Fallen Leaves หนังอาร์ตเฮาส์ ภายใต้เงา Absurd ความสิ้นหวัง นิ่งเฉย สนุกสนาน และดีมากแห่งปี...
สำหรับใครที่ไม่สนใจ "หนังอาร์ตเฮาส์" หรือภาพยนตร์นอกกระแส ถ้ากดเข้าไปดูคะแนนของ "Fallen Leaves" ใน Rotten อาจแปลกใจว่า ทำไมมันสูงกว่า หนังแทบทุกเรื่องของปีนี้
อันที่จริง คะแนนหนังของเว็บต่างๆ นั้น-ฟังหูไว้หู ไว้บ้างก็ดี ในยุค Social ท่วมเมือง หนังหลายเรื่อง มี "กองกำลัง Social จัดตั้ง" คอยกดไลค์อยู่ในชั้นหนึ่ง
แต่สำหรับ หนังฟินแลนด์เรื่องนี้ ผมพิสูจน์ด้วยการไปดู "รอบสื่อ" คืนวันลอยกระทง ที่ House Samyan และขับรถกลับบ้าน ด้วยความสุข...
"อันมา ปอยสตี" มารับบท "อันซา" เธอนั่งฟังวิทยุด้วยสีหน้าเย็นชากับข่าว "รัสเซียบุกยูเครน" แต่ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะในชีวิตประจำวันของ อันซา ก็ไม่เคยมีสีสันอะไร จะทำงานซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือโดนไล่ออกเพราะแอบเอาของหมดอายุกลับบ้าน เราก็เห็นเธอนิ่งเฉย เย็นชา ตลอดเวลา
...
อีกคนที่ "ชาเย็น" และไม่รู้สึกรู้สาอะไรด้วย ก็คือ "โฮลาปปา" (จัสซี วาตาเนน) หนุ่มติดเหล้า สูงยาวเข่าดี ที่ไม่มีอนาคต ทำงานที่ไหน ก็มักจะโดนไล่ออก ด้วยข้อเสียของตัวเอง (ในแง่ละครเวที เขาเป็น tragic คือ ข้อเสียตัวเอง ทำลายตัวเอง)
ทั้ง โฮลาปปา กับ อันซา มาพบกันโดยบังเอิญในผับบาร์ แล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ที่จะสาน-จะรอดไหม? คงต้องไปดูเอาเอง
ผู้กำกับ "อากิ เคาริสมากิ" ทำหนังเรื่องนี้ออกในแนวทางของ "แอบเสิร์ด" (absurd) แล้ว แอบเสิร์ด คืออะไร?
อย่างแรก, หนังหรือละครแนวนี้ มักจะนำเสนอออกมาแบบตลก แต่ไม่ดูง่าย... ออกจะแนว "ขำลึก" หรือหัวเราะอยู่ในใจ
นี่เป็นเหตุผลว่า คนดูส่วนมากเลย ก็จะงงๆ กับอาการไม่ตลกแต่น่าขำ หรือตลกแต่ไม่หัวเราะของ โฮลาปปา กับ อันซา
ประการต่อมา, แอบเสิร์ด จะเน้นให้เห็นถึง "ความว่างเปล่า ไร้จุดหมาย" ของตัวละคร กล่าวคือ คนดูก็นึกสงสัยว่า สิ่งต่างๆ ที่เราเห็น อันซา กับ โฮลาปปา ทำ นั้น มันมีประโยชน์อะไร หรือ ทำไปทำไม?
แอบเสิร์ด เป็นแนวทางต่อต้าน "แนวทางแบบเก่าๆ" สายขนบ จารีต คลาสสิก ขณะที่สายจารีต บอกว่า โลกต้องดีงาม เดินตามสเตป 1-2-3-4 แต่ แอบเสิร์ด จะเถียงว่า ไม่มีอะไรดีขึ้น
สงครามที่จะรบ เพื่อยุติสงครามได้แบบที่หลายคนคิด-ที่สุด สงครามจะไม่เคยหายไป (นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไม ข่าวสงคราม จึงถูกใส่แทรก เข้ามาเป็นระยะๆ ผ่านข่าววิทยุ ผ่านการคุยของตัวละคร และผ่านข่าว นสพ.)
น้ำหนักอีกประการหนึ่ง "แอบเสิร์ด" เกิดช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเกิดจากแนวคิดสงครามนั่นเอง
เรื่องต่อมา ที่ไม่ยกมาอ้างไม่ได้คือ แนวทางของ absurd ไม่ว่าหนังหรือละครเวที ตัวละครมักเหมือน "หุ่นยนต์" ไม่มีความรู้สึกที่จะแสดงออกมา หรือมีอารมณ์ร่วมใดๆ กับเรื่องชีวิตประจำวัน
...
เราได้เห็นว่า แม้ในการเดตที่น่าจะแสนหวาน ของ อันซา กับ โฮลาปปา ก็เหมือนกับ หุ่นยนต์ ออกเดตกับ โรบอต
ฉากกินข้าว ฉากนั่งโซฟา ฉากไปดูหนัง-เย็นชืด จืดสนิท นั่นเพราะ "แอบเสิร์ด" ต้องการจะวิจารณ์ว่า ทุนนิยมได้ทำลายชีวิตคน จนไม่มีชีวิต (ในแง่นี้ โรงงานได้ไล่ออกทั้งสองคน ด้วยข้อหาเล็กน้อย)
ส่วน "ลักษณะสำคัญ" ของ "แอบเสิร์ด" ที่ไม่จำเป็นก็คือ การเล่าเรื่อง เดินเรื่อง ของหนัง มักไม่ปะติดปะต่อ มักไม่เรียงลำดับขั้นตอน ต่อเนื่อง เหมือนดูหนัง โดดไปโดดมา (สำหรับคนที่สนใจแนวนี้ ลองศึกษางานของ มาร์ติน เอสลิน, ยูจีน อีโอเนสโก คนหลังนี้ สาย absurd เลย)
...
มีคนมาถามผมว่า Fallen Leaves ดีไหม? ต้องตอบว่า ดีมากแห่งปี เรื่องหนึ่งที่ได้ดูในปีนี้ แต่ต้องออกตัวก่อนว่า ในเวลาชั่วโมงครึ่งของหนัง การเดินเรื่อง จะไม่เหมือนกับแนวทางหนังที่คุณ "คุ้นเคย" มา
สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ปีนี้หนังที่ผมชอบมาก และกำลังจะจัดอันดับลง "ไทยรัฐออนไลน์" เป็นหนังช้าทั้งหมด หรือถึงเวลา พวกเรา "หมุนโลกให้ช้าลง".
อ่านบทความ "นันทขว้าง สิรสุนทร" เพิ่มเติม :