ยุคสมัยที่ต้องการความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย ในทุกๆ กิจกรรม ไม้เว้นแม้กระทั่งการ "รับส่งเอกสาร/สิ่งของ" เดิมมีแค่ม้าเร็ว ‘ไปรษณีย์ไทย’ แต่ ณ เวลานี้ คุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์เชื่อไหมว่า มี ‘ม้าเร็ว’ มากกว่า 600 ราย!!
ย้อนเวลาสั้นๆ 4 ปีก่อน ในปี 2559 มี ‘ม้าเร็ว’ อยู่ที่ 426 ราย จากวันนั้นสู่วันนี้ ‘เศรษฐกิจขี้เกียจ’ (Lazy Economy) หรือ ‘สังคมขี้เกียจ’ ทำให้เวลาทุกวินาทีมีค่า เกิด ‘ม้าเร็ว’ หน้าใหม่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี มากที่สุด คือ ปี 2562 ที่มี ‘ม้าเร็ว’ กำเนิดใหม่มากถึง 114 ราย และที่น่าทึ่งกว่านั้น ปี 2563 ที่เพิ่งเปิดมาได้เพียงแค่ 3 วัน ก็มี ‘ม้าเร็ว’ กำเนิดใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก 3 ราย รวมแล้ว ณ เวลาปัจจุบัน (3 ม.ค. 63) มี ‘ม้าเร็ว’ รวมกันกว่า 619 ราย มีรายได้รวมสูงถึง 2.3 หมื่นล้านบาท
จาก ‘619 ม้าเร็ว’ ที่ว่านี้ มีชาวต่างชาติร่วมลงทุนด้วยถึง 64 ราย แล้วคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์คิดว่า "ในปี 2563 สัญชาติใดที่มีมูลค่าการลงทุนมากที่สุด?"
...
หากมองย้อนดูตามถนนหนทาง ณ เวลานี้ หลายคนคงคิดว่าเป็น ‘จีน’ แน่ๆ ใช่หรือไม่?
คำตอบ คือ ไม่ใช่!!
เพราะสัญชาติที่มาลงทุน ‘ธุรกิจม้าเร็ว’ ในไทยมากที่สุด แท้จริงแล้ว คือ ‘สิงคโปร์’ มีมูลค่าการลงทุน 233.79 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 9.45% ส่วน ‘จีน’ นั้นรองลงมา มูลค่าการลงทุน 38.29 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.55%
เห็นตัวเลขเปิดต้นปี 2563 สูงกันถึงขนาดนี้ ก็มีการคาดการณ์อัตราการอยู่รอด* ของ ‘ธุรกิจม้าเร็ว’ อยู่ที่ 92.7% และการแข่งขันก็น่าจะดุเดือดไม่แพ้ปี 2562
เรียกได้ว่า ‘ธุรกิจม้าเร็ว’ เป็นธุรกิจดาวรุ่งที่ตอบสนอง ‘สังคมขี้เกียจ’ ได้อย่างดีเยี่ยม และยังเป็นทางเลือกใหม่ที่ทำเอา ‘ไปรษณีย์ไทย’ ระส่ำระสายอยู่พอสมควร แต่ก็ใช่ว่า ‘ธุรกิจม้าเร็ว’ ภายใต้การดำเนินงานของเอกชนนี้จะไม่มี "ช่องโหว่" ความผิดพลาดเลยสักนิด แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ "ผู้ทำหน้าที่ม้าเร็ว"
บางรายมีการกำหนดว่า ‘ม้าเร็ว’ ต้องเป็นพนักงานประจำของบริษัทเท่านั้น แต่ก็มีบางรายที่ทำหน้าที่เพียงเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่าง ‘ม้าเร็ว’ กับลูกค้า ซึ่งการเป็นตัวกลางนี่แหละที่เป็น "ช่องโหว่" ให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย
เหมือนอย่างกรณีล่าสุด ศิลปินนักร้องชื่อดัง ‘โต๋’ ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร ที่ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว หลังเลือกใช้บริการของบริษัทชื่อดังรายหนึ่ง แต่ "สิ่งของที่ส่งกลับหายวับไปพร้อมกับม้าเร็ว"
และเมื่อโทรศัพท์แจ้งไปยังบริษัทชื่อดังรายนั้น ก็ได้คำตอบกลับมาว่า "ติดต่อ ‘ม้าเร็ว’ ไม่ได้เช่นกัน ให้ไปแจ้งความเอง" สุดท้ายแล้ว ‘โต๋’ ก็ได้สิ่งของกลับคืนจากการดำเนินการติดตามด้วยตัวเอง
จากกรณีของ ‘โต๋’ นี้ ‘ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์’ ขอฝากคำถามถึงคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ ว่า "ใครควรเป็นคนรับผิดชอบ?"
...
ข้อ ก. ผู้ใช้บริการ
ข้อ ข. บริษัทที่ให้บริการ
ข้อ ค. ม้าเร็ว
ทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ได้รับข้อมูลที่น่าสนใจจาก ‘3 บริษัทม้าเร็ว’ อย่าง ‘แกร็บเอ็กซ์เพรส’ (GrabExpress), ‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ (Kerry Express) และ ‘อัลฟ่าฟาสต์’ (Alpha Fast) ที่ดำเนินการร่วมกับ ‘ไลน์’ (LINE) และขอนำเสนอให้คุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ได้พิจารณาหาคำตอบของคำถาม "ม้าเร็วส่งด่วนสูญหาย?"
เริ่มกันที่ม้าเร็วเบอร์แรก ‘แกร็บเอ็กซ์เพรส’ (GrabExpress) ที่การรับส่งเอกสาร/สิ่งของจะมีระบบติดตามสถานะแบบเรียลไทม์ (Real-Time) พร้อมค่าประกันสินค้า/กรณีที่ครอบคลุมสูงสุด 5,000 บาท (Bike) และ 10,000 บาท (Car และ Pick-Up) ต่อการจัดส่งแต่ละครั้ง
...
ส่วนกรณีที่มีการสูญหายพร้อมม้าเร็ว ‘แกร็บเอ็กซ์เพรส’ บอกกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า หากมีผู้ใช้บริการแจ้งเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการแจ้งเรื่องไปยังคนขับรถ (ม้าเร็ว) ทันที เพื่อให้นำพัสดุมาคืนกับทาง ‘แกร็บเอ็กซ์เพรส’ แต่หากเกิดกรณีที่คนขับรถไม่ติดต่อกลับ หรือไม่นำสิ่งของมาคืน ทาง ‘แกร็บเอ็กซ์เพรส’ จะทำการระงับสัญญาณบัญชีผู้ใช้ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีนั้น ลูกค้าจะต้องเข้าไปแจ้งความกับทางตำรวจและดำเนินคดีเอง
อีกฟากฝั่งม้าเร็วสีส้ม ‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ (Kerry Express) ยืนยันกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า บริษัทจะรับผิดชอบทุกอย่างหากมีการสูญหายระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะมีการตรวจสอบต้นเหตุและหาสาเหตุว่ามาจากไหน รวมถึงจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ไม่สามารถฟันธงได้ว่า บริษัทจะรับผิดชอบทุกกรณี หรือลูกค้าจะต้องรับผิดชอบทุกกรณี ต้องวิเคราะห์เป็นกรณีๆ ไป ซึ่งกรณีร้ายแรงไม่ค่อยมีเกิดขึ้น ในส่วนเอกสาร/สิ่งของสูญหายมีเปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะ ‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ มีระบบที่ค่อนข้างแน่นหนา กรณีที่ผิดกฎหมายร้ายแรงจึงแทบไม่มีเกิดขึ้น
...
จากข้อกำหนดและเงื่อนไขในการขนส่งของ ‘เคอรี่ เอ็กซ์เพรส’ หากเอกสาร/สิ่งของเสียหาย หรือสูญหายบางส่วน ต้องยื่นข้อร้องเรียนภายใน 14 วัน โดยที่ความรับผิดชอบในพัสดุนั้นๆ จะจำกัดเพียงการเสียหาย หรือสูญหายโดยตรง รวมมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 ใบนำส่งสินค้า เว้นแต่มีการระบุข้อตกลงอื่นร่วมกัน และขึ้นอยู่กับการชำระค่าธรรมเนียมประกันภัย
ต่อด้วยม้าเร็ว ‘อัลฟ่าฟาสต์’ (Alpha Fast) ที่ดำเนินการร่วมกับ ‘ไลน์’ (LINE) ให้ข้อมูลกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ ว่า กรณีเอกสาร/สิ่งของสูญหาย หรือเสียหายระหว่างการจัดส่ง จะมีประกันภัยสูงสุดอยู่ที่ 2,000 บาท หากเอกสาร/สิ่งของมีมูลค่าสูงก็สามารถเพิ่มประกันที่ครอบคลุมมากกว่า 2,000 บาทได้
ส่วนการติดตามหากสูญหาย ทางเจ้าหน้าที่ ‘อัลฟ่าฟาสต์’ จะดำเนินการแจ้งไปยังบริษัททันที และติดต่อลูกค้าเพื่อขออนุญาตทราบมูลค่า แล้วให้ลูกค้าเคลมเข้ามาทางบริษัท หลังจากนั้นจะจ่ายค่าชดเชยให้
แล้วกรณีแบบ ‘โต๋’ มีเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน?
ปี 2561 มีการร้องเรียน "สินค้าสูญหายระหว่างการขนส่ง" ต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จำนวน 24 ราย แต่ในปี 2562 ระยะเวลาเพียง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) มีผู้ร้องเรียนเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า อยู่ที่ 73 ราย และในจำนวนนี้มีร้องเรียน ‘ไปรษณีย์ไทย’ แค่ 1 รายเท่านั้น
หากคิดเป็นมูลค่าหยาบๆ 1,000 บาทต่อ 1 ชิ้น และ 1 ชิ้นต่อ 1 ราย เท่ากับว่า 73 ราย ก็เป็นมูลค่า 73,000 บาท เฉียดแสนแล้ว!!
และถ้ามูลค่าแต่ละชิ้นที่ส่งผ่าน ‘ม้าเร็ว’ มีมูลค่าหลักหมื่นบาทเหมือนอย่างกรณี ‘โต๋’ ความเสียหายรวมจะมากขนาดไหน?
นายพศวัตน์ จุมปา หัวหน้าฝ่ายเฝ้าระวังตรวจสอบโฆษณา สคบ. ให้ข้อมูลกับทีมข่าวเฉพาะกิจฯ เพิ่มเติมในกรณีดังกล่าวว่า หากเกิดกรณีสูญหายระหว่างทาง ความรับผิดชอบเกี่ยวกับเอกสาร/สิ่งของที่สูญหายระหว่างทางจะตกไปอยู่ที่ผู้ประกอบการ ความรับผิดชอบจะไม่ได้ตกมาอยู่ที่ผู้บริโภค ภาระการพิสูจน์จะตกไปอยู่ที่ผู้ประกอบการ หากผู้ประกอบการมาร้องเรียนกับ สคบ. ในเรื่องนี้ สคบ.จะไม่สามารถดำเนินคดีให้ได้ ผู้ประกอบการต้องเข้าแจ้งความกับทางสถานีตำรวจ และดำเนินคดีกับศาลเอง เพราะผู้เสียหายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจ ไม่ใช่ผู้บริโภคตามความคุ้มครองของผู้บริโภค
แต่หากเป็นกรณีของผู้บริโภคได้รับความเสียหาย ทาง สคบ.จะดำเนินการให้ โดยตรวจสอบว่าใครเป็นผู้ประกอบการ มีชื่อ-นามสกุล มีที่อยู่ มีบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่ โดย สคบ.จะตรวจสอบและส่งหนังสือเชิญผู้ประกอบการมาชี้แจงรายละเอียดและไกล่เกลี่ย ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อผู้ประกอบการไม่ยอมคืนเงินค่าความเสียหายให้ ทาง สคบ.จะฟ้องมูลค่าความเสียหายตามจำนวนเงินที่ผู้บริโภคได้เสียหายไป พร้อมกับดอกเบี้ยตามกฎหมายกำหนด
จากข้อมูลของ ‘3 ยักษ์ใหญ่ม้าเร็ว’ และ สคบ. เห็นได้ว่า มูลค่าการประกันกรณีสูญหายอยู่ที่ราวๆ หลักพันบาท หากเอกสาร/สิ่งของ หรือพัสดุที่ส่งผ่าน ‘ม้าเร็ว’ ไม่ว่าจะรายไหนก็ตาม ถ้ามีราคาสูงก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น และคงหนีไม่พ้นที่ผู้บริโภคจะต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกันเอาเอง
‘เศรษฐกิจขี้เกียจ’ ดันให้ ‘ธุรกิจม้าเร็ว’ เติบโตและเป็นดาวรุ่งพุ่งแรง ข้อสำคัญที่จะทำให้อยู่ในสนามแข่งได้ยาว คือ "ความไว้วางใจของผู้บริโภค" ที่ไม่ใช่แค่ส่วน "ผู้ทำหน้าที่ม้าเร็ว" เพียงอย่างเดียว "ผู้กุมบังเหียนให้บริการม้าเร็ว" ก็เช่นกัน.
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ข่าวอื่นๆ :
- สังคม "ขี้เกียจ" ดัน 4 ดาวรุ่งธุรกิจโตแรง ปี 2563
- "กองทุน SSF" ฉบับเข้าใจง่าย ตอบโจทย์ อายุต่ำกว่า 50 มั่นใจวินัยออมเป๊ะ
- "ตู้พระธรรม" กระจกสะท้อนบ้านเมือง ถึงคราถูก "ฝ้าขาว" บดบัง ตอนที่ 1
- เผยพิรุธฝ้าขาว “ตู้พระธรรม” ศิลปะ 300 ปี ใกล้เสื่อมสลายจริงหรือ ตอนที่ 2
- "ฉลาม" นักล่าแห่งท้องทะเล ที่ถูกล่าโดยไม่ตั้งใจ สู่วิกฤตการณ์ "Food Loss"
อ้างอิง :
- ข้อมูลธุรกิจรับส่งการรับส่งเอกสาร/สิ่งของ ณ วันที่ 3 มกราคม 2563 โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
- *ธุรกิจจัดตั้งใหม่ ปี 2559-2563