นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังหลายสถาบัน โวย เจอแอคเคาต์นายหน้าแสบ โพสต์หาติวเตอร์หักค่าหัวคิว แต่กลับไม่ได้สอนพิเศษเด็ก แถมเมื่อพยายามทวงเงินหลายครั้ง กลับถูกบ่ายเบี่ยง แถมล่าสุด เจอบล็อกเอาดื้อๆ เตือน เพื่อนนักศึกษาที่คิดหารายได้พิเศษ ระวังตกเป็นเหยื่อ

ในยุคโซเชียลครองเมือง ทำให้คนสามารถติดต่อกันได้ง่ายดายผ่านโลกออนไลน์ และเกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนในหลายๆ เรื่อง เช่นเดียวกับการ “กวดวิชา” ที่ไม่ได้มีรูปแบบโรงเรียนซึ่งจัดตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น กลับเกิดรูปแบบใหม่ คือ เปิดเพจทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานระหว่าง “เด็กที่ต้องการเรียนพิเศษ” และ บรรดา “ติวเตอร์” ที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาตามมหาวิทยาลัยชื่อดังที่ต้องการหารายได้พิเศษ มาพบกัน โดยจะหักหัวคิว ที่เรียกว่า “ค่าแนะนำ” หรือพูดง่ายๆ คือ ค่านายหน้า เป็นสิ่งตอบแทน

ซึ่งจุดนี้เองที่ “เปิดช่อง” ให้กลุ่มคนบางกลุ่ม “แฝงตัว” เข้ามาหาผลประโยชน์

...

นักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดัง โวย โอนเงินค่านายหน้าให้เพจหาติวเตอร์ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้สอนพิเศษ

โดยล่าสุด ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาหลายคนว่า มีแอคเคาต์เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ตามกลุ่มหางาน อ้างว่าต้องการหาติวเตอร์สอนพิเศษ แต่กลับมีพฤติกรรมไม่ชอบมาพากล เนื่องจากหลังโอนเงิน “ค่าแนะนำ” ไปให้แล้ว กลับไม่ได้สอนพิเศษเด็กที่อ้างว่ามีความประสงค์จะเรียนพิเศษแต่อย่างใด

โดย “น้องแก้ว” (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยชื่อดัง เปิดเผยกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ว่า ในช่วงปิดภาคเรียนที่ผ่านมา อยากหารายได้พิเศษ จึงไปลองหางานสอนพิเศษเด็กตามกลุ่มไลน์ และเพจเปิดรับสอนพิเศษหลายแห่ง จนกระทั่งไปพบแอคเคาต์หนึ่ง โพสต์ในกลุ่มหางาน โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่า

ต้องการหาติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ ที่บริเวณ ห้างสยาม หรือ ห้างซีคอนสแควร์ ในราคา 2 ชั่วโมง 700 บาท แต่มีค่าแนะนำ 600 บาท ซึ่งราคาค่าแนะนำเพียง 600 บาท จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยรับเป็นติวเตอร์ลักษณะนี้มาก่อน ถือว่าเป็นราคาที่ถูกมาก จึงลองทักไปสอบถามรายละเอียดกับแอคเคาต์เฟซบุ๊กรายดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยในระหว่างการสอบถามรายละเอียดนั้น เจ้าของแอคเคาต์ก็พูดคุยปกติ ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น เหมือนดั่งที่เคยติดต่อกับบรรดาเพจนายหน้าหาติวเตอร์ก่อนหน้านี้ ตนจึงตัดสินใจโอนเงินค่าแนะนำ 600 บาทไปให้ จากนั้นเจ้าของแอคเคาต์รายนี้จึงได้ให้เบอร์โทรศัพท์ติดต่อกับเด็กที่มีความประสงค์จะเรียนพิเศษภาษาอังกฤษมาให้

อ้าง พ่อป่วย ขอดูแลก่อน ยังไม่มีเวลาเรียนพิเศษ เมื่อทวงเข้าหนักๆ อ้าง พ่อตาย จัดงานศพอยู่

น้องแก้ว เล่าให้ทีมข่าวฯ ฟังต่อไปว่า เมื่อได้โทรศัพท์ไปหาน้องคนดังกล่าว ก็ได้มีการแจ้งความประสงค์และนัดหมายกันว่า จะขอเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ 2 วัน คือ วันพุธ และวันเสาร์ วันละ 2 ชั่วโมง แต่เมื่อถึงกำหนดวันนัดหมาย น้องคนดังกล่าวกลับแจ้งมาว่า คุณพ่อป่วย ต้องไปเฝ้าพ่อที่โรงพยาบาล ขอต่อรองว่าจะขอเรียนพิเศษแบบออนไลน์แทน ตนเองจึงตอบตกลง

...

อย่างไรก็ดี เมื่อถึงเวลานัดหมาย คือ เวลา 20.00 น. น้องที่แจ้งความประสงค์ว่าจะขอเรียนพิเศษก็ไม่ติดต่อมา แม้กระทั่งตนเองรอคอยจนถึงเวลา 00.00 น. อีกฝ่ายจึงไลน์มาแจ้งว่า ต้องขอโทษด้วยที่ผิดนัดในวันนี้ เนื่องจากยุ่งอยู่กับการดูแลพ่อที่ป่วย และได้ขอนัดหมายการสอนออนไลน์อีกครั้งในวันรุ่งขึ้น

กระทั่งถึงเวลานัดหมายครั้งที่สอง ในเวลา 22.00 น. คราวนี้ไม่มีการติดต่อใดๆ จากอีกฝ่ายเลย จึงได้พยายามติดต่อกลับไปหาอีกฝ่ายหลายครั้งในเวลาต่อมา กระทั่งน้องคนดังกล่าวตอบกลับมาว่า ต้องขอโทษด้วยช่วงนี้ยุ่งมาก ไม่สามารถเรียนพิเศษได้ เนื่องจากคุณพ่อเพิ่งเสียชีวิต เมื่อเจอคำตอบแบบนั้น ด้วยความเกรงใจ จึงตัดสินใจรอให้น้องจัดการเรื่องพิธีการให้เสร็จสิ้นไปก่อน

สุดงง ทวงหนักๆ คนหนึ่งบอก “เป็นแฟน” อีกคนบอก “แฟนเพื่อน” ก่อนบล็อกหนีดื้อๆ

นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังเล่าให้ทีมข่าวฯ ฟังต่อด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า แต่แล้ว ผ่านไปอีกไม่กี่วันก็พบเห็นว่า แอคเคาต์เจ้าปัญหารายนี้ได้ไปโพสต์หาคนที่สนใจจะสอนพิเศษในรูปแบบเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้มีคนมาคอมเมนต์ว่า ตั้งแต่รับงานไปยังไม่ได้สอนพิเศษเด็กตามที่ได้เคยส่งมอบงานเลยสักครั้ง เห็นดังนั้นตนเองจึง inbox ไปหา เพื่อขอเงินค่าแนะนำคืน เพราะยังไม่ได้สอนพิเศษตามที่ส่งงานมาให้

...

เบื้องต้นได้รับคำตอบว่า จะโอนเงินคืนให้ภายในเวลา 15.00 น. แต่แล้วเมื่อถึงเวลาที่แจ้งว่าจะโอนเงิน กลับถูกบ่ายเบี่ยงอ้างว่า ติดสอนพิเศษอยู่ เดี๋ยวจะโอนเงินให้ แต่แล้วเมื่อถูก inbox ไปทวงเงินซ้ำๆ กันหลายๆ ครั้ง จนกระทั่งถูกบล็อกการติดต่อในที่สุด

เมื่อเป็นเช่นนั้น ตนเองจึงมั่นใจว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่นอน จึงไปโพสต์แจ้งเตือนคนอื่นในเพจกลุ่มหางานหลายแห่ง ซึ่งหลังจากโพสต์ได้ไม่นาน แอคเคาต์เจ้าปัญหารายนี้กลับ inbox มาหาอีกครั้ง พร้อมขอโทษที่บล็อกตนเอง และชี้แจงว่าเด็กที่ต้องการเรียนพิเศษนั้น ต้องการเรียนจริงๆ และยังเป็นแฟนของตนเองอีกด้วย

ได้ยินดังนั้น เธอจึงสอบถามไปยังเด็กที่ต้องการจะเรียนพิเศษอีกครั้งว่า เป็นอะไรกับ เจ้าของแอคเคาต์รายนี้ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมา คือ ตนเองเป็นแฟนของเพื่อนแอคเคาต์เจ้าปัญหา เมื่อได้ยินคำตอบที่ไม่ตรงกันเช่นนี้ ตนเองจึงคิดว่า ไม่น่าจะผิดไปจากที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรก

...

แจ้งความ ทวงเงินคืนแล้ว พร้อมเตรียมรวมตัวผู้เสียหาย เอาผิดเพิ่ม

เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ “น้องแก้ว” จึงได้ตัดสินใจบอกอีกฝ่ายไปว่า หากไม่โอนเงินคืนมา จะไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ก็ได้รับคำขอร้องกลับมาว่า อย่าไปแจ้งความเลย เดี๋ยวจะโอนเงินคืนมาให้ แต่จนแล้วจนรอด ตนเองก็ยังคงไม่ได้รับเงินคืน จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

แถมเมื่อได้ลองสอบถามไปยัง บรรดาติวเตอร์คนอื่นๆ ที่เคยหลงมาใช้บริการเพจรายนี้ ก็พบว่า มีนักศึกษาอีกหลายสิบคนพบเจอประสบการณ์ในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ซึ่งเมื่อได้หารือกัน ทั้งหมดจึงมีความคิดว่า ควรจะรวมตัวกันนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของแอคเคาต์รายนี้ต่อไป

“บางคนมองว่าเป็นเงินเล็กๆ น้อย แค่ไม่กี่ร้อยบาท แต่หากนับดูแล้ว มีคนที่โดนแบบนี้หลายสิบคน โอนเงินให้หัวละ 600 บาท รวมๆ กันก็หลายหมื่นบาทนะคะ เราไม่อยากให้เขาไปทำกับใครแบบนี้อีก และอยากให้เขาได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ตอนนี้มีผู้เสียหายไปแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา” นศ.สาวเคราะห์ร้ายยืนยันเสียงหนักแน่นกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์

Make Story ย้ำความน่าเชื่อถือ แต่น่าสงสัย พยายามเร่งเร้าปิดจ๊อบ โอนเงินค่าแนะนำ

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ได้เกิดขึ้นกับ นศ.ชาย มหาวิทยาลัยชื่อดังเช่นเดียวกัน “หนุ่ม” (นามสมมติ) เปิดเผยกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ว่า ตนเองอยากหารายได้พิเศษระหว่างเรียน เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 62 จึงลองไปค้นหาตามเพจหางานต่างๆ กระทั่งไปพบกับโพสต์หาติวเตอร์ในลักษณะเดียวกันกับกรณี น้องแก้ว ซึ่งได้โพสต์ข้อความระบุว่า ต้องการหาคนสอนคณิตศาสตร์ นักเรียน ม.5 เน้นเนื้อหาตามชีท สอนอาทิตย์ละครั้ง ค่าสอน 800 บาทต่อ 2 ชั่วโมง ค่าแนะนำ 900 บาท

เมื่อติดต่อไปว่า “สนใจเป็นติวเตอร์” แอคเคาต์เจ้าของโพสต์ดังกล่าวจึงได้ให้ QR Code ไลน์ ของผู้ที่อ้างว่าต้องการจะเรียนพิเศษมาให้ แล้วกับบอกว่า หากตกลงกับผู้เรียนได้แล้ว ให้โอนค่านายหน้า หรือค่าแนะนำ และส่งสำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารมาให้ พร้อมระบุว่า หากไม่มีการเรียน หรือนักเรียนหาย สามารถขอเงินคืนได้

หลังได้คุยกับคนที่อ้างว่าต้องการจะเรียนพิเศษด้วยผ่านทางไลน์เบื้องต้น ตนเองก็รู้สึกว่ามีพฤติกรรมที่น่าสงสัย เนื่องจากพยายามเร่งรัดให้ตนเองตัดสินใจแบบรวดเร็วผิดปกติ พร้อมกับระบุว่า หากสนใจจะได้บอกกับเพจดังกล่าว และให้ตนเองรีบโอนเงินค่าแนะนำไปให้แอคเคาต์นายหน้าดังกล่าวโดยเร็วอีกด้วย แต่ด้วยเพราะเพิ่งจะมาสอนพิเศษในลักษณะดังกล่าวเป็นครั้งแรก ในตอนนั้นจึงไม่ติดใจอะไรมากนัก และได้โอนเงินค่าแนะนำ จำนวน 900 บาทไปให้กับเจ้าของแอคเคาต์รายดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา

แต่แล้ว หลังจากโอนเงินค่านายหน้าไป เด็กคนดังกล่าวก็หายเข้ากลีบเมฆ หนำซ้ำเมื่อติดต่อไปทาง “เจ้าของแอคเคาต์เจ้าปัญหา” ก็พบว่า มีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงที่จะโอนเงินคืนให้ โดยอ้างเพียงว่า จะพยายามติดต่อเด็กรายดังกล่าวให้ และเมื่อพยายามทวงเงินไปอีกหลายครั้ง ก็เงียบหายไปอีกเช่นกัน และจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ก็ยังคงไม่ได้รับการติดต่อจากทั้งเด็กที่อ้างว่าต้องการเรียนพิเศษ และ หรือเจ้าของแอคเคาต์นายหน้ารายดังกล่าวแต่อย่างใด

“ผมเสียความรู้สึกมาก ไม่คิดว่าจะมีคนหากินกับอาชีพ “ติวเตอร์” ที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ และเป็นความหวังของผู้เรียนที่ต้องการพัฒนาตนเอง

เขา Make story จนเชื่อว่าคงไม่มีอะไรตุกติก ตอนนี้ติดต่อไม่ได้เลย ทั้งทางไลน์ หรือทางเฟซ ผมไปโพสต์เตือนไปตามกลุ่มหางานหลายกลุ่ม ก็พบว่ามีผู้เสียหายอีก 2-3 คนทักมา พอคุยกันจึงรู้ว่าเจอเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายๆ กันเช่นกัน แต่ที่น่าแปลกคือ แม้ชื่อเพจ และเด็กที่ต้องการจะเรียนพิเศษอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ชื่อบัญชีที่ให้โอนเงินค่านายหน้าไป กลับเป็นชื่อเดียวกัน ซึ่งแสดงว่าน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน” หนุ่ม กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยกับทีมข่าวฯ

อย่างไรก็ดี หลังได้รับข้อมูลจาก “แก้ว” และ “หนุ่ม” ในวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ได้พยายามติดต่อไปสอบถามข้อเท็จจริงกับ 2 เจ้าของแอคเคาต์ดังกล่าว และเบอร์โทรศัพท์ของเด็กที่อ้างว่าต้องการเรียนพิเศษตามที่แก้วและ หนุ่มให้ข้อมูล

ซึ่งทีมข่าวฯ พบว่า ทั้ง 2 แอคเคาต์ยังคงเปิดใช้งานตามปกติ ในขณะที่เบอร์โทรศัพท์ และไลน์ของเด็กที่อ้างว่าต้องการเรียนพิเศษ เมื่อทีมข่าวฯ พยายามติดต่อไป กลับไม่สามารถติดต่อได้แต่อย่างใด

และเมื่อทีมข่าวฯ ไปสำรวจตามเพจกลุ่มจัดหางานหลายแห่ง ยังพบด้วยว่า มีบรรดาติวเตอร์นักศึกษาหลายสิบราย โพสต์แจ้งเตือนบรรดาติวเตอร์มือใหม่ทั้งหลายให้ระวังพฤติกรรมของทั้ง 2 แอคเคาต์เจ้าปัญหารายนี้ด้วย

ทั้งนี้ หากท่านใดมีประสบการณ์ในลักษณะเดียวกันกับ 2 นักศึกษา และอยากให้ข้อมูลกับ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เพิ่มเติม สามารถติดต่อ บอกเล่าประสบการณ์กับทีมข่าวฯ เพิ่มเติมได้ที่ reporter.thairath@gmail.com หรือ Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ และช่วยกันแชร์ข่าวนี้เพื่อเตือนภัย ไม่ให้ใครหลงกลตกเป็นเหยื่อ.

ข่าวน่าสนใจ

สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่