"เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ" อดีตไอดอลแห่งชาติญี่ปุ่น กับ ความสัมพันธ์ลับๆ ที่อาจต้องแลกด้วยเงินมากกว่า 1,000 ล้านเยน...
“ความสัมพันธ์ลับๆ” ที่นำไปสู่ “ความมืดมน” บนอนาคตเส้นทางนักแสดง ของ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” (Ryoko Hirosue) อดีตไอดอลสาวยุค 90 และอีกหนึ่งภาพจำแห่งยุค JPOP เฟื่องฟู ที่อาจมีมูลค่าความเสียหายถึง 1,000 ล้านเยน! หรือประมาณ 245 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 20 มิ.ย. 66)
ปัจจุบัน :
ขอโทษ ขอโทษ และ ขอโทษ :
“ทุกคนผมขอโทษ ผมรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อการกระทำที่แม้ว่าตัวเองจะรู้ดีว่าจะสร้างปัญหาให้กับผู้คนจำนวนมาก แต่ผมก็ได้กระทำมันลงไปโดยขาดความยับยั้งชั่งใจหรือไตร่ตรองให้รอบคอบ และไม่ได้นึกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของผู้อื่น ครอบครัวตัวเอง และทุกคนที่อยู่รายล้อมรอบตัวผม ผมทำมันลงไปแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความอ่อนแอและความไม่เป็นผู้ใหญ่ของผม ทั้งๆ ที่ผมถือเป็นบุคคลสาธารณะ มันทำให้ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง”
...
“ชูซากุ โทบะ” (Shusaku Toba) อายุ 45 ปี เจ้าของและเชฟร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีชื่อว่า “SIO” ร้านอาหารระดับ 1 ดาว ของ มิชลิน ที่หากใครคิดอยากจะไปชิมดูสักครั้ง จะต้องจองคิวนานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน อีกทั้งยังมีชื่อบริหารร้านอาหารชื่อดังในประเทศญี่ปุ่นอีก 8 แห่ง สถานะปัจจุบัน...มีภรรยาและลูกอยู่แล้ว
“ฉันอยากกล่าวคำว่าขอโทษอย่างจริงใจ ต่อการทำให้ทุกคนเป็นกังวลจากพฤติกรรมที่ขาดความยับยั้งชั่งใจของฉัน ความสัมพันธ์ระหว่างฉันและคุณโทบะ เป็นไปตามรายงานข่าวที่เกิดขึ้น เหนืออื่นใด ฉันรู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ที่ทำให้ครอบครัวของคุณโทบะรู้สึกโศกเศร้าและเจ็บปวด และฉันได้คุกเข่าและกล่าวคำว่าขอโทษอย่างตรงไปตรงมากับครอบครัวและลูกๆ ทั้งหมดของฉัน พวกเขาเข้าใจและยอมรับว่าฉันเป็นแม่ที่ยังไม่เพียบพร้อม และฉันขอถือโอกาสนี้ กล่าวขอโทษที่ทำให้บรรดาแฟนคลับรู้สึกผิดหวัง”
“เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” (Ryoko Hirosue) อายุ 42 ปี อดีตไอดอลแห่งชาติของประเทศญี่ปุ่น นักแสดงชื่อดัง สถานะปัจจุบัน มีสามีและเป็นคุณแม่ของลูก 3 คน ที่ยังคงรักษาความงดงามในแบบเวลาไม่อาจทำร้ายเธอได้อยู่ต่อไป
ความรุ่งโรจน์ :
เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ ไอดอลแห่งชาติญี่ปุ่น :
"อดีตไอดอลแห่งชาติผู้นี้" นอกจากโด่งดังในฐานะนักแสดง และถือเป็นอีกหนึ่งไอคอนสำคัญแห่งยุค 90 แล้ว ชีวิตของเธอยังเต็มไปด้วยความเพียบพร้อม เนื่องจากเป็นลูกสาวของครอบครัวมหาเศรษฐีที่คุณพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วย
นอกจากนี้ เธอยังสามารถสอบเข้าไปเรียนที่ "มหาวิทยาลัยวาเซดะ" ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับท็อปของประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ เมื่อปี 1998 โดยในวันที่เธอเดินทางเข้าไปเรียนครั้งแรก เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 1999 นั้น ได้เกิดที่เป็นภาพจำของผู้คนในยุคนั้นเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากได้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ของทั้งกองทัพนักข่าวและนักศึกษาที่มารอบต้อนรับเธออย่างล้นหลาม
...
“ฉันตัดสินใจเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เพราะอยากจะมีสถานที่อื่น ที่ไม่ใช่ที่ทำงานบ้าง”
ดาราสาวให้เหตุผลถึงการตัดสินใจเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ในเวลานั้น อย่างไรก็ดีหลังจากนั้นไม่นานนักแสดงสาวก็ไม่ได้ไปเข้าเรียนอีกเลย มิหนำซ้ำในอีกไม่กี่เดือนต่อมาจู่ๆ เธอก็ได้ขอลาออกจากมหาวิทยาลัย ก่อนจะตัดสินใจแต่งงานกับสามีคนแรกเมื่อปี 2003 ในขณะที่เธอมีอายุเพียง 23 ปี และกำลังอยู่บนความรุ่งโรจน์ในฐานะนักแสดง อย่างไรก็ดีทั้งคู่ได้หย่าขาดกันเมื่อปี 2008 โดยมีลูกด้วยกัน 1 คน
การแต่งงานครั้งที่ 2 :
...
หลังจากหย่าขาดกับสามีคนแรก “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” ได้พบรักครั้งใหม่กับ “จุน อิซูทสึ” (Jun Izutsu) ศิลปินผู้สร้างงานศิลปะจากเทียนไข (ปัจจุบันอายุ 49 ปี) ที่งานการกุศลที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากแผ่นดินดินไหวที่ประเทศเฮติ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2010 และต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกันนั้นเอง ทั้งคู่ได้ประกาศแต่งงานและมีลูกด้วยกัน 2 คน
โดยในงานแต่งงานนั้น “จุน อิซูทสึ” ได้กล่าวชื่นชมภรรยาสาวกับสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวอย่างล้นหลามว่า “เธอคือภรรยาที่ดี แม่ที่ดีและผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมที่สุด” นอกจากนี้ มีครั้งหนึ่งเมื่อถูกถามผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ภรรยาของคุณเป็นคนแบบไหน” คำตอบที่เขาตอบกลับมาคือ “เธอคือคนที่ทำให้หัวใจของทุกคนสว่างไสว” และยังมักจะกล่าวขอบคุณภรรยาผ่านสื่ออยู่เสมอๆ ว่า “เธออนุญาตให้ผมมีอิสระที่จะออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเพื่อการกุศล (ช่วยเหลือผู้ประสบภัย) รวมถึง งานศิลปะที่เขารัก ได้อย่างเต็มที่ จากการที่เธอจะคอยทำหน้าที่ดูแลบ้านและลูกๆ ทั้งหมดด้วยตัวเอง"
ความตกต่ำ :
เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นจากความสัมพันธ์ลับๆ :
ความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่าง อดีตไอดอลสาวแห่งยุค 90 กับ เชฟชื่อดังระดับประเทศ ถูกเปิดเผยขึ้นโดยสื่อจอมแฉที่บรรดาไอดอลและคนดังของประเทศญี่ปุ่นต่าง “หวาดหวั่น” อย่าง “Bunshun” โดยสื่อจอมแฉรายนี้ เปิดเผยเรื่องลับๆ นี้ อย่างชนิดที่เรียกว่า “ละเอียดลออราวกับไปนั่งอยู่ใต้เตียงของทั้งคู่เลยก็ว่าได้” เพราะมีทั้งหลักฐานสำคัญ คือ ภาพถ่ายและคลิปขณะที่ทั้งคู่ไปพบกันที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงโตเกียวซึ่งได้ชื่อว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด และอยู่ไม่ห่างจากสถานที่ทำงานของเชฟโทบะ รวมถึงยังสามารถระบุได้ด้วยซ้ำไปว่า “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” เข้าเช็กอินที่ห้องพักในเวลากี่โมง? และ “ชูซากุ โทบะ” ที่แม้จะตามมาภายหลัง เป็นผู้ทำหน้าที่เช็กเอาต์ห้องพักดังกล่าวในเวลากี่โมง?
...
หากแต่ร้ายไปกว่านั้น คือ...“Bunshun” ยังมีแม้กระทั่ง “จดหมายและไดอารี่รัก” ที่เขียนด้วยลายมือของ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” ซึ่งมีท่อนหนึ่งที่ระบุข้อความถึงความสัมพันธ์ลับๆ นี้ว่า...
“ขอบคุณ ที่ทำให้ฉันเรียนรู้ถึงความมาดมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ต่อความรัก ซึ่งมันอาจเป็นเพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคุณ คุณติดตรึงแน่นอยู่กับฉัน ทั้งทำให้ฉันร้องไห้และทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลาย”
ขณะเดียวกันจากการ “ขุดคุ้ย” ของสื่อจอมแฉอย่าง “Bunshun” ยังระบุถึงแหล่งข่าวในร้านอาหารของเชฟโทบะ ซึ่งรับรู้ถึงความสัมพันธ์อันเกินเลยนี้ด้วยว่า...ทั้งคู่กำลังเตรียมที่จะขอหย่าจากคู่ครองของตัวเองเพื่อหวังจะมาครองรักกันอย่างถูกต้องอีกด้วย!
เรียกว่างานนี้... “หลักฐานมัดแน่น” เสียจนทำให้ทั้งคู่ซึ่งในช่วงแรกพยายาม “ปฏิเสธ” ว่าการรายงานข่าวของ “Bunshun” มันไม่ใช่เรื่องจริง “จำต้องยอมจำนนต่อหลักฐานและต้องออกมาแถลงขอโทษอย่างเป็นทางการในที่สุด”
สามีและครอบครัว :
หลังเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน ศิลปินเทียนไขผู้เป็นสามีของ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” ซึ่งมีร้านจำหน่ายงานศิลปะที่มีชื่อว่า “ร้าน ELDNACS” ซึ่งอยู่ห่างจาก ร้าน SIO ของ เชฟโทบะ เพียงใช้เวลาเดินประมาณ 1 นาทีเท่านั้น! ได้ออกมาเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนว่า “ต้องการได้รับคำขอโทษอย่างจริงใจ” ผ่านการเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัวอย่างลูกผู้ชาย จาก “เชฟโทบะ” หลังความพยายามโทรศัพท์ติดต่อขอนัดพบโดยตรงก่อนหน้านี้ได้รับการปฏิเสธผ่านทางอีเมลเท่านั้น
นั่นเป็นเพราะ... “เชฟโทบะ” ควรแสดงความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มากกว่าเพียงทำแค่ออกเอกสารแสดงความขอโทษต่อสังคมเพียงไม่กี่ฉบับเช่นที่ทำ ณ เวลานี้เท่านั้น!
หัวใจของผมแตกสลาย :
ในการแถลงข่าวล่าสุด “จุน อิซูทสึ” ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า เริ่มระแคะระคายถึงความสัมพันธ์ลับๆ นี้ หลังบังเอิญได้พบเห็น “ข้อความ” ที่ทั้งคู่ส่งถึงกันผ่านไลน์ และเคยพยายามโทรศัพท์ไปติดต่อกับฝ่ายชายเพื่อให้ยุติเรื่องอื้อฉาวนี้ รวมถึง ยังยอมรับด้วยว่า “ภรรยาสาว” เคยออกปากว่า...อยากจะขอหย่า แต่เมื่อถูกถามกลับว่า “มีเหตุผลมาจากอะไร?” อีกฝ่ายกลับไม่มี “คำตอบใดๆ” ก่อนจะขึ้นไปนอนกับลูกๆ
หลังจากนั้นต่อมาไม่นาน (ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่เรื่องอื้อฉาวจะถูกตีแผ่) ภรรยาสาว ได้พยายามพูดกับเขาเพื่อขอหย่าอีกครั้ง และคราวนี้เกิดขึ้นต่อหน้าลูกคนโตและแม่ของเขาเสียด้วย จากนั้นเธอได้เดินไปหาลูกอีกสองคนที่ห้องนั่งเล่น ก่อนจะกล่าวกับลูกๆ ว่า “พ่อและแม่กำลังจะหย่ากัน ลูกๆ ต้องการจะอยู่กับใคร?”
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ศิลปินผู้สร้างงานศิลปะจากเทียนไข ยอมรับว่า ทำให้จิตใจของเขา “แตกสลาย” และทำให้เขาตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเพื่อออกจากบ้านไปทันที
ความเสียหายจากเรื่องอื้อฉาวที่มีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านเยน :
Flamme บริษัทเอเจนซีต้นสังกัดของดาราสาว ได้ประกาศพักงาน “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” อย่างไม่มีกำหนด ขณะที่บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ โดยเฉพาะ Kirin บริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งว่าจ้างเธอเป็นพรีเซนเตอร์ ได้พร้อมใจกัน “ลบ” คลิปและภาพถ่ายโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับดาราสาวออกจากเว็บไซต์และสื่อต่างๆ อย่างเป็นทางการทั้งหมดแล้ว
ขณะที่งานด้านเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ยังถ่ายไม่เสร็จ งาน MC รวมถึง งานถ่ายปกนิตยสาร ได้ถูกประกาศยกเลิกกลางคันทันที โดยเบื้องต้นสื่อมวลชนของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า นักแสดงสาว อาจต้องจ่ายเงินชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเรื่องอื้อฉาวนี้ รวมกันมากกว่า 400 ล้านเยน!
ปัจจุบัน อดีตไอดอลสาวแห่งยุค 90 มีอสังหาริมทรัพย์เป็นบ้านพร้อมที่ดินในย่านคนร่ำรวยของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ประมาณ 250 ล้านเยน ขณะที่การประเมินรายได้เบื้องต้นนั้นของ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” นั้นจะอยู่ที่ประมาณ ปีละ 50 ล้านเยนเป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ดี การถูกประกาศพักงานอย่างไม่มีกำหนดซึ่งยังไม่มีใครรู้ได้เลยว่ามันจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ อีกทั้งอนาคตในวงการบันเทิงจากนี้ต่อไปนั้น “ยากที่จะกลับคืนในจุดที่เคยยืน” ทำให้สื่อมวลชนในญี่ปุ่นคาดว่า มูลค่าความเสียหายจากเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ “เรียวโกะ ฮิโรสุเอะ” สูญเงินไปไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านเยน!
ด้าน "เชฟโทบะ" นอกจาก หนังสือแนะนำร้านอาหารชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ที่เพิ่งออกวางจำหน่ายไปเมื่อวันที่ 2มิ.ย. ที่ผ่านมา ถูกสำนักพิมพ์สั่งให้ระงับการจำหน่าย เช่นเดียวกับ การถูกสั่งระงับงานพิธีกรในรายการโทรทัศน์ ของ สถานี NHK แล้ว ล่าสุด ยังถูกบีบให้ลาออกจาก ตำแหน่งทูตประชาสัมพันธ์ (PR Ambassador) ของเมืองโทดะ จังหวัดไซตามะ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาอีกด้วย
หากแต่ที่ดูจะเลวร้ายมากไปกว่านั้น คือ มีชาวญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยซึ่งส่วนหนึ่งเป็นแฟนคลับประจำของของร้านอาหาร SIO ต่างรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น และได้ไปโพสต์ตามโซเชียลมีเดียต่างๆ ว่า จะไม่ขอกลับไปรับประทานอาหารที่ร้านนี้อีกต่อไปด้วย!
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง :