Moving การแกะรอยเพื่อค้นหาคำตอบ Season2 จะได้ไปต่อ หรือ พอแค่นี้...
"ซีรีย์ Moving" กลายเป็นระดับ “ปรากฏการณ์” ไปในทันที หลังมันกลายเป็นซีรีย์เกาหลีที่มีผู้เข้าชมสูงสุดตลอดกาลของ "Disney+" นับตั้งแต่มีการเปิดตัวในเกาหลีใต้เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 เป็นต้นมา โดยรายงานของ Parrot Analytics บริษัทวิเคราะห์แพลตฟอร์มด้านความบันเทิง ระบุว่า "Moving" เป็นซีรีย์ที่มีผู้ต้องการรับชมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ โดยได้รับความนิยมมากกว่ารายการทีวีทั่วไปของเกาหลีใต้ ถึง 16.8 เท่า ในห้วงระหว่างวันที่ 4 สิงหาคม ถึงวันที่ 2 กันยายน
...
นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Wiseapp บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดของเกาหลีใต้ ยังระบุอีกว่า ค่าเฉลี่ยการใช้งานรายสัปดาห์ของ Disney+ บนสมาร์ทโฟนของชาวเกาหลีใต้ ยังเพิ่มสูงขึ้นถึง 211% เมื่อเปรียบกับระหว่างช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน กับ ช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฏาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ Disney+ ยังไม่มี... “Moving” ออนแอร์
หมายเหตุ : เวลาการใช้งาน Disney+ บนสมาร์ทโฟน (ทั้ง iOS และ Android) ของชาวเกาหลีใต้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกรกฏาคม (ซึ่งยังไม่มี Moving ออนแอร์) อยู่ที่เพียง 63 ล้านนาที ส่วนในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นถึง 196 ล้านนาที!
หากแต่ที่สิ่งที่ดูจะเป็น “แนวโน้ม” ที่มี “นัยยะสำคัญ” ว่า “Moving” ซึ่งปัจจุบันรูดม่านจบซีซั่น 1 ไปเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่าน น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งคอนเทนท์อันแข็งแรงของ Disney+ สำหรับการต่อสู้ในศึกสตรีมมิ่งอันเชี่ยวกรากในปัจจุบันก็คือ Moving นอกจากจะเป็นที่นิยมชมชอบของกลุ่ม GenZ เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังเป็นซีรีย์ที่มีผู้ต้องการรับชมมากกว่ารายการทีวีโดยเฉลี่ย (4สค.-2กย.) ในประเทศอินโดนีเซียถึง 6.88 เท่า , จีน 6.36 เท่า ฟิลิปปินส์ 6.28 เท่า และประเทศไทย 5.99 เท่า ด้วย!
อย่างไรก็ดี...ด้วยเพราะยังคงมีความ “คลุมเครือ” ว่า moving season2 จะได้ไปต่ออย่างเป็นทางการหรือไม่? ถึงแม้จะ “จงใจอย่างชัดเจนในการทิ้งรอยต่อต่างๆเอาไว้มากมาย” ในตอนจบของ Season 1 ก็ตามที ฉะนั้น วันนี้ “เรา” มาลองพยายาม “แกะรอย” เพื่อลองค้นหา “คำตอบ” ที่ว่านี้กันดู
แกะรอยจากผู้กำกับซีรีย์ :
“พัค อิน แจ” (Park In-jae) ผู้กำกับ Moving Season 1 ให้สัมภาษณ์กับ Hollywoodreporter ซึ่งมีประเด็นที่น่าจะเชื่อมโยงกับความพยายามค้นหาคำตอบเรื่อง Season2 เอาไว้ว่า...
“สำหรับโปรเจกต์นี้ (Moving Season 1) สนุกมากในฐานะผู้กำกับ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผมเลือกโปรเจกต์ที่จะทำงาน สิ่งสำคัญสำหรับผมที่สุด คือ ต้องเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำมาก่อน สำหรับ Moving ผมทดลองเปลี่ยนวิธีการนำเสนอ โดยเล่าเรื่องผ่านการแยกเป็นตอนๆอย่างชัดเจน โดย Ep.1- Ep.7 ที่ปล่อยออกมาพร้อมกันในสัปดาห์แรกนั้น เป็นการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับวัยรุ่นมัธยมปลายและความโรแมนติกของหนุ่มสาวเป็นหลัก
...
ส่วนสัปดาห์ถัดๆมา ที่เปลี่ยนเป็นการออนแอร์สัปดาห์ละ 2 ตอน นั้น Ep.8- Ep.9 จะเป็นการเล่าเรื่องความรักระหว่างกลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลัก ขณะที่ Ep.10- Ep.11 จะเน้นไปที่แนวแก๊งสเตอร์และฉากแอกชันเพื่อเอาใจกลุ่มฮาร์ดคอร์เป็นหลัก
จากนั้น...จึงค่อยๆเปลี่ยนกลับไปสู่ความโรแมนติกของกลุ่มผู้ใหญ่และเด็กๆอีกครั้ง ถึงแม้ส่วนตัวผมจะไม่ค่อยชอบ หรือ คิดอยากจะกำกับซีรีย์แนว Melodrama เลยก็ตามที อย่างไรก็ดีหลังพยายามถกเถียงกับตัวเองอยู่นานว่าจะนำเสนองานในแนวนี้ให้ออกมาอย่างไรดี สุดท้ายเมื่อจบการทำงานมันก็สนุกมากๆจริงๆ
ส่วนคำถามเรื่อง Moving season 2 นั้น “พัค อิน แจ” กล่าวว่า....
“คังพุล (Kang Full) ยังมีผลงานอื่นๆที่อยู่ภายใต้จักรวาล Moving ซึ่งตัวเขาเป็นผู้สร้างขึ้นทั้ง Bridge และ Timing ดังนั้นมันจึง...ยังมีวัตถุดิบอีกมากมายที่มีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบัน เขา (คังพุล) กำลังง่วนทำงานที่มีชื่อว่า Hidden ซึ่งน่าจะเชื่อมโยงกับจักรวาล Moving อีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากจะมี Season 2 วัตถุดิบก็คงจะมาจากหนึ่งในภาคแยกเหล่านั้น
...
และถ้าหากผมได้กลับมากำกับใน Season 2 สิ่งที่ผมบอกได้คือ ผมจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นการอัปเกรดขึ้นอย่างมากมายของซีรีย์นี้แน่นอน โดยเฉพาะฉากแอคชันที่จะต้องเข้มข้นให้มากขึ้น"
แกะรอยจากผู้สร้างจักรวาล Moving :
"คังพุล" (Kang Full) บิดาแห่ง Moving และ ไทรโลไบต์แห่ง Webtoon ให้สัมภาษณ์กับสื่อของเกาหลีใต้ที่น่าจะเชื่อมโยงถึงประเด็นที่ “เรา” กำลังหาเรื่องคุยกับ “คุณ” เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า...
ตัวเขาเองเป็นผู้ตัดสินใจทำซีรีย์เรื่องนี้ โดยพยายามดัดแปลงเนื้อหาต่างๆเพื่อเติมเต็มเรื่องราวที่ขาดหายไปในซีรีย์ต้นฉบับบน Webtoon แต่ด้วยการต้องทำงานภายใต้การกำหนดเส้นตาย ทำให้บางตัวละครที่อยากจะเล่าเรื่องราวในอดีตให้มากขึ้นนั้น มีความจำเป็นที่ผ่านการตัดต่ออย่างน้อย 10 ครั้งเพื่อให้เรื่องราวเกิดความกระชับ
...
ด้วยเหตุนี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ซีรีย์เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องมีถึง 20 ตอน ถึงแม้ว่าเทรนด์ของซีรีย์ยุคนี้จะมีเพียงไม่เกิน 16 ตอนก็ตาม เพราะความพยายามสร้างรายละเอียดสำหรับตัวละครแต่ละตัวเป็นสิ่งที่เขาปราถนา และเขาเองก็ต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อแสดงให้ผู้ชมได้เห็นในทุกๆสิ่งที่เขาต้องการถ่ายทอดด้วย
สำหรับ “คำถามสำคัญ” ที่ว่า Moving จะมี Season 2 หรือไม่นั้น “คังพุล” ตอบคำถามนี้เอาไว้ว่า...
“จริงๆแล้ว มันมีเนื้อหาที่พร้อมอยู่แล้วบน Webtoon มันจึงทำให้ผมคิดถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ (การมี Moving Season 2) อย่างไรก็ดี ผมเองก็ยังไม่ได้มั่นใจอะไรมากนัก”
แกะรอยจาก Timeline ขั้นตอน Production :
หลังเสร็จสิ้นการคัดเลือกนักแสดง Moving Season 1 เริ่มต้นการถ่ายทำในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2021 จากนั้นยังต้องไปผ่านขั้นตอนการทำ Visual Effect (VFX) อีกมากมาย ก่อนจะสตรีมรอบพรีเมียร์ในเดือนสิงหาคมปี 2023
จาก Timeline ดังกล่าวจะเห็นได้ว่า “มีความเป็นไปได้สูงมากๆ” ที่แม้ในกรณีที่โปรเจกต์ Moving Season 2 ได้ไปต่อ...แต่เหล่าหนุ่มๆที่ตกหลุมรักและเพ้อฝันถึง “น้องโก ยุน จอง” (Go Youn Jung) จะไม่มีทางได้เห็น “ใบหน้าของนางฟ้า” ผู้นี้ปรากฏใน Season 2 ในปี 2024 หรือ 2025 ค่อนข้างแน่นอน และมันจะยิ่งนานเข้าไปอีกหาก Disney ซึ่งกำลังบอบช้ำทางธุรกิจอย่างหนักหน่วงยังคง “รีรอ” ที่จะประกาศการผลักดันโปรเจกต์นี้ออกมาอย่างเป็นทางการ
จากใจ บิดาแห่งจักรวาล Moving หลังการอำลาของ Season 1 :
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยจากปากของ “คังพุล” หลัง Moving เดินทางมาถึงตอนจบใน EP.20
ถึงคุณพ่อบินได้ :
“คังพุล” ให้สัมภาษณ์กับสื่อของเกาหลีใต้ว่า “โจ อิน ซอง” (Zo In Sung) นักแสดงหนุ่มร่างสูงสุดเท่ผู้นี้ เป็น “นักแสดงคนแรก” ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ามารับบทนำในซีรีย์
และภายในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์หลังการติดต่อ “โจ อิน ซอง” ได้มาปรากฏตัวเพื่อพบกับคังพุลและทีมงานเพื่อตอบ “ตกลง” ภายใต้เหตุผลที่ว่า “เขาได้อ่านเรื่องราวต้นฉบับจาก Webtoon ภายในเวลาเพียง 2 วันเท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจได้ทันทีว่า พร้อมจะรับบทคุณพ่อบินได้”
ถึงคุณแม่ที่ยังสาวและสวย :
“คังพุล” ยอมรับว่ารู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า นักแสดงสาวแถวหน้าอย่าง “ฮัน ฮโยจู” (Han Hyo Joo) อาจปฏิเสธที่จะยอมมารับบท “ออมมา” (แม่) ในซีรีย์เรื่องนี้! ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจไปเจรจาหว่านล้อม “ฮัน ฮโยจู” ด้วยตัวเอง โดยยืนยันกับนักแสดงสาวว่า เมื่อเขาได้เห็นเธอเป็นครั้งแรกเขาก็ตัดสินใจได้ทันทีว่า เธอคือ “อี มี ฮยอน” (Lee Mi Hyun) สายลับสาวอัจฉริยะผู้เรียบเฉย
และเพื่อให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น “คังพุล” จึงมัดใจ “ฮัน ฮโยจู” อีกชั้น ด้วยการยืนยันว่า คนที่จะมารับบทเป็น “คุณพ่อ” คู่กับเธอก็คือนักแสดงมากบารมีอย่าง “โจ อิน ซอง” นั่นเอง!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง