“The Eras World Tour” (ว่าที่) คอนเสิร์ต 40,000 ล้านบาท ที่ตอกย้ำความเป็น เบอร์หนึ่งของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” (Taylor Swift)...
“The Eras World Tour” อภิมหาคอนเสิร์ตเวิลด์ทัวร์ ของ “ศิลปินยานแม่” แห่งวงการเพลง POP ยุคปัจจุบัน “เทย์เลอร์ สวิฟต์” (Taylor Swift) ซึ่งจะมีจำนวนโชว์มากถึง 130! รอบ (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา 52 รอบ) และมีตารางทัวร์ยาวนานตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023 ก่อนจะไปจบที่สนามเวมบลีย์ประเทศอังกฤษ ในเดือนสิงหาคม ปี 2024 (หากไม่มีการขยายตารางคอนเสิร์ตเพิ่มเติม) ได้รับการคาดการณ์ว่า อาจจะทำรายได้รวมจากเพียงเฉพาะการขายบัตรคอนเสิร์ตได้อย่างมโหฬารถึง 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,723 ล้านบาท!
หลังรายงานล่าสุดจาก "Pollstar" บริษัทวิจัยทางด้านอุตสาหกรรมคอนเสิร์ต ระบุว่าหลังโชว์คอนเสิร์ตผ่านไป 22 รอบ สามารถทำรายได้รวมไปแล้วมากถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,551 ล้านบาท) ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่นับ “รายได้อื่นๆ” ที่ตามมาไม่ว่าจะเป็นทั้ง สปอนเซอร์, สินค้าที่ระลึก หรือ ยอดดาวน์โหลดเพลงจากสตรีมต่างๆ เสียด้วย
...
ซึ่งหากยอดขายบัตรคอนเสิร์ต "The Eras World Tour" ยังคงเป็นที่ต้องการของเหล่า “Swifties” แบบนี้ต่อไปจนกระทั่งจบทัวร์ ไอดอลสาววัย 33 ปี จะขึ้นแท่นเป็นศิลปินที่ทำรายได้จากการทัวร์คอนเสิร์ตสูงที่สุดในโลก และเป็นศิลปินคนแรกที่สามารถทำเงินเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากทัวร์คอนเสิร์ตไปในทันที!
โดยปัจจุบันศิลปินที่ทำเงินจากทัวร์คอนเสิร์ตได้มากที่สุดจนถึงขณะนี้ อย่าง "ท่านเซอร์เอลตัน จอห์น" (Elton John) ซึ่งกำลังจะสิ้นสุด Elton John’s Farewell Yellow Brick Road Tour ที่ประเทศสวีเดนในวันที่ 8 ก.ค.นี้ (ปี 2018-2020 และ 2022-2023) คาดว่าจะทำยอดขายตั๋วได้มากที่สุดประมาณ 887 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนลำดับถัดมาทัวร์คอนเสิร์ต The ÷ (Divide) Tour (ปี 2017-2019) ของ “เอ็ด ชีแรน” (Ed Sheeran) ทำเงินรวมไป 776 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และลำดับถัดไป คือ U2 360° Tour (ปี 2009-2011) ของวงร็อกรุ่นใหญ่จากไอร์แลนด์ ที่ทำเงินไปรวม 736 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อภิมหาคอนเสิร์ต The Eras World Tour :
เวิลด์ทัวร์แรกในรอบ 5 ปี ของ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” หลังสิ้นสุดการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยในแต่ละโชว์ที่มีความยาวประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งนี้ จะมีการอัดเพลงมากกว่า 40 เพลงจาก 10 สตูดิโออัลบั้มให้เหล่า “Swifties” ที่ไปร่วมคอนเสิร์ตได้ใจฟูไปพร้อมๆ กัน
โดยราคาบัตร (Pre-sale) ต่ำสุดจะอยู่ที่ราคาประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,758 บาท) ส่วนราคาสูงสุด (VIP Package) จะอยู่ที่ประมาณ 899 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31,619 บาท)
อย่างไรก็ดีทั้งหมดนั้นเป็นเพียง “ราคาปกติ” ในกรณีที่ “คุณ” มี “แต้มบุญมากพอ” ในช่วงกดบัตรเท่านั้น เพราะล่าสุดในสหรัฐฯ “ด้วยปริมาณความต้องการที่แทบไร้ขีดจำกัด” มีรายงานว่า “ราคาบัตรที่ถูกที่สุด” คือ 50 ดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันมีราคา Resale พุ่งทะลุไปถึง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,172 บาท) เข้าให้แล้ว!
...
ซึ่งประเด็นความพยายาม “ค้ากำไรเกินควร” จาก ราคาบัตรคอนเสิร์ต "The Eras World Tour" นี้ เคยถึงขั้นทำให้ “สมาชิกสภาคองเกรส” ต้องพยายามเรียกร้องให้มีการ “ระงับการจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตชั่วคราว” เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวอเมริกันถูกเอารัดเอาเปรียบมากจนเกินไปมาแล้ว
สำหรับยอดขายบัตรคอนเสิร์ต The Eras World Tour ณ ปัจจุบัน (22 รอบโชว์ในสหรัฐฯ) ทำรายได้รวมแล้ว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 10,551 ล้านบาท) หรือ คิดเป็นค่าเฉลี่ย 13.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 457 ล้านบาทต่อ 1 รอบโชว์ โดยหากนำมาคิดเป็นค่าเฉลี่ยราคาบัตรคอนเสิร์ต 1 ใบต่อ 1 รอบโชว์ จะอยู่ที่ประมาณ 253.6 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8,898 บาท) จากจำนวนคนที่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ตขั้นต่ำประมาณ 45,000 คน ต่อรอบโชว์!
...
อย่างไรก็ดี ตามรายงานของ "Ticketmaster" ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตรายใหญ่ของสหรัฐฯ โดยครองส่วนแบ่งการจัดจำหน่ายมากกว่า 70% ระบุว่า โชว์ทั้ง 52 รอบของ ของ The Eras World Tour ในสหรัฐฯ บัตรได้ถูกจำหน่ายออกไปหมดแล้ว ทำให้ทาง สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) คาดการณ์ว่า เฉพาะรายได้ในสหรัฐฯ น่าจะทำเงินให้กับ “เทย์เลอร์ สวิฟต์” ไม่ต่ำกว่า 500-600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนสำนักวิจัย "QuestionPro" ออกมาเปิดเผยถึงข้อมูลที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับ The Eras World Tour ด้วยว่า บรรดาผู้ที่เข้าร่วมรับชมคอนเสิร์ตซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มอายุ 35-64 ปี 58% กลุ่มอายุ 18-34 ปี 37% และอายุต่ำกว่า 18 ปี 5% มีการจับจ่ายใช้สอยเฉลี่ยสูงถึง 1,327 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 46,673 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมคอนเสิร์ต ไม่ว่าจะเป็น ค่าบัตรคอนเสิร์ต, เสื้อผ้า, สินค้าที่ระลึก, อาหารเครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย
อย่างไรก็ดี สำหรับเหล่า “Swifties” ที่อยากจะเดินทางไปรับชมความเปล่งประกายของ “Tay” ในรอบนี้ ตัวเลขค่าเฉลี่ย 46,673 บาท อาจถูกปรับให้สูงขึ้นในเร็วๆ นี้ก็เป็นได้ เนื่องจากล่าสุดจากรายงานของสื่อในสหรัฐฯ “ราคาค่าที่พัก” ตามโรงแรมต่างๆ ในช่วงที่ The Eras World Tour เดินทางไปถึง (รวมถึงที่ประเทศสิงคโปร์) นั้น มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยมากกว่า 50% ขึ้นไป
...
Catalog Streaming :
“แรงกระแทก” จาก The Eras World Tour ส่งผลให้เพลงของ “Tay” กลับมาร้อนแรงตามบริการสตรีมมิงต่างๆ อีกครั้ง โดย Billboard.com รายงานว่า ตั้งแต่เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตเมื่อเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม “แคตตาล็อกเพลง” ของศิลปินสาวแสนสวยผู้นี้ มียอดสตรีมพุ่งทะลุมากกว่า 320 ล้านครั้ง โดยในจำนวนนี้มีมากถึง 23 เพลงที่เธอนำไปใช้เล่นใน The Eras World Tour มียอดสตรีมเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในแต่ละสัปดาห์ด้วย
สถิติรายได้จากคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ล่าสุด :
ความมั่งคั่งสุทธิ ปี2023 : 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการประเมินของ Forbes
Reputation Stadium Tour (2018) :
จำนวนโชว์ : 53 รอบ
รายได้ : 345 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเฉลี่ยบัตรเข้าชมต่อรอบ : 119.4 ดอลลาร์สหรัฐ
The 1989 World Tour (2015) :
จำนวนโชว์ : 85 รอบ
รายได้ : 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเฉลี่ยบัตรเข้าชมต่อรอบ : 110.2 ดอลลาร์สหรัฐ
The Red Tour (2013-2014) :
จำนวนโชว์ : 86 รอบ
รายได้ : 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเฉลี่ยบัตรเข้าชมต่อรอบ : 91 ดอลลาร์สหรัฐ
Speak Now Tour (2009-2010) :
จำนวนโชว์ : 118 รอบ
รายได้ : 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเฉลี่ยบัตรเข้าชมต่อรอบ : 83.5 ดอลลาร์สหรัฐ
อ้างอิงข้อมูล : Pollstar, Billboard Boxscore, QuestionPro
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง