เห็นกระแสความนิยมในนักแสดงซีรีส์จีนและภาพยนตร์จีนช่วงนี้แล้ว ทำให้นึกย้อนไปเมื่อ 29 ปีก่อน ที่ตอนนั้นกระแสความนิยมชมชอบไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แค่พูดชื่อเรื่องออกมา ทุกคนที่ได้ยินจะต้องร้อง "อ๋อ!"

ณ วันที่ 8 กันยายน 2533 ภาพยนตร์ฮ่องกงที่ถูกเรียกกันว่า "หนังคั่นกลาง" หรือ "หนังฆ่าเวลา" รอการมาของภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ได้ฤกษ์เข้าโรงฉายวันแรก

บริษัท นนทนันท์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ควักเงินจ่ายค่าลิขสิทธิ์นำเข้าหลักแสนบาท ด้วยความคิดที่ว่าเอาฉายรอไปก่อน ไม่ได้คาดหวังอะไรกับรายได้มากมายนัก

แต่ปรากฏว่า "สิ่งที่เกิดขึ้น กลับไม่เป็นดั่งที่คิด"

ทุกคนที่เดินออกจากโรงภาพยนตร์ต่างเอาพูดกันปากต่อปาก เล่าเรื่องราวภาพยนตร์นี้ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ หากคนที่ไม่เคยดูก็แทบจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง บางคนดูกันมากกว่า 3 รอบก็มี

หากเดินสุ่มถามว่า "รู้จัก ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ไหม?"

คงไม่มีใครไม่รู้จัก

แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้ดูก็ยังไม่อาจปฏิเสธว่าไม่รู้จัก

...

‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ หรือ A Moment of Romance ภาพยนตร์ฮ่องกง แนวโรแมนติก-แอคชัน-ดราม่า ที่แสนจะธรรมดาๆ รับบทนำโดย ‘หลิว เต๋อหัว’, ‘อู๋ เชียนเหลียน’ และ ‘อู๋ เมิ่งต้า’

ที่กลายมาเป็นตำนานรักแห่งฮ่องกง ระหว่างหนุ่มนักเลงสมาชิกแก๊งอันธพาล ที่พรหมลิขิตชักพาให้มาพบกับลูกสาวเศรษฐี

การหลบหนี หักหลัง ล้างแค้น และความรัก นำไปสู่ฉากเรียกน้ำตา ...

"2 ตัวเอกต้องจบชีวิต และอีก 1 ตัวเอกที่ต้องสวมชุดเจ้าสาวเดินเดียวดายบนท้องถนน"

หลายคนเดินเข้าออกโรงภาพยนตร์ซ้ำๆ เพื่อซื้อตั๋วดูซ้ำๆ แม้รู้ตอนจบ แม้รู้เส้นเรื่องก็ยังเลือกที่จะดูอีก

เกิดปรากฏการณ์ ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ฟีเวอร์

หน้าโฆษณาบนหนังสือพิมพ์ที่เคยคิดจะใช้โปรโมทภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ ก็ถูกสับเปลี่ยน ขึ้นโฆษณา ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ แทน

‘นนทนันท์’ ออกประกาศรายได้แห่งความสำเร็จ ในยุคที่ค่าตั๋วอยู่ที่ 20-30 บาทเท่านั้น กวาดรายได้ไป 18 ล้านบาท!!

ในต่างประเทศเองก็รายได้ถล่มทลายไม่แพ้กัน รายได้รวมภาพยนตร์ทั้งหมดอยู่ที่ 32,899,353 ดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 127 ล้านบาท!!

ด้วยกระแสที่ยากจะต้านทาน ความฟีเวอร์ที่ใครๆ ก็อยากเป็น ‘หลิว เต๋อหัว’ เทรนด์แฟชันแต่งตัวเลียนแบบ ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง

"สวมแจ็คเก็ต ใส่แว่นดำเรย์แบนด์ ทำผมแสกกลาง โฉบ Suzuki RG500 Gamma"

แม้อากาศบ้านเราจะร้อน แต่คนไม่หวั่น ขอเท่ไว้ก่อน อยากสวมบทบาทแบบพี่ ‘หลิว เต๋อหัว’ แห่งตำนานรักหลังมอเตอร์ไซค์

...

‘นนทนันท์’ จึงตัดสินใจนำเข้าฉายในโรงภาพยนตร์อีกรอบในปีถัดมา

และใครว่าคนเคยดูแล้วจะไม่ดูอีก

สำหรับ ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ไม่ใช่เลย

ยังมีคนเดินเข้าโรงภาพยนตร์ซื้อตั๋วดูต่อเนื่อง กวาดรายได้รวมแล้ว 2 รอบกว่า 23 ล้านบาท

คิดดูว่าถ้าค่าตั๋วเท่ากับสมัยนี้ รายได้จะอยู่ที่เท่าไร?

เฉียดๆ ร้อยล้านบาทเลยก็ว่าได้

ความสำเร็จของภาพยนตร์ ไปสู่นักแสดง ไปสู่เทรนด์แฟชันและมอเตอร์ไซค์ จนไปถึงเพลงประกอบภาพยนตร์

ยุคนั้นยังเป็นแบบเทปตลับ คนซื้อกันถล่มทลาย ถ้านับยอดสตรีมมิ่งแบบสมัยนี้คงติดชาร์ตอันดับ 1 ยาวๆ

เพลงที่ฮิตสุดๆ เห็นจะเป็นเพลง If the World Had Romance ที่ร้องโดย ‘เชอร์ลีย์’ (Shirley Yuen) มีการแปลในหลากหลายภาษา ไม่เว้นแม้แต่ภาษาไทย ในชื่อเพลง “อยู่เพื่อใคร”

ในงานประกาศรางวัลภาพยนตร์ฮ่องกง ครั้งที่ 10 ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ก็เข้าชิงถึง 4 สาขา ทั้งดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, เพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม ‘อู๋ เชียนเหลียน’ และนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม ที่ ‘อู๋ เมิ่งต้า’ สามารถคว้ารางวัลไปนอนกอดได้สำเร็จสมกับที่ทุ่มทุน

...

ส่วนพี่ ‘หลิว เต๋อหัว’ แม้จะไม่ได้เข้าชิงรางวัลใด แต่ปรากฏการณ์ฟีเวอร์ในตัวพระเอกคนนี้กลับไม่ธรรมดา

จากที่คนไม่รู้จัก กลายเป็นรู้จัก เล่นเรื่องไหน คนแห่ตามดู กลายเป็นไอดอลแห่งยุค สัญลักษณ์ "นักรักนักเลง"

หลังจากนั้น ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ ก็มีตามมาอีก 2 ภาค ถึงแม้ว่าจะคุ้นตาว่ามีมากกว่านี้ แต่ที่เป็นทางการจริงๆ แล้ว มีเพียง 3 ภาคเท่านั้น

A Moment of Romance II หรือ ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 2’ เข้าฉายเมื่อปี 2536 เล่าเรื่องในแบบใหม่ แต่มีธีมไปทางเดียวกัน ‘อู๋ เชียนเหลียน’ กลับมารับบทนำอีกครั้ง แต่ ‘หลิว เต๋อหัว’ ไม่ได้กลับมาร่วมแสดงด้วย แต่ได้ ‘กัว ฟู่เฉิง’ มารับบทแทน

สำหรับ A Moment of Romance III หรือ ‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 3’ ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย เข้าฉายปี 2539 คราวนี้ ‘หลิว เต๋อหัว’ กลับมารับบทคู่กับ ‘อู๋ เชียนเหลียน’ อีกครั้ง

...

จากความสำเร็จทั้งหมดนั้น

‘ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ’ จึงนับเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่ผลจากความสำเร็จไม่ได้มาเพราะการโปรโมท โหมโฆษณา แต่เป็นเพราะเนื้อหาที่กินใจจนเกิดการพูดกันปากต่อปาก ยกนิ้วให้เป็น "ตำนานรักฮ่องกง" ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง.

ข่าวอื่นๆ :