3 เรื่องจริง คนโสด แชร์กฎชีวิตสุดคุ้มค่า ไม่มีผู้ ไม่มีคู่ก็แฮปปี้

เปิดมุมมองชีวิต 3 คนโสดอย่างมีความสุขในสไตล์ตัวเอง และไม่รู้สึกกังวลหากอายุสูงมากๆ ไม่มีคนดูแล เพราะมีทางหนีทีไล่ไว้แล้ว ใครที่ไม่กล้า หรือกลัวความโสด ได้ฟังเรื่องราวชีวิตของพวกเขาแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงอยากเป็นโสดเช่นพวกเขาแน่ๆ

เพราะคำตอบแห่งความสุขของ 2 สาว 1 หนุ่มโสด ทั้ง 3 คน คือ คุณเอ๋ “ดวงพร แน่งน้อย”, คุณยุ้ย “สุภาวดี แตงเล็ก” และ คุณหนุ่ม “ธนาธิป ชื่นสมทรง” รู้สึกเหมือนกันคือ ความมีอิสระในทุกๆ เรื่อง ส่วนสาเหตุที่เต็มใจ “โสด” มีเหตุผลกันคนละอย่าง แต่ปลายทางเส้นทางคนโสด ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า “โสดอย่างมีความสุขจริงๆ”

: งานเจอแต่ผู้หญิง ขอโสดเพื่อความมั่นคงชีวิต :

“ได้อยู่กับตัวเอง มีเวลาดูแลตัวเองและครอบครัวมากขึ้น คำว่า “เหงา” ไม่ค่อยมี เพราะเป็นคนชอบทำกิจกรรม ออกกำลังกาย ทำขนม และทำงานตลอดเวลา” คุณเอ๋ หญิงสาวอายุ 32 ปี ผู้บริหารและครูสอนโยคะฟลาย DNA Studio แปดริ้ว ฉะเชิงเทรา อดีตนักแสดงจากละคร “ดาวย้อมแสง” ทางช่องไอพีเอ็ม บอกเล่าความสุขกับชีวิตโสดของตัวเอง

ความโสดกว่า 2 ปีของเธอนั้นเกิดจากรักที่ไม่สมหวัง และด้วยหน้าที่การงาน ครูสอนโยคะฟลายมักไม่ค่อยได้เจอผู้ชาย ก็คงต้องครองความโสดไปอีกนาน แต่เธอตอบด้วยน้ำเสียงสดใสว่า นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะมุมมองความรักเปลี่ยนไปแล้ว “ขออยู่คนเดียวดีกว่า หากมีแล้วไม่ดี ไม่มีดีกว่า”

ความโสด คนอื่นอาจจะมองว่าเหงา แต่สำหรับ คุณเอ๋ เธอบอก “มีแต่ความสุข” เพราะได้ทำงานที่รัก เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต ยามว่างจากงานมักชวนเพื่อนแก๊งสาวโสด ไม่ว่าจะเป็นลูกเจ้าของร้านทอง เจ้าของฟาร์มไก่ ฟาร์มไข่ มีไปกินข้าว เที่ยว ทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายด้วยกันเป็นประจำ เช่น ไทยเซิร์ฟบอร์ด เธอยืนยันความสุขกับความโสดของตัวเองว่า

“จริงๆ ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง มันเป็นเรื่องอนาคต แต่ตอนนี้ Happy กับการทำงานมาก ตอนก่อนโควิดมีสอนโยคะทั้งวันถึงสามทุ่ม พอมีโควิดก็หันมาสอนออนไลน์แทน จริงๆ ความสุขของชีวิตไม่จำเป็นต้องมีคู่เสมอไป สมัยนี้คนโสดเยอะ มีกิจกรรมต่างๆ ในโลกออนไลน์ให้เลือกทำมากมาย บางคน 40 ยังแต่งงานได้ อยากสร้างรากฐานชีวิตให้ดีก่อน อีกอย่างสังคมสมัยนี้น่ากลัวมากขึ้น คนหลอกกันง่าย ต้องฉลาดทัน”

: หนุ่มวัย 45 ฐานะเพียบพร้อม (ตั้งใจ) โสด ขอบวชตลอดชีวิต :

สำหรับความสุขของหนุ่มโสด คุณหนุ่ม วัย 45 ปี เล่าในมุมตัวเองอย่างเป็นกันเองว่า ในวัยนี้ที่เพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าที่การงานมั่นคง ทำงานเป็นลูกจ้างหน่วยงานรัฐ มีรถ บ้าน แต่ก็ยังผ่อนกับธนาคารอยู่

ส่วนตัวแล้วเป้าหมายในการสร้างครอบครัว ไม่จำเป็นต้องมีคู่ มีลูก ไม่ใช่เพราะไม่สามารถหาคู่ครองที่เหมาะสมกับตัวเองได้ แต่เป็นความพึงพอใจกับชีวิตโสดที่มีอิสระเสรีมากกว่า หลังตัดสินใจจบชีวิตรักที่คบกันมากกว่า 10 ปี กับแฟนอายุอ่อนกว่า 7 ปี ทั้งที่ต่างคนต่างไม่มีมือที่สาม แต่เป็นเพราะใจคุณหนุ่มเองที่เปลี่ยนไป

“การโสด ไปไหนก็ได้ ไปโดยไม่ต้องห่วงใคร ไม่อยากมีลูก เพราะอายุ 45 แล้ว มีลูกตอนอายุเยอะ หากเราเป็นอะไรไป สงสารลูกต้องขาดที่พึ่ง การตัดสินใจเต็มใจโสด เพราะคือชีวิตแบบที่ต้องการ มีอิสระ และมีความสุขที่สุด บั้นปลายตั้งใจไว้ว่าจะบวช ถ้าไม่มีห่วง ไม่มีอะไรต้องรับผิดชอบ”

นอกจากนี้ ความสุขที่โสดมากว่า 4 ปี เป็นชีวิตที่ลงตัวที่สุด และคุณหนุ่มไม่คิดไขว่คว้าหาความรัก ไม่ได้ใช้ชีวิตไร้สาระ แต่ใช้ชีวิตโสดให้สนุก คุ้มค่า มีความสุขในแต่ละวัน และตั้งเป้าไว้ว่า ยิ่งแก่ ต้องยิ่งมีสุขภาพดี หลังมีเวลาว่างจากการทำงาน และในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ก็มักทำกิจกรรมต่างๆ ที่อยากทำ ทั้งเรียนตัดผม ปั่นจักรยานกับเพื่อนๆ โสดด้วยกันในตอนเช้า ใครที่กำลังกลัว หรือไม่กล้าโสด คุณหนุ่มให้มุมมองว่า

“ความโสดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สมัยนี้คนโสดมีเยอะแยะ สังคมเปิดกว้าง และเข้าใจ ยอมรับคนโสดมากขึ้น ทำกิจกรรมเยอะๆ ความเหงาก็จะไม่เกิดขึ้น สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้า การติดต่อพ่อแม่ ครอบครัว ก็โทรคอลหากันได้” 

: โสดมีแบบแผน ดูแลตัวเองได้ เก็บเงินไว้ใช้ในบ้านพักผู้สูงวัย :

ส่วนคุณยุ้ย นักลงทุนเล่นหุ้นสาววัย 30 ปี เล่าถึงความโสดอย่างมีสุขตลอด 4 ปี อย่างอารมณ์ดี กับมุมมองความโสดของตัวเองเปลี่ยนไป แต่ก่อนการเป็นโสดจะถูกมองในแง่ลบ หมายถึง ไม่เป็นที่ต้องการหรือยอมรับ แต่ความโสดในปัจจุบัน สำหรับคุณยุ้ย คือ ความพิถีพิถันในการเลือก แม้จะมีคนเข้ามาคุยบ้าง แต่ขอเลือกเป็นโสดดีกว่า ไม่ใช่หยิ่ง แต่เชื่อว่าดูแลตัวเองได้

สิ่งที่ทำให้คุณยุ้ยมีความสุขในแต่ละวัน นอกจากการงานที่สร้างรายได้ดี มีความสุขกับตัวเองที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ ได้กิน ได้เที่ยว ได้ไปไหน ทำกิจกรรมทุกอย่างได้โดยไม่ต้องรอใคร หรือขึ้นอยู่กับใคร

การมีครอบครัวที่อบอุ่น ทั้ง พี่สาว หลานชาย รวมถึงมีแก๊งเพื่อนโสดมากมายรอบตัวที่คอยโทรคุยกัน ยามว่างนัดกันกินข้าว นัดไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศด้วยกันบ่อยๆ เลยไม่เคยรู้สึกว่าความโสดคือความเลวร้าย เพราะเรียนรู้และใช้ชีวิตอย่างมีแบบแผน ความโสดคือความสุขล้วนๆ จริงๆ หากแก่ตัว ไม่มีคนมาดูแล ก็ไม่ใช่อุปสรรค เพราะได้เริ่มเก็บเงินเตรียมไว้ใช้จ่ายในบ้านพักผู้สูงวัยแล้ว

ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว ผู้หญิงดูแลตัวเองได้โดยไม่พึ่งผู้ชาย และถ้ายังเจอคนไม่ดีพอ อยู่โสด ทำตัวเองให้มีความสุข สร้างคุณค่าให้ตัวเอง พัฒนาและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ดูแลตัวเองให้สวยเสมอดีกว่า เหตุผลเหล่านี้เองจึงเป็นเสน่ห์ของความโสดที่คนยุคใหม่มองว่าเจ๋งกว่าการจับเจ่ากับความคิดเก่าๆ

“บางคนไม่กล้า กลัวที่จะโสด กังวลว่าแก่ตัวไปใครจะดูแล แต่ถ้าเราวางแผนชีวิตดีๆ ก็โสดอย่างสุขๆ สวยๆ ได้ เราและเพื่อนอีกหลายคนคุยกันไว้แล้ว บั้นปลายชีวิตจะพากันไปอยู่บ้านพักผู้สูงวัย ตอนนี้เริ่มๆ เก็บเงินกันแล้ว เดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตคนเปลี่ยนไปเยอะมาก ไม่ต้องมีคู่ หรือมีลูกมาดูแลตอนแก่ก็ได้ มีบ้านพักผู้สูงอายุมากมายรองรับ อีกอย่างปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเอื้อต่อการอยู่คนเดียว อยู่เป็นโสดได้มากขึ้น เพราะทุกอย่างสะดวกขึ้นกว่าแต่ก่อน อยากซื้อของ อยากกินอะไรก็โทรสั่งได้ อยากไปไหนก็มีรถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน”

เพราะความโสดไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากแข็งแกร่งพอที่จะลุกขึ้นมามีชีวิตเป็นของตัวเอง จงใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด ต่อให้เป็นโสดต้องเป็นสุข ดังมุมมองความโสดของทั้ง 3 คนคือคำตอบและแนวทาง.