กล่าวคือ นอกจากฐานรางวัล คือ L.A. แล้ว
4 ใน 6 ยังเล่าเรื่องราวของ American history อีกด้วย ทั้งทางตรงและอ้อม ไม่ว่าจะเป็น compusure ชาวอเมริกันกับคู่ชีวิต (หนังเรื่องนี้มีโปรดิวเซอร์ตั้ง 5-6 คน) ใน maestro, นักฟิสิกส์นิวเคลียร์อย่าง โรเบิร์ต ออพเพนไฮเมอร์ ในหนังชื่อเดียวกัน, ทุนนิยมคนขาวกับผู้มาก่อนประวัติศาสตร์อเมริกันใน Killer of the Flower Moon หรือหนังที่ผมชอบสุดแห่งปีอย่าง Past Lives ซึ่งกินที่ทางระหว่างเกาหลีและพื้นที่อเมริกัน
จะเห็นว่า โดยเรื่องราว... หนังที่เข้าชิงสายดราม่าของลูกโลกทองคำปีนี้ แกร่งมาก เรียกว่า เรื่องไหนใน 6 ชื่อนี้ชนะ ล้วนเหมาะสมหมดแบบ "หลับตาจิ้ม" ก็ยังได้
อย่างที่ทราบว่า ลูกโลกค่อนข้างได้เปรียบรางวัลหลายชื่อ ตรงที่มีความเป็นวาไรตี้มากกว่า ในการจัดรางวัล เป็นทั้งเวทีของคนทำงานหนังและทีวี ยังมีแบ่งสาย อีกกลุ่ม
...
แต่โดยจริต ลูกโลกฯ ก็รีแลกซ์มากกว่าออสการ์อยู่แล้ว จากการจัดโต๊ะเก้าอี้ งานของลูกโลก นั่งกันเหมือนโต๊ะจีน ใครจะลุกจะเดิน ก็ไม่มีกฎมาขวาง บางทีบางครั้ง มีการตะโกนแซวอีกอย่างเหมาะสม
รูปแบบที่เป็นแบบนี้มานาน สะท้อนว่า ลูกโลกเป็นรางวัลที่ ผ่อนคลายกว่า ออสการ์ ซึ่งรูปแบบจัดงาน ก็เคร่งขรึม ตั้งแต่ใส่สูทดำ และ blocking การเดินของดารา มีลักษณะตายตัว ส่วนการจะลุกไปมา ต้องรอเบรกโฆษณา แถมการขอบคุณของผู้ชนะบนเวที กำหนดไว้ที่ 45 วินาที (หากยังไม่เปลี่ยนแปลง)
ในแง่ของคณะกรรมการ หรือ voter ผมว่า ลูกโลกทองคำ มีการเปลี่ยนแปลง ช้ากว่าออสการ์ เพราะขณะที่ออสการ์ เอาเข้าเอาออก กลุ่ม voter เช่น เอาพวก white male อายุมากๆ ออกไป เอา younger รุ่นใหม่สายฟิล์มมาแทน ลูกโลกยังยึดฐานสื่อต่างประเทศ ซึ่งสัดส่วนนี้ ไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
สิ่งเดียวที่งดงามมายาวนานคือ นี่คือรางวัลของวงการหนังและทีวี ที่เป็นกำลังใจสำหรับผู้กำกับ นักแสดง คนเขียนบท
...
ดาราท่านหนึ่งกล่าวไว้ใน Variety ว่า..."ถ้าตลอดชีวิตการแสดง จะไม่ได้ออสการ์เลย การได้ลูกโลกทองคำสักครั้ง ก็ไม่ขี้เหร่เกินไป" วันที่ 8 มกราคมนี้ เช้าๆ... เรามาลุ้นกัน
อ่านบทความ "นันทขว้าง สิรสุนทร" เพิ่มเติม :