รักชนะทุกสิ่ง จากสาวปาร์ตี้ 10 ปี เคยดื่มหนัก เมาหัวราน้ำทั้งที่มีโรคประจำตัวผนังหัวใจรั่วตั้งแต่เกิด เปลี่ยนตัวเองสู่นักวิ่งมินิฮาล์ฟมาราธอนทั้งที่ไม่ชอบการวิ่ง หลังพบรักอดีตดาราช่อง 7 ในสนามวิ่ง
“แต่ก่อนทุกคืนวันศุกร์ หลังทำงานเหนื่อยมาทุกอาทิตย์ก็จะต้องออกไปปาร์ตี้แฮงก์เอาต์กับเพื่อนๆ รู้สึกสนุก ก็ไปทุกวันศุกร์จนติด” น.ส.ภัทรธิรา ลีลเศรษฐพร หรือ ผึ้ง เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ย้อนเล่าเรื่องราวกว่า 10 ปีที่ผ่านมาที่เป็นจุดเริ่มต้นให้หลงใหลการปาร์ตี้ หลังเรียนจบและทำงานบริษัทแห่งหนึ่งใน กทม.
ลักษณะหน้าที่การงานที่ต้องดูแลลูกค้า บางครั้งผึ้งจำต้อง “ดื่มเหล้า” บ้างแต่เป็นส่วนน้อย และด้วยอุปนิสัยร่าเริง สดใส และมีเพื่อนเยอะหลายกลุ่มผึ้งก็มักออกไปปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนๆ บ่อยครั้ง เป็นประจำ ทั้งๆ ที่มีโรคประจำตัวผนังหัวใจรั่วตั้งแต่เกิด แต่ ผึ้ง ก็ยังเป็นสาวปาร์ตี้ตัวยงทุกคืนวันศุกร์จะมีรูปเธอปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ลงในโลกโซเชียล
...
• ดื่มคืนละ 1-2 ขวด เมาจนเกิดภาพตัด “เอ็นมือขาด” •
ผึ้งดื่มตั้งแต่ทุ่มจนถึงเวลาตีสอง ตีสาม ถ้าไม่เมาไม่กลับ บางครั้งเคยดื่มหนักกับเพื่อนๆ คืนละ 1-2 ขวด เมาหัวราน้ำจนเกิดภาพตัด ไม่รู้ว่าน็อกหลับตอนไหน ตื่นมาพบว่ามีรอยฟกช้ำตามตัวหลายจุด กระทั่งเกิดเหตุรุนแรงเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ผึ้งเมาแล้วนอนหลับ ตื่นลุกเข้าห้องน้ำแล้วล้มฟาดพื้นจน “เอ็นมือขาด” ทำให้เริ่มระวังการดื่มมากขึ้น
“ผึ้งมีโรคประจำตัว ผนังหัวใจรั่วตั้งแต่เกิด แต่ไม่รุนแรงมาก จะเหนื่อยง่าย ขึ้นบันได 4-5 ขั้นก็เหนื่อย ช่วงดื่มรู้เลยว่าสุขภาพแย่นะ แต่ตอนนั้นอายุยังน้อยด้วย ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นความสุข ก็ฉันทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ ก็ขอคลายเครียดบ้าง พอเอ็นมือขาดเริ่มต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาให้ระวังเวลาออกไปดื่ม แต่ไม่ได้หยุดเลย เข้าเฝือกยังออกไปดื่มเลยค่ะ”
• ปาฏิหาริย์รักในสนามวิ่ง ลดดื่มปาร์ตี้ พิชิต “มินิฮาล์ฟมาราธอน” •
เมื่อเปลี่ยนงานใหม่และวัยที่โตขึ้น ผึ้งเร่ิมหันมาสนใจการออกกำลังกาย เหตุเพื่อนทำทีมวิ่งชักชวน เธอจึงลองออกวิ่งบ้าง แต่ก็ได้คำตอบให้กับตัวเองว่า “ไม่มีความสุข ไม่สนุกเลย” วันแรกวิ่งได้เพียงแค่ 1 นาทีก็เหนื่อยหอบ ซึ่งเธอบอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า ไม่ควรใช้คำว่า วิ่ง มันคือการ “เดินเร็ว” จากนั้นก็ไปวิ่งบ้าง ไม่ไปบ้าง ลงงานวิ่งตามเพื่อนบ้างก็ต้องวิ่งด้วยความทรมาน เหตุพักผ่อนไม่เพียงพอ และขาดวินัย
กระทั่งพบรักกับนักวิ่งในสนามซ้อมวิ่ง แฟนเป็นคนรักสุขภาพ ไม่ใช่ปาร์ตี้บอย ไม่ดื่มเหล้า ชอบออกกำลังกาย และมักชวนเธอออกวิ่งเป็นประจำ ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ที่แฟนมีให้ผึ้งอย่างเสมอต้นเสมอปลาย พาซ้อมวิ่งให้เหมาะกับเธอ ยามบาดเจ็บจากการซ้อมวิ่งก็คอยดูแล เตือน สอนวิ่งแบบไหนปลอดภัย เทรนกล้ามเนื้อขาให้ รวมถึงหารองเท้า ถุงเท้าที่เหมาะกับการวิ่ง
เพียงไม่กี่เดือนชีวิตของผึ้งก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี หันมารักสุขภาพและออกกำลังกายแทนการดื่มเหล้า จากคนที่ชอบปาร์ตี้ ไม่ชอบการวิ่ง กลายเเป็นนักวิ่ง 3 กิโล ฟิตซ้อมจนวิ่งได้ 4 กิโล และขยับเป็น “มินิฮาล์ฟมาราธอน” ทำให้ได้สุขภาพที่ดีกลับคืน ไม่เหนื่อยหอบ รูปร่างดี หุ่นเฟิร์ม น้ำหนักลดไป 5 กิโลฯ
...
ส่วนการดื่มสังสรรค์เร่ิมลดลง นานๆ จะออกไปปาร์ตี้สักครั้ง แต่มีลิมิตอยู่เพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะอยากรักษาความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เมื่อกลุ่มเพื่อนที่เคยเป็นสาวปาร์ตี้เห็นผลดีของผึ้งหลังวิ่งออกกำลังกายก็พาหันมาออกกำลังกายเช่นเธอ วันนี้มาแชร์เรื่องราวกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ เพราะอยากให้เห็นโทษของการดื่มเหล้า และข้อดีของการออกกำลังกายที่ช่วยทำให้การความสามารถในการดื่มสุราลดลงจริงๆ เรื่องความรักนั้นเป็นผลพลอยได้
“ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นๆ หากยังคงดื่ม หรือต่อให้ดื่มแล้วไปออกกำลังกายก็ไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพ เพื่อนบางคนข้ามขั้น วิ่งจบมาราธอนก่อนผึ้งด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เพื่อนๆ ถามว่าจะเจอกันได้ที่ไหน ผึ้งก็บอกสนามซ้อมวิ่ง งานวิ่งมักจัดทุกเช้าวันอาทิตย์ ถ้ายังติดปาร์ตี้ทุกคืนวันศุกร์ วันเสาร์ร่างกายยังฟื้นไม่ทัน วันอาทิตย์จะวิ่งด้วยสภาพที่ทรมาน ต้องขอบคุณแฟนที่ทำให้รู้ว่าการออกกำลังกายดีอย่างไร” ผึ้ง กล่าวด้วยรอยยิ้ม
•"อดีตดาราช่อง 7" เผยเทคนิครัก เปี่ยมสุข 8 เดือน •
...
ชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยผลักดันและส่งเสริมจนผึ้งเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองไปในทางที่ดี เธอบอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่าวันแรกที่รู้จักกัน ไม่รู้มาก่อนว่าแฟนเป็นอดีตดารา ด้วยรูปร่าง หน้าตาคิดว่าเป็นนายแบบ และเธอไม่ใช่คนชอบดูละคร 80% จึงไม่รู้จักดาราเลย แต่พอตัดสินใจพัฒนาความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรักได้สักพัก จึงได้รู้จากเพื่อน
ต้องยอมรับว่าความรักชนะทุกสิ่ง สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่างจริงๆ สำหรับหนุ่มที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของผึ้งจากสาวปาร์ตี้ เป็นสาวเฮลตี้ คือ นายอธิวัฒน์ อภิเลิศรุ่งรัตน์ หรือ ทิว อดีตดาราช่อง 7 ราวๆ 2 ปี ขณะอายุ 25-27 ปี เคยมีผลงานละครก่อนข่าวเรื่อง ครอบครัวตึ๋งหนืด ตืดขั้นเทพ เมื่อปี 58 ปัจจุบันงานหลักเป็นพิธีกรรายการต่างๆ ทั้ง ท่องเที่ยว ช็อปปิ้ง และอีเวนต์
ทิวย้อนวันวานกับการชอบการออกกำลังกาย เริ่มจากเล่นฟุตบอล โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุเอ็นหัวเข่าขาดจึงหากีฬาอื่นๆ เล่น เข้ายิมได้ไม่นานรู้สึกเบื่อ เหตุจำเจ อยู่แต่ในห้อง วันหนึ่งเพื่อนอกหักและชวนไปวิ่ง ทิวทุ่มซื้ออุปกรณ์สำหรับวิ่ง ทั้ง เสื้อผ้า รองเท้า วิ่งกับเพื่อนจนเพื่อนหายอกหัก เกิดนึกเสียดายหากหยุดวิ่งเพราะหมดเงินกับการซื้ออุปกรณ์วิ่งไปเยอะพอสมควร จึงออกวิ่งตามสวนสาธารณะจนเจอทีมวิ่งอย่างจริงจัง จากนั้นก็ออกกำลังกายด้วยการวิ่งกับทีมมาเป็นเวลา 2 ปี
...
วันหนึ่งขณะซ้อมวิ่งกับทีม ทิวได้พบกับผึ้งซึ่งที่มาซ้อมวิ่งกับทีมในสนามวิ่งเดียวกัน ทั้งสองจึงได้รู้จัก เกิดความสัมพันธ์จากเพื่อนและพัฒนาเป็นแฟน ในช่วงคบกันแรกๆ ผึ้งมีไปปาร์ตี้บ้าง แต่หลังๆ ไม่ไป เพราะถูกชวนไปวิ่งออกกำลังกาย ผึ้งเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมส่วนตัว หันมาจริงจังกับการออกกำลังกาย กระทั่งล่าสุดสามารถวิ่งจบ 10 ฮาล์ฟ คือระยะ 21 กิโลฯ นอกจากสร้างความดีใจให้กับทั้งคู่ ทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองพบแต่ความสุขตลอด 8 เดือนที่คบกัน
“ผมรู้สึกดีที่ผึ้งพัฒนาตัวเองได้ ผมจัดตารางซ้อมให้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาตัวเองให้ไปไกลมากที่สุด เพิ่มความทนทานให้ร่างกาย จริงๆ ต้องยกเครดิตให้ผึ้งที่มีวินัย ผมเป็นแค่แรงผลักดันให้เขาจริงจังมากขึ้น แรกๆ เขาอาจจะวิ่งโดยไม่มีจุดหมาย ออกกำลังกายไปตามปกติ การออกกำลังกายเป็นเรื่องดีอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนหันมาออกกำลังกาย ลองชวนแฟนมาออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องเป็นการวิ่ง ให้ทำในกีฬาที่ชอบบางคนเข้าฟิตเนส ตีแบต ว่ายน้ำ กิจกรรมอะไรก็ไ้ดที่ทำร่วมกัน จะช่วยพัฒนาและกระชับความสัมพันธ์ มีเวลาให้กัน ได้อยู่ด้วยกันมากขึ้น” อดีตดาราช่อง 7 แนะนำ
การครองรัก หลายคู่มีปัญหา ส่วนหนึ่งนั่นเพราะมีความชอบที่ต่างกัน ไม่เข้าใจกัน เทคนิคการครองรักให้ยืนยาว ผึ้งแนะนำว่า หากไม่เข้าใจกัน อย่าปล่อยให้ข้ามคืนข้ามวัน จะเกิดความไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างเกิดปมคาใจทำไม เพราะอะไร ควรพูดคุยทำความเข้าใจกันให้เร็วที่สุด สำหรับการดื่มแอลกอฮอล์ ต้องระวังและมีลิมิต การดื่มเพื่อเข้าสังคม ไม่รู้ว่าเจอคนแบบไหน การมอมเหล้ายังมีอยู่ในสังคม
ข่าวน่าสนใจ
สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ