เปิดขุมทรัพย์ "มหาเศรษฐีพันล้านแห่งอาเซียน" รวมแล้วมีกว่า 109 คน และใครจะคาดคิดว่า ประเทศที่มี "มหาเศรษฐีพันล้าน" มากที่สุด จะเป็น "ประเทศไทย"
การจัดอันดับ "มหาเศรษฐีพันล้าน" ทั่วโลกของนิตยสาร FORBES มีขึ้นเป็นประจำทุกปี และปีนี้ก็อีกเช่นกัน ซึ่งมหาเศรษฐีพันล้านที่มีความมั่งคั่งสุทธิมากที่สุดในโลก ก็หนีไม่พ้น ‘เจฟฟ์ เบซอส’ (Jeff Bezos) หรือที่เรารู้จักกันดีในนามผู้ก่อตั้งอาณาจักรอี-คอมเมิร์ซที่ยิ่งใหญ่ ‘อเมซอน’ (Amazon) โดยความมั่งคั่งสุทธิของ ‘เจฟฟ์’ มีมากถึง 131 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 4 ล้านล้านบาท
มากกว่าความมั่งคั่งสุทธิรวมของมหาเศรษฐีพันล้านในไทยซะอีก!!
...
เมื่อมาลองดูใน "โซนอาเซียน" ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
มี "มหาเศรษฐีพันล้าน" รวมกันถึง 109 คน!!
และในจำนวนนี้ มีมหาเศรษฐีพันล้านที่ติด 100 อันดับแรก ถึง 4 คน เป็นอินโดนีเซีย 2 คน คือ สองพี่น้องแห่งตระกูล ‘ฮาร์โตโน’ เป็นที่รู้จักกันดีในอุตสาหกรรมด้านยาสูบและเป็นผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ที่สุดในอินโดนีเซียอีกด้วย โดยอยู่ในอันดับ 54 ‘โรเบิร์ต บูดี ฮาร์โตโน’ (R.Budi Hartono) ความมั่งคั่งสุทธิ 18.6 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 5.7 แสนล้านบาท) และอันดับ 56 ‘ไมเคิล บัมบัง ฮาร์โตโน’ (Michael Hartono) ความมั่งคั่งสุทธิ 18.5 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 5.6 แสนล้านบาท)
และไทย 2 คน ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ แห่งอาณาจักรเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือที่รู้จักกันดีในนาม ‘ซีพี’ (CP) ซึ่งอยู่ในอันดับ 75 มีความมั่งคั่งสุทธิ 15.2 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 4.6 แสนล้านบาท) และอันดับ 87 ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ แห่งอาณาจักรไทยเบฟเวอเรจ หรือ ‘ไทยเบฟ’ มีความมั่งคั่งสุทธิ 14.5 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 4.4 แสนล้านบาท)
แน่นอนว่า ในเรื่องนี้ ‘ไทย’ ก็ไม่แพ้ใคร มี "มหาเศรษฐีพันล้าน" มากที่สุดในอาเซียน ถึง 31 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 94.8 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 2.9 ล้านล้านบาท!!
...
ตามมาด้วย ‘สิงคโปร์’ ที่มีมหาเศรษฐีพันล้าน 22 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 71.3 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท), ‘อินโดนีเซีย’ 21 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 78.5 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 2.4 ล้านล้านบาท), ‘ฟิลิปปินส์’ 17 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 47.7 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 1.5 ล้านล้านบาท), ‘มาเลเซีย’ 13 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 61.6 พันล้านดอลลาร์ฯ (1.87 ล้านล้านบาท) และเวียดนาม 5 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 13.6 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 4.1 แสนล้านบาท)
ส่วนบรูไนฯ, กัมพูชา, ลาว และเมียนมา ไม่มีมหาเศรษฐีพันล้าน
เทียบชั้นมหาเศรษฐีพันล้าน "เบอร์ 1" VS "เบอร์ 2"
ย้อนไป 10 ปีก่อน หรือปี 2553 ในตอนนั้น ‘ไทย’ มีมหาเศรษฐีพันล้านน้อยกว่า ‘สิงคโปร์’ 1 คน คือ ‘ไทย’ มีมหาเศรษฐีพันล้าน 3 คน ส่วน ‘สิงคโปร์’ มี 4 คน
แต่ในปี 2555 ‘ไทย’ ตีเสมอมาเทียบเท่ากับ ‘สิงคโปร์’ มีมหาเศรษฐีพันล้าน 5 คนเท่ากัน
...
แต่ความมั่งคั่งสุทธิรวมกลับไม่เท่ากัน!!
‘สิงคโปร์’ มีความมั่งคั่งสุทธิรวม 11.6 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 3.5 แสนล้านบาท) ขณะที่ ‘ไทย’ มีความมั่งคั่งสุทธิรวม 20.6 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 6.3 แสนล้านบาท) มากกว่าเกือบ 2 เท่า
แล้วมหาเศรษฐีพันล้าน ‘ไทย’ เริ่มแซง ‘สิงคโปร์’ ปีไหน?
คำตอบ คือ ปี 2561
นับตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมา ‘สิงคโปร์’ มีมหาเศรษฐีพันล้านเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมากกว่า ‘ไทย’ จนกระทั่งมาถึงปี 2561 ที่ ‘ไทย’ มีมหาเศรษฐีพันล้านแซงหน้า ‘สิงคโปร์’ โดย ‘ไทย’ มี 30 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 93.3 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 2.8 ล้านล้านบาท) ส่วน ‘สิงคโปร์’ มี 22 คน ความมั่งคั่งสุทธิรวม 64.5 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 1.96 ล้านล้านบาท)
‘ไทย’ ดินแดนมหาเศรษฐีพันล้านแห่งอาเซียน
จาก "มหาเศรษฐีพันล้าน" 31 คน ที่มีความมั่งคั่งสุทธิรวม 94.8 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 2.9 ล้านล้านบาท) เป็นชาย 28 คน, หญิง 2 คน และคู่ชาย-หญิง 1 คู่ และเป็นตระกูล ‘เจียรวนนท์’ ถึง 9 คน
...
ในส่วนของผู้หญิงที่เป็นมหาเศรษฐีพันล้านของไทย คือ ‘ยุพา เจียรวนนท์’ และ ‘สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’ มีความมั่งคั่งสุทธิ 1.2 พันล้านดอลลาร์ฯ (ราว 3.7 หมื่นล้านบาท)
อยากมั่งคั่งเหมือน "เจ้าสัว"
แล้วสุดท้าย หากอยากมีความมั่งคั่งเหมือน ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ ที่มีความมั่งคั่งสุทธิ 15.2 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 4.6 แสนล้านบาท ด้วยฐานเงินเดือนขั้นต่ำนักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่ 15,000 บาท จะต้องใช้เวลากี่ปี?
คำตอบ คือ 2,555,556 ปี
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
ข่าวอื่นๆ :
- คนไทยหนี "สังคมสูงวัย" ไม่พ้น แต่ต้อง "รวยก่อนแก่"
- อาหารแพง "กินเจ" แค่บางมื้อ แห่ซื้อปรุงสำเร็จ เงินสะพัดหมื่นล้าน
- "แฟรงก์ อบาเนล" ต้นฉบับนักต้มตุ๋นขั้นเทพ "เป็นใครก็ได้ที่อยากเป็น"
- จาก "บูเช็คเทียน" กลยุทธ์ "ทูตแพนด้า" พันล้าน "ช่วงช่วง" ตาย ส่อจ่ายมากโข
- "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ" จากหนังฉายคั่นกลาง สู่ตำนานรักฮ่องกงฟีเวอร์
ข้อมูลอ้างอิง :
- BILLIONAIRES : THE RICHEST PEOPLE IN THE WORLD : FORBES