จะมี "มังงะ" สักกี่เรื่องที่จะสามารถประสบความสำเร็จในระดับ "สร้างปรากฏการณ์" ได้ ทั้งๆ ที่หน้ากระดาษเปื้อนหมึกเหล่านั้น เต็มไปด้วยความขุ่นคลั่กของเนื้อหา "การเมือง" แถม "บทพูด" ของตัวละครนั้นก็ "มากมาย" แทบจะล้นเฟรมจนไม่อยากจะอ่าน

แต่คุณเชื่อหรือไม่? มังงะที่ "ภาพวาด" ในชั่วพริบตาแรกที่เห็น คุณอาจเบือนหน้าหนี แล้วบอกกับตัวเองว่า...

"การ์ตูนอะไร _ะ แ_ง วาดรูปไม่สวยเลย"

แต่หากคุณคิดเช่นนั้น คุณกำลังคิดผิด เพราะเจ้ามังงะที่ว่านี้ มันเต็มไปด้วย...

พล็อตลูกล่อลูกชน ที่สุดแสนแพรวพราว

หลุมดักความสงสัย ที่มีบทเฉลยอันชวนอึ้ง

ฉายภาพ DARK SIDE ของมนุษย์ ที่มีทั้งเห็นแก่ตัว หวาดกลัว งมงาย กดขี่ ชนชั้น และมักจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ

การวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองและการทำสงคราม ที่สุดแหลมคม จนแทบไม่น่าเชื่อว่า นี่คือ...พล็อตของการ์ตูนหาใช่ภาพยนตร์

โดย "มัน" สามารถทำยอดขายไปแล้วถึง 76,000,000 ก๊อบปี้ (สถิติในเดือนเมษายน ปี 2019) ขึ้นแท่น "มังงะ" ที่ขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นตลอดกาลในลำดับที่ 19 อย่างสวยงาม และปัจจุบัน มันได้ถูกแปลถึง 21 ภาษา สำหรับการวางจำหน่ายใน 180 ประเทศทั่วโลกแล้ว

...

และเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2019 มีรายงานจากสำนักพิมพ์โคดันฉะ (KODANSHA) ประเทศญี่ปุ่น ว่า (มหึมา) "มังงะ" ที่ถูกตีพิมพ์มาตั้งแต่ ปี 2009 (ปัจจุบันต้นปี 2020 ยังไม่อวสาน) และมีภาค SPIN-OFF ออกตามมาแล้ว 4 ภาค รวมถึงถูกนำไปสร้างเป็น "อนิเมะ" ออกฉายทั่วประเทศญี่ปุ่นและทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2013 และปลายปี 2020 นี้ มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะมีการฉาย SEASON 4 พร้อมกับระบุว่าจะเป็น FINAL SEASON นั้น สามารถทำยอดขายทั้งกระดาษดั้งเดิมและกระดาษอิเล็กทรอนิกส์ รวมกันเกิน 100 ล้านก๊อบปี้แล้วทั่วโลก!

ซึ่งความสำเร็จอันงดงามนี้ ทำให้ "มัน" กำลัง "ก้าวผ่าน" กำแพงสูงตระหง่าน 3 ชั้น ที่มีชื่อว่า "WALL MARIA" "WALL ROSE" และ "WALL SINA" เพื่อมุ่งหน้าสู่ LIVE-ACTION ใน HOLLYWOOD ด้วยฝีมือของผู้กำกับสายหนังสยองขวัญ ANDY MUSCHIETTI แล้ว (โปรเจกต์นี้ สำนักพิมพ์โคดันฉะแถลงเอาไว้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2018)

ก่อนที่ "เรา" จะเฉลยว่า "มังงะ" ที่ว่านี้ มันคือเรื่องอะไร?

เราขอให้ "คุณ" ฮึมฮัมเพลงนี้ของวง LINKED HORIZON ตามเราไปก่อน

Sie sind das Essen und wir sind die Jäger!
พวกมันคืออาหาร และเราคือนักล่า!

ถูกแล้ว วันนี้เราจะมารู้จักมหึมามังงะเรื่องนี้กัน ATTACK ON TITAN

พร้อมกันแล้วใช่ไหม? งั้นรีบใส่เครื่องเคลื่อนย้ายสามมิติ แล้วตะลุยล่า TITAN ไปพร้อมกับทหารฝึกหัดรุ่นที่ 104 กันดีกว่า!

ATTACK ON TITAN คือ มังงะที่ว่าด้วย...

มนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายที่กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธ์ุจากสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "ไททันยักษ์" สารพัดชนิดและความสูง โดยมีเพียงสิ่งเดียวที่กางกั้นพวกเขาจากการถูกไล่จับกิน คือ กำแพงยักษ์มหึมา 3 ชั้น สูง 50 เมตร ที่เหล่าไททันไม่สามารถก้าวผ่านมาได้นับร้อยปี ภายใต้เครื่องหมายคำถามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น...

ไม่มีใครรู้ว่า กำแพงยักษ์ เครื่องหมายรับประกันความปลอดภัยของมนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายนี้ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ และใครเป็นคนสร้าง และมันสร้างขึ้นได้อย่างไร ทั้งๆ ที่มนุษยชาติยังมีเพียงดาบและปืนใหญ่ (โบราณ) เอาไว้คอยรับมือ?

ไททัน ที่มนุษยชาติไม่สามารถต่อกรได้ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร และเพราะอะไรมันจึงต้องไล่จับมนุษย์กิน ทั้งๆ ที่มันไม่หิวและไม่อิ่ม?

และ...กำแพงยักษ์นั้น เมื่อเดินผ่านออกไป นอกจากไททันแล้ว มันยังมีอะไรอยู่อีกหรือไม่?

จนกระทั่ง เกิดการบุกทะลวงจากไททันที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนอย่างชนิดคาดไม่ถึง ซึ่งมันได้เปลี่ยนโลกของมนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายนี้ไปตลอดกาล...

...

ทั้งหมดนี้ คือ มังงะที่ถูกเนรมิตขึ้นจากมันสมองและสองมือของอาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ (HAJIME ISAYAMA) อีกหนึ่งตำนานของวงการมังงะ

WHO IS HAJIME ISAYAMA?

แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกจากผลงานระดับมาสเตอร์พีซชิ้นนี้ แต่อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ กลับไม่ค่อยชอบปรากฏตัวต่อสาธารณชน หรือแม้กระทั่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนัก เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับชายผู้นี้น้อยมาก

ปัจจุบันรู้เพียงว่า อาจารย์เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 1986 บ้านเกิดอยู่ที่เมืองฮิดะ จังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนสูง 173 เซนติเมตร น้ำหนัก 47 กิโลกรัม มังงะที่ชื่นชอบโจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ ไอดอลที่ชื่นชอบวง MOMOIRO CLOVER Z รายได้ต่อปี 1,600 ล้านเยน งานอดิเรกเล่นเกม และเพิ่งเข้าพิธีสมรสกับแฟนสาวไปเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2018

"YOU CANNOT BECOME AN ANIMATOR" (แก...ไม่มีทางเป็นนักวาดการ์ตูนได้)

นี่คือคำ "ปรามาส" ที่แทบไม่ต่างอะไรกับดาบอันคมกริบของหน่วยสำรวจที่ฟันฉับลงไปที่บริเวณท้ายทอยจุดตายของไททัน เพื่อทำลายความฝันอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ในวัยเด็กของนักวาดมังงะผู้สร้างปรากฏการณ์ท่านนี้

...

อาจารย์ฮาจิเมะมีความฝันที่จะเป็น "MANGAKA" (นักวาดมังงะ) มาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น แต่ถึงแม้จะพยายามฝึกฝนตัวเองมาอย่างหนัก แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะเปิดปากบอกความฝันนี้ให้ครอบครัวได้รับรู้

จนกระทั่งวันหนึ่ง "ความลับ" ที่อุตส่าห์ปกปิดมาเนิ่นนานก็ถูกพบโดยพ่อของเขาเอง หลังบังเอิญไปพบสมุดฝึกวาดรูปมังงะบนโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งทันทีที่เห็น บิดาของเขาก็กล่าวด้วยเสียงอันดังและหนักแน่นทันทีว่า

"แก...ไม่มีทางเป็นนักวาดการ์ตูนได้"

แต่แล้วในเวลาต่อมา ก็อย่างที่รู้ๆ กัน อาจารย์ฮาจิเมะไม่ย่อท้อต่อคำพูดนั้น และต่อสู้สุดชีวิต จนสามารถทำความฝันได้สำเร็จ

"ผมมักจะไปซื้อมังงะมาอ่าน ซึ่งทุกๆ เรื่องล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลต่อผมเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเรื่องการสร้างแรงบันดาลใจในการฝึกฝนการวาดรูปให้ดียิ่งขึ้น เพราะในช่วงนั้นฝีมือในการวาดรูปของผม มันไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ ผมจึงมักที่จะชอบวาดรูปในทุกๆ ครั้งที่มีเวลาว่างเสมอๆ

ในประเทศญี่ปุ่น หากคุณอยากรู้ว่า ใครมีความฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนนั้น ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณไปดูตามสมุดนักเรียนว่า ตามหน้ากระดาษที่ว่างเปล่านั้นมีรูปวาดอะไรสักอย่างอยู่หรือไม่ หากมี ก็ใช่เลย เพราะผมและเพื่อนร่วมชั้นในวัยเด็ก 5 จาก 6 คน ก็ทำแบบนี้เหมือนๆ กัน" ผู้สร้างมนุษย์ยักษ์ รำลึกถึงความฝันในวัยเยาว์

หลังเรียนจบระดับมัธยมปลาย อาจารย์ฮาจิเมะตัดสินใจเข้าเรียนต่อที่ KYUSHU DESIGNER โดยบอกกับครอบครัวว่า ไปเรียนที่นั่นเพราะต้องการเป็น "ดีไซเนอร์" เพื่อซุกซ่อนความลับเรื่องความฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูนเอาไว้ต่อไป ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วได้ตัดสินใจเลือกสาขาอนิเมะเอาไว้ตั้งแต่ต้น

...

แต่สิ่งที่โชคดีในประเด็นนี้ก็คือ แม้ต่อมาภายหลังครอบครัวได้รู้ถึงความจริงที่เกิดขึ้นว่า ลูกชายไม่ได้ไปเรียนเพื่อเป็นดีไซเนอร์เหมือนที่บอกไว้ แต่พวกเขาก็พร้อมให้อภัยและไม่เคยดุด่าถึงการตัดสินใจที่บ้าบิ่นนี้แม้แต่เพียงสักคำเดียว

การตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต...

หลังเรียนจบจากสถาบัน KYUSHU DESIGNER อาจารย์ฮาจิเมะตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิต ด้วยการมุ่งหน้าไปยังกรุงโตเกียวเพื่อทำความฝันเรื่องการมีมังงะเป็นของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นมา พร้อมๆ ไปกับการทำพาร์ทไทม์ที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เพื่อหาเลี้ยงชีพในช่วงปี 2006

"ณ เวลานั้น ผมอาจไม่ได้เริ่มต้นจากการได้เป็นเจ้าของผลงานของตัวเอง แต่ความฝันที่อยากจะเป็นนักวาดการ์ตูน นับวันมันยิ่งจะมากขึ้น และมากขึ้นเรื่อยๆ"

จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 19 ปี ความฝันที่มุ่งมั่นก็กลายเป็นจริงจนได้ ATTACK ON TITAN มังงะเรื่องแรกในชีวิต ชนะเลิศการประกวดของ MAGAZINE GRAND-PRIX หรือ MGP ซึ่งถูกจัดขึ้นโดยสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นอย่าง KODANSHA จากนั้นเขาได้ตัดสินใจอุทิศตัวเองให้กับการวาดมังงะแบบสุดตัว เพื่อหาทางพาตัวเองเข้าสู่แสงของสปอตไลต์ในวงการที่มีการแข่งขันกันสูงที่สุดวงการหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นทันที

"เพื่อนๆ ในวัยเด็กของผมที่มีความฝันอยากเป็นนักวาดการ์ตูน พอเติบโตเป็นนักเรียนมัธยมปลายหรือนักศึกษามหาวิทยาลัย ชีวิตเปลี่ยนจากเด็กไปเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และรู้ได้ถึง "ความเป็นจริง" ที่ต้องเผชิญว่า โลกของมังงะญี่ปุ่นมันยากเกินกว่าที่จะ "ปีนป่าย" พวกเขาก็ค่อยๆ จำยอมเปลี่ยนแปลงความฝันของตัวเองไปทีละคนๆ ซึ่งไม่เหมือนกับผม ที่มีจุดยืนและความฝันที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย"

พักสายตาสักนิด ก่อนไปต่อเพื่ออ่านข้อมูลประกอบ

ปัจจุบัน มี MANGAKA (ศิลปิน MANGA) ทั้งที่ทำงานแบบ FULL TIME และ PART TIME รวมอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ประมาณ 4,000 คน

อาชีพ MANGAKA ถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพในฝันของชาวญี่ปุ่นจำนวนมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ถูกซุกซ่อนไว้ คือ คนที่อยู่ในอาชีพนี้จะต้องทำงานอย่างหนักในแบบทั้งวันทั้งคืน จนแม้แต่กระทั่งไม่ได้หลับไม่ได้นอน รวมถึงมักต้องประทังชีวิตด้วยอาหารสำเร็จรูปจากร้านสะดวกซื้อเป็นหลัก

และที่สำคัญ หากยังไม่มีชื่อเสียง ค่าแรงสำหรับความเหนื่อยยากในแบบต้อง "ทำงานหนักทั้งวันทั้งคืน" นั้น จะเริ่มต้นที่ 500 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งแน่นอนมันย่อมไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในกรุงโตเกียว ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกแห่งหนึ่งแน่นอน

โดยสมาคมนักผลิตแอนิเมชั่นของประเทศญี่ปุ่น (JAPANESE ANIMATION CREATORS ASSOCIATION) ได้มีการประเมินเอาไว้ว่า MANGAKA หนึ่งคน ตอนอายุประมาณ 20 ปี จะสามารถทำเงินเฉลี่ยได้ประมาณ 10,000 เหรียญสหรัฐฯต่อปี พอเข้าอายุ 30 ปี จะทำเงินได้ประมาณ 19,000 เหรียญสหรัฐฯต่อปี และพออายุ 40-50 ปี จะทำเงินได้ราว 31,000 เหรียญสหรัฐฯต่อปีเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ จากสถิติจึงพบว่าจะมี MANGAKA เพียง 1 คน จาก 100,000 คนเท่านั้น ที่สามารถอยู่รอดในธุรกิจนี้ได้ ส่วนคนที่ "อยู่ไม่ไหว" กับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อย ก็ต้องจำยอมละทิ้งความฝันของตัวเองไปในที่สุด

เส้นทางเข้าสู่สปอตไลต์ในวงการมังงะ

โดยนับตั้งแต่ที่ KYUSHU DESIGNER ออกตีพิมพ์ในนิตยสาร BESSATSU SHONEN (นิตยสารการ์ตูนรายเดือนของญี่ปุ่น) ตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา สามารถกวาดรางวัลในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น รางวัลชนะเลิศในหมวดโชเน็น ครั้งที่ 35, รางวัล KODANSHA MANGA AWARDS ครั้งที่ 35 และมีชื่อเข้าชิง MANGA TAISHO AWARD ครั้งที่ 4 และ TEZUKA OSAMU CULTURAL PRIZE ครั้งที่ 16 (รางวัลมังงะยอดเยี่ยมประจำปีของญี่ปุ่น) ในปี 2011

ซึ่งการพุ่งชนความสำเร็จด้วยความพยายามอย่างหนักจากมังงะเรื่องแรกในชีวิต ทำให้อาจารย์ฮาจิเมะสามารถลบคำสบประมาทของบิดาที่เคยพูดกับเขาเอาไว้ว่า แก...ไม่มีทางเป็นนักวาดการ์ตูนได้ ออกไปจากจิตใจจนหมดส้ิน

โดยอาจารย์เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์ NHK ว่า "อีกครั้งที่ผมอยากจะพูดว่า การเป็นผู้ชนะจากมังงะเพียงแค่เรื่องแรก มันย่อมไม่ใช่เรื่องปกติ"

ไอเดียที่นำมาสู่การสร้าง SHINGEKI NO KYOJIN หรือในชื่อที่พวกเรารู้จักกันดี ATTACK ON TITAN

อาจารย์ฮาจิเมะเคยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า แรงบันดาลใจในการสร้างอนิเมะเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งมาจากการได้ชมภาพยนตร์เรื่อง JURASSIC PARK แล้วนึกถึงซีนที่ไดโนเสาร์ขนาดมหึมาออกมาไล่กินมนุษย์ นอกจากนี้ การที่หลงรัก "วิลอซิแรปเตอร์" ไดโนเสาร์ขนาดย่อม แต่แสนชาญฉลาดและสร้างความหวาดผวาได้ จากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันเข้าอย่างเต็มเปา คือ อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำไมมังงะชื่อดังนี้ จึงมีไททันหลากหลายขนาด รวมถึงขนาดเล็กที่สุด ซึ่งสูงเพียง 3 เมตรกว่าๆ ออกมาไล่จับมนุษย์กินด้วย

ส่วนอีกเรื่องที่มีอิทธิพลกับอาจารย์ฮาจิเมะในการนำไปใช้สร้างเป็นไททัน ก็คือ มังงะชื่อดัง "นูเบะมืออสูรล่าปีศาจ" ตอนปีศาจในรูปโมนาลิซา เนื่องจากภาพปีศาจกำลังอ้าปากกัดกินมนุษย์ ในตอนดังกล่าวมันดูน่ากลัวเอามากๆ ทั้งๆ ที่ฟันของมันไม่ได้ดูแหลมคมเหมือนกับสัตว์ป่า แต่กลับสามารถสร้างความรู้สึกรุนแรงจนน่ากลัวในเวลาที่ "งับ" มนุษย์ ก่อนจะกลืนกินลงได้

ส่วนคำถามที่ว่า แล้วเหตุใดต้องเป็นไททัน แทนที่จะเป็นไดโนเสาร์ยักษ์ หรือเอเลี่ยนไล่จับมนุษย์กิน ตามพล็อตสูตรสำเร็จนั้น อาจารย์ฮาจิเมะ กล่าวว่า เกมและมังงะที่ใช้พล็อตแบบนั้นในญี่ปุ่นมันมีอยู่มากมายเหลือเกิน หากขืนเดินไปตาม "รอยทาง" นั้น งานที่ออกมามันก็คงจะไม่น่าสนใจ หรือมีความแปลกใหม่อะไรเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้ก็เลยลองคิดดูว่า...

แล้วทำไมเราไม่เปลี่ยนจากเอเลี่ยนไปเป็นไททันดูล่ะ? แบบนี้มันดูน่าจะ "เร้าความสนใจ" ได้มากกว่า

จากนั้นก็ต่อด้วยการสร้างเงื่อนปมต่างๆ ในมังงะ ไม่ว่าจะเป็น...

เหตุใด จึงยังต้องอยู่กรงขังเช่นสัตว์เลี้ยง?

เหตุใด จึงไม่ลองออกไปนอกกำแพง ออกนอกประเทศดูบ้าง?

เหตุใด จึงยังไม่กล้าพอที่จะต่อสู้กับไททัน หากอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป?

รวมถึง แน่นอน...ภาพทับซ้อนเรื่องปัญหาระหว่างชนชั้นต่างๆ ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ภายใต้กำแพงอันแข็งแกร่งทั้ง 3 ชั้น

ส่วน "ความทะยานอยาก" เพื่อ "หลุด" ให้พ้นจาก "กำแพง" นั้น มาจากเงื่อนปมในจิตใต้สำนึกของอาจารย์ฮาจิเมะเอง ที่รู้สึกว่าการที่อาศัยอยู่ในเมืองบ้านเกิด คือ เมืองโอยามา มาจนถึงอายุ 18 ทำให้การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้านนั้น "ไม่ไปถึงไหน" หากขืนยังอยู่ภายใต้กรอบ และขนบเดิมๆ เขาจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

ด้วยเหตุนี้ การมุ่งไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ "เพื่อออกไปใช้ชีวิตซะ" จึงกลายเป็นอีกหนึ่งพล็อตอันแข็งแกร่งของมังงะเรื่องนี้ในที่สุด

So you can't fly (หากคุณบินไม่ได้)

if you never try (หากคุณยังไม่คิดจะพยายาม)

You told me, ,, Oh, Long ago (และบอกกับฉันว่า โอ้..เอาไว้ก่อนเถอะ)

But you left the wall (แต่หากคุณออกจากกำแพง)

Out side the gate (ออกไปสู่ประตูอีกด้าน)

So more than ever, It's real (มันยังมีอะไรอีกมากมาย ที่มันคือเรื่องจริง)

ชักดาบออกมา แล้วโขยกม้า เพื่อวิ่งหา FREEDOM กับหัวหน้ารีไวล์ (LEVI) พร้อมๆ กับแหกปากร้องเพลง THE RELUCTANT HEROES ของอาจารย์ซาวาโน ฮิโรยูกิ (SAWANO HIROYUKI) กันเถอะ!

อึม...เล่ามาถึงบรรทัดนี้ "สิ่งหนึ่ง" ที่คุณไม่ควรพลาดหลังการรับชม "อนิเมะ" เรื่องนี้ ก็คือ การไปหาซื้ออัลบั้ม ORIGINAL SOUNDTRACK (จะ CD หรือ STEAM ก็แล้วแต่ตามอัธยาศัย) จากฝีมือของอาจารย์ซาวาโน ฮิโรยูกิ อัจฉริยะนักแต่งเพลงแห่งยุคของญี่ปุ่น เพราะมันช่างเต็มไปด้วยความ IMPACT มโฬาร แต่ไพเราะและเต็มไปด้วยตัวโน้ตที่พยายามบรรยายให้เห็นถึงภาพของการผจญภัยเพื่อออกไปค้นหาคำตอบและควรค่าแก่การรับฟังและเสียเงินเป็นอย่างยิ่ง!

คำถามที่พบบ่อย ATTACK ON TITAN จะจบลงเมื่อไหร่?

"เมื่อใดก็ตามที่มังงะมีจุดเริ่มต้น มันก็ต้องมีจุดสิ้นสุดของมันเป็นเรื่องธรรมดา เพียงแต่...มันจะเป็นวันไหนเท่านั้นเอง!" อาจารย์ฮาจิเมะ อิซายามะ เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เอาไว้เมื่อปลายปี 2018 เช่นนั้น

"ผมกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาวิธีจบมังงะเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เพราะผมสัมผัสได้ถึงแรงกดดันและความรับผิดชอบต่อบรรดาแฟนๆ ตอนนี้ผมกำลังทำงานที่หนักขึ้นๆ ในทุกๆ ค่ำคืน จนกระทั่ง...แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน หรือสามารถทำชีวิตของตัวเองให้เป็นวงจรชีวิตตามปกติได้"

ส่วนหลังจากจบมังงะที่แฟนๆ ทั่วโลกเฝ้าติดตามมาเป็นเวลาหลายปีแล้วจะมีผลงานอะไรต่อหรือไม่นั้น ผู้สร้างไททัน กล่าวว่า "ผมมีไอเดียสำหรับมังงะเรื่องต่อไปแล้วนะ เพียงแต่ยังไม่เขียน หรืออาจจะไม่เขียนอีกเลยก็ได้"

และล่าสุด หลังมีการปล่อย TRAILER อนิเมะ SEASON 4 พร้อมกับระบุว่า นี่คือ FINAL SEASON และจะออกฉายทางโทรทัศน์ในช่วงปลายปีนี้ จนสร้างความงุนงงให้กับเหล่าสาวกเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมังงะยังไม่ถึงตอนอวสานนั้น ล่าสุด อาจารย์ฮาจิเมะได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น โดยระบุว่า ผ่าพิภพไททันใกล้ที่จะถึงบทอวสานในเร็วๆ นี้แล้ว และในส่วนเนื้อเรื่องนั้นเหลืออีกเพียงแค่ 5% เท่านั้น ที่มังงะซึ่งเดินทางมาตั้งแต่ปี 2009 ต้องการจะสื่อสารกับเหล่าสาวก ทำให้มีการคาดการณ์กันแล้วว่า ในส่วนของมังงะนั้นน่าจะเหลืออีกเพียง 6-8 ตอน ก่อนจะจบลงอย่างสมบูรณ์

ข้อมูลประกอบการอ่าน

MANGA INDUSTRY IN JAPAN อุตสาหกรรมมังงะในประเทศญี่ปุ่น

ธุรกิจมังงะถือเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ทำเงินอย่างมหาศาลในประเทศญี่ปุ่น โดยยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันต่อปีมีมูลค่าสูงถึงประมาณ 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับ 40% ของตลาดหนังสือและแม็กกาซีนในประเทศญี่ปุ่น โดยปัจจุบัน ธุรกิจมังงะมี 3 สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ครอบครองตลาดอยู่ คือ KODANSHA SHUEISHA KADOKAWA GROUP

โดยหากมังงะเรื่องใดประสบความสำเร็จก็มักจะถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะออกฉายตามสถานีโทรทัศน์ทันที และหากมันสามารถบุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้สำเร็จอีก มันมักจะถูกต่อยอดไปสู่ธุรกิจอื่นๆ เช่น วิดีโอเกม คอลเลกชั่นการ์ด และสินค้าที่ระลึกอื่นๆ ซึ่งหากนำทั้งหมดมารวมกันจะมีมูลค่าสูงถึง 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี

END CREDIT…

ธุรกิจมังงะในประเทศญี่ปุ่นถูกแยกย่อยออกเป็น 5 หมวด ประกอบด้วย

โชเน็น (SHONEN) แปลตรงตัวตามภาษาญี่ปุ่น ก็คือ หนุ่มน้อย ซึ่งหมายถึงเด็กผู้ชายที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี โดยอนิเมะและมังงะในหมวดหมู่โชเน็นนี้ ส่วนใหญ่จะมีเนื้อเรื่องหลักที่ว่าด้วยฮีโร่เด็กผู้ชายที่เน้นแอ็กชั่นการต่อสู้และการผจญภัยเป็นหลัก และมังงะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมวดนี้ ก็เช่น DRAGON BALL, BLEACH, NARUTO, ONE PIECE และ ATTACK ON TITAN

เซเน็ง (SEINEN) คือ มังงะและอนิเมะที่จับกลุ่มคนอายุ 15-24 ปี ทำให้เนื้อหาในหมวดนี้ส่วนใหญ่จะเต็มไปด้วยการใช้ความรุนแรง เพศ และการเล่นกับสภาวะจิตใจของมนุษย์เป็นหลัก โดยมังงะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมวดนี้ ก็เช่น BERSERK, GHOST IN THE SHELL, AKIRA และ GANTZ เป็นต้น

โชโจ (SHOJO) ซึ่งแปลว่า เด็กผู้หญิง โฟกัสหลัก คือ กลุ่มเด็กผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี ส่วนเนื้อหาจะเน้นไปที่ความโรแมนติกและความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มหญิงสาว รวมถึงกลุ่มความหลากหลายทางเพศเป็นหลัก โดยมังงะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมวดนี้ ก็เช่น NANA, SAILOR MOON และ REVOLUTIONARY GIRL UTENA เป็นต้น

โจเซ (JOSEI) คือ มังงะและอนิเมะสำหรับกลุ่มผู้หญิงวัยผู้ใหญ่ เนื้อหาส่วนใหญ่จะว่าด้วยเรื่องประสบการณ์ชีวิตจริงหรือชีวิตรักในวัยผู้ใหญ่ รวมถึงอาจมีเนื้อหาที่รุนแรงสอดแทรก เช่น ฉากรัก การข่มขืน โดยมังงะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมวดนี้ ก็เช่น LOVELESS, PARADISE KISS และ HONEY AND CLOVER เป็นต้น

โคโดโมมูเกะ (KODOMOMUKE) นี่คือ หมวดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทำให้เนื้อหาส่วนใหญ่ จะเน้นไปที่การสอนเรื่องคุณธรรมและคุณค่าของการเป็นก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในอนาคต และจะไม่มีฉากรุนแรงเด็ดขาด โดยมังงะที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมวดนี้ ก็เช่น DORAEMON, HELLO KITTY และ MARUKO-CHAN เป็นต้น

ข่าวอื่นๆ :