คนเราจะปลอมเป็นใครก็ได้ โกหก หลอกลวงไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ ได้จริงๆ หรือ? ... แน่นอนว่า "ยาก" แต่ใช่ว่าจะมีคนทำไม่ได้ ย้อนกลับไป 50 กว่าปีที่แล้ว มี "ชายคนหนึ่ง" เขาทำได้ และทำมาแล้ว ซึ่งเขาคนนี้บอกว่า "เขาอยากเป็นใครก็ได้ ที่เขาอยากเป็น"

เขาคนนั้นเป็นใคร?

มาทำความรู้จักกัน!!

ย้อนกลับไปปี 1963 หรือ 56 ปีที่แล้ว การถือกำเนิดของ "นักต๋มตุ๋น" ที่ถือเป็นต้นฉบับขั้นเทพ ชายคนนี้มีนามว่า ‘แฟรงก์ อบาเนล จูเนียร์’ หรือคนรู้จักกันดีว่า แฟรงก์ อบาเนล

เหยื่อรายแรกของ ‘อบาเนล’ ไม่ใช่ใครคนอื่นไกล ก็ "พ่อ" ของ ‘อบาเนล’ เอง

ในตอนนั้น ‘อบาเนล’ อายุเพียงแค่ 15 ปี แผนลวงของเขาเริ่มต้นขึ้นด้วยการทำทีใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมัน ซื้อยางรถยนต์, แบตเตอรี่ หรือแม้แต่อุปกรณ์อะไหล่รถยนต์อื่นๆ แล้วใช้อุบายโน้มน้าวให้พนักงานปั๊มน้ำมันยอมทอนเงินส่วนที่เหลือเป็นเงินสด ซึ่งเขาก็ทำสำเร็จ ได้เงินสดไปใช้เป็นกอบเป็นกำ

...

แต่คนโชคร้ายดันกลายเป็น "พ่อ" ตัวเอง ที่ต้องมารับผิดชอบตามกฎหมาย กลายเป็น "เหยื่อ" ที่ต้องชดใช้เงินกว่า 3,400 ดอลลาร์ฯ หรือราว 1 แสนบาท

และในปีต่อมา ช่วงปี 1964 ‘อบาเนล’ ในวัย 16 ปี ต้องเผชิญกับสถานการณ์ครอบครัวที่ไม่เหมือนเดิม พ่อแม่หย่าร้าง เกิดความตึงเครียด จึงตัดสินใจก้าวขาออกจากบ้าน

นั่นคือ "จุดเริ่มต้น" ที่นำ ‘แฟรงก์ อบาเนล’ เข้าสู่เส้นทาง "นักต้มตุ๋น" ระดับโลก ที่เขาจะเป็นอะไรก็ได้ ที่เขาอยากเป็น

ด้วยเงินติดตัวที่มีอยู่เพียงน้อยนิด และการศึกษาที่ไม่ได้ร่ำเรียนอย่างจริงจัง ‘อบาเนล’ จึงคิดหาหนทางเพื่อความอยู่รอด เขาแก้ไขใบขับขี่รถยนต์ด้วยการโกงอายุเพิ่มอีก 10 ปี และปลอมแปลงประวัติการศึกษาใหม่ให้เกินจริง

แน่นอนว่า สิ่งนี้มันทำให้ ‘อบาเนล’ ได้งานและมีรายได้

แต่รายได้ที่ได้มามันยังไม่พอ!!

‘อบาเนล’ ใช้ไหวพริบที่เหนือกว่าเด็กวัยรุ่นทั่วไป สร้างรายได้จากการทำ "เช็คปลอม"

‘อบาเนล’ ปรับลุคการแต่งตัวให้ดูภูมิฐาน สร้างคาแรกเตอร์ให้น่าเชื่อถือ หอบเช็คปลอมที่เขียนขึ้นมาเองไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ทำทีชวนพนักงานพูดคุยหวังหันเหความสนใจไม่ให้จับพิรุธได้ เขาทำแบบนี้อยู่สักระยะ กว่าธนาคารจะรู้ว่า "เช็คเด้ง" กว่าเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบพบและดำเนินคดี ...

‘อบาเนล’ ก็ไหวตัวทัน หอบเงินกว่าหลักล้านบาทหลบหนีไปก่อนแล้ว

คุณเป็นใคร? ... เป็นใครก็ได้ที่อยากเป็น

‘อบาเนล’ เป็น "นักบิน" ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนการบิน

‘อบาเนล’ เป็น "แพทย์" ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนการแพทย์

‘อบาเนล’ เป็น "ทนายความ" ทั้งๆ ที่ไม่เคยเรียนกฎหมาย

‘อบาเนล’ เป็นแม้กระทั่ง "อาจารย์มหาวิทยาลัย"

เขาทำได้อย่างไร?

...

ด้วยปฏิญาณไหวพริบ บุคลิกเฉพาะตัวที่น่าทึ่ง ‘อบาเนล’ สวมบทบาท "นักต้มตุ๋น" อีกครั้ง ด้วยการเริ่มต้นอาชีพ "นักบิน"

สายการบิน ‘แพน อเมริกัน เวิลด์ แอร์เวย์ส’ (Pan American World Airways) หรือ ‘แพนแอม’ (Pan Am) คือ สายการบินเป้าหมายที่ ‘อบาเนล’ เลือก เขาแสร้งทำทีเป็นว่าจะเขียนบทความเชิงสารคดีเกี่ยวกับ ‘แพนแอม’ ลงนิตยสารของโรงเรียน และนั่นก็เป็นช่องทางที่ทำให้เขาได้เป็น "นักบิน" อย่างที่ต้องการ

ปฏิบัติการของ ‘อบาเนล’ เริ่มขึ้น เขาโทรไปยังสำนักงานใหญ่ของ ‘แพนแอม’ แล้วหลอกว่า ชุดเครื่องแบบนักบินของเขาหายไประหว่างการส่งทำความสะอาดที่โรงแรม มีความจำเป็นต้องใช้ ซึ่งแน่นอนว่า เขาได้ชุดเครื่องแบบมาตามที่หวัง และสวมบทบาทการเป็นนักบินด้วยการใช้ "บัตรประจำตัวปลอม"

ไม่เพียงแต่บัตรประจำตัวปลอมเท่านั้น ‘อบาเนล’ ยังปลอมแปลงใบอนุญาตการบินจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (F.A.A.) ความแยบยลในอุบายของเขา ทำให้เขาสามารถเดินทางไปกว่า 250 ไฟลท์ และบินถึง 26 ประเทศทั่วโลก ได้สิทธิพิเศษมากมาย โดยไม่มีใครจับสังเกตได้

แต่แล้วตำรวจเอฟบีไอ (FBI) ก็เริ่มแกะรอย ‘อบาเนล’ ได้อีกครั้งจากเช็คปลอม ซึ่งอีกนั่นแหละ ‘อบาเนล’ ไหวตัวทัน หลบหนีไปได้อีกครั้ง

book
book "Catch Me If You Can" (P'34)

...

คราวนี้มาในบทบาทใหม่ "กุมารแพทย์" ในจอร์เจีย

ด้วยความโม้ ความขี้คุย ‘อบาเนล’ กล่าวอ้างกับคนอื่นว่าตัวเองเป็น "กุมารแพทย์" จนคนเชื่อ เข้าตีสนิทกับแพทย์คนอื่นๆ ในตอนนั้นโรงพยาบาลท้องถิ่นมีความต้องการตำแหน่ง "กุมารแพทย์" และก็เป็นการเปิดช่องให้ ‘อบาเนล’ สวมรอยเข้าไปได้ง่ายๆ

แม้ว่า ‘อบาเนล’ จะใช้ไหวพริบช่วยให้รอดพ้นจากเคสต่างๆ มาได้ แต่เขาก็เริ่มตระหนักแล้วว่า ถ้าหากฝืนต่อไป ชีวิตเขาอาจจะเสี่ยงได้ หากว่าวันหนึ่งเขาไม่มีความสามารถมากพอในสถานการณ์ที่ต้องแขวนอยู่บนความเป็นและความตาย

‘อบาเนล’ จึงตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง มุ่งสู่รัฐลุยเซียนา

book
book "Catch Me If You Can"

บทบาทใหม่ ‘อบาเนล’ เป็น "ทนายความ"

‘อบาเนล’ ปลอมใบสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และการสอบเนติบัณฑิต และเข้าทำงานในสำนักงานอัยการรัฐลุยเซียนา ด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น

...

เรื่องราวในครั้งนี้มันเริ่มจากความรักและเชื่อใจ

‘อบาเนล’ ได้พบกับสาวคนรัก และเธอก็ตกเป็นเหยื่อของเขา

‘อบาเนล’ หลอกคนรักว่า เขาเคยเรียนกฎหมายในฮาร์วาร์ด แน่นอนเธอหลงเชื่อ แล้วพา ‘อบาเนล’ ไปแนะนำให้รู้จักกับทนายความในสำนักงานอัยการฯ แต่การจะเข้าเป็นทนายความที่นี่ เขาต้องมีใบอนุญาต

‘อบาเนล’ ใช้วุฒิปลอมที่อ้างว่าจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อเข้าสมัครสอบ หลังจากนั้นประมาณ 8 สัปดาห์ ด้วยความมุมานะและไหวพริบอันฉลาด เขาก็สามารถสอบผ่านและได้ใบอนุญาตมาครอบครอง

แต่แล้วการทำงานก็ไม่ราบรื่น เมื่อเพื่อนร่วมงานเริ่มตั้งข้อสงสัยและไม่เชื่อว่าเขาจบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจริง พยายามสืบเสาะและติดต่อไปยังมหาวิทยาลัยฯ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับประวัติการศึกษาของ ‘อบาเนล’

สุดท้าย ‘อบาเนล’ ตัดสินใจลาออกหลังปลอมเป็นทนายประมาณ 8 เดือน เขาสารภาพกับคนรักถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าแท้จริงแล้ว "ปลอมทั้งหมด"

คนรักทั้งโกรธและไม่พอใจ ใช้แผนอุบายหลอกล่อ ลวงให้เอฟบีไอจับ ‘อบาเนล’ และนั่นก็ทำให้เขาต้องหลบหนีอีกครั้ง

‘อบาเนล’ รับรู้รสชาติของการถูกหลอก

และสวมบทบาทใหม่ “อาจารย์มหาวิทยาลัย"

‘อบาเนล’ ทำงานเป็นผู้ช่วยสอนด้านสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยบริคแฮม ยัง เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่เคยแม้แต่จะมีความรู้เรื่องนี้สักนิด

ชีวิตดูราบรื่น แต่เพราะตัว ‘อบาเนล’ เองที่ไม่พอ

‘อบาเนล’ วางแผนกลับไปเป็นนักบินอีกครั้ง

ในระหว่าง 5 ปี ที่เขาคอยหลบหนี ปลอมแปลง ต้มตุ๋น ทางเอฟบีไอเองก็พยายามแกะรอยการใช้เช็คปลอมของเขาอยู่เรื่อยๆ ออกใบประกาศจับฐานฉ้อโกง มูลค่ากว่า 2.5 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 76 ล้านบาท

book
book "Catch Me If You Can"

‘อบาเนล’ คลายร่าง ลอกคราบ "นักต้มตุ๋น"

แผนการกลับไปเป็นนักบินอีกครั้งของ ‘อบาเนล’ ไม่สำเร็จ เมื่อพนักงานต้อนรับสายการบิน ‘แอร์ฟรานซ์’ กลับจำใบหน้าเขาได้ และแจ้งต่อเอฟบีไอ

ถือเป็นการสิ้นสุดการสวมบทบาท ‘อบาเนล’ ถูกลอกคราบ

‘อบาเนล’ ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำแปร์ปียอง ประเทศฝรั่งเศส สถานที่คุมขังอันเลื่องชื่อ

‘อบาเนล’ ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี เขาต้องทุกข์ทนอยู่ภายในเรือนจำที่มีสภาพแสนอึดอัด ทั้งเล็กและสกปรก ไม่ได้ออกไปไหน ต้องอยู่แต่ในห้องขังที่ไม่มีแม้แต่ที่นอน ประปา หรือไฟฟ้า ส่วนอาหารและน้ำก็มีอย่างจำกัด

ก่อนจะถูกส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังเรือนจำที่สวีเดน 1 ปี ที่นี่ ‘อบาเนล’ ได้รับการดูแลที่ดีขึ้นมาหน่อย

‘อบาเนล’ ถูกเพิกถอนพาสปอร์ต และเนรเทศไปยังสหรัฐอเมริกา

ช่วงที่ ‘อบาเนล’ ถูกจำคุกเป็นระยะเวลาประมาณ 5 ปี ช่วงปี 1969-1982 ในตอนนั้นเขาอายุ 34 ปีแล้ว ซึ่งอีกเรื่องที่น่าเศร้า คือ ในระหว่างเขาถูกคุมขัง พ่อของเขาได้เสียชีวิต

Photo Credit : Biography
Photo Credit : Biography

ตัวตนที่แท้จริง ‘อบาเนล’ คือ ‘อบาเนล’

‘อบาเนล’ ใช้ชีวิตในเรือนจำได้ 5 ปี เขาก็ได้รับอิสรภาพ

อิสรภาพที่แลกมาด้วย "ข้อตกลง"

‘อบาเนล’ ถูกปล่อยตัวภายใต้เงื่อนไข คือ การต้องให้ความช่วยเหลือกับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับอาชญากรรมฉ้อโกง ปลอมแปลง และยักยอกเงิน โดยที่ไม่ได้รับค่าตอบแทน

‘อบาเนล’ ตกลง

หลังจากนั้น ชีวิตของ ‘อบาเนล’ ก็กลับมาเป็น ‘แฟรงก์ อบาเนล จูเนียร์’ อีกครั้ง

เขายอมรับความผิดพลาดในอดีต แต่ไม่คิดกลับไปเดินเส้นทางนั้นอีกแล้ว

ช่วงนั้น ‘อบาเนล’ ทำงานแทบทุกประเภท ทั้งทำอาหาร หรือแม้แต่ขายของชำ แต่การใช้ชีวิตของเขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยเรื่องราวในอดีตมากนัก เกรงจะกระทบกับงาน

ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปยังธนาคารเหมือนในช่วงชีวิตครั้งแรก

‘อบาเนล’ บอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้ธนาคารฟังอย่างหมดเปลือก และเสนอตัวเป็นผู้ให้คำปรึกษาพนักงานธนาคารเกี่ยวกับหนทางการหลีกเลี่ยงการฉ้อโกงและโจรกรรม

ปี 1986 ‘อบาเนล’ ก่อตั้ง ‘Abagnale & Associates’ คอยให้คำปรึกษาแก่บุคคลทั่วไปและคนที่สนใจ ถึงวิธีการที่จะหลบเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อฉ้อโกง

แฟรงก์ อบาเนล บรรยายเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ ปี 2015 (Photo : Abagnale & Associates)
แฟรงก์ อบาเนล บรรยายเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ ปี 2015 (Photo : Abagnale & Associates)

ด้วยเทคนิคการต้มตุ๋นที่หาตัวจับได้ยาก 5 ปี ที่แสนจะโลดโผน ทำให้ในปี 2002 ‘สตีเวน สปีลเบิร์ก’ สร้างภาพยนตร์ถ่ายทอดชีวิตของ ‘อบาเนล’ ในชื่อ ‘Catch Me If You Can’ โดยมี ‘ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ’ สวมบทบาท ‘แฟรงก์ อบาเนล’ นักต้มตุ๋นชื่อเสียงกระฉ่อนโลก ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก ทำรายได้รวมทั่วโลกกว่า 355 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 1 หมื่นล้านบาท

Catch Me If You Can by Dreamworks
Catch Me If You Can by Dreamworks

บทสรุปชีวิตของ ‘อบาเนล’ นักต้มตุ๋นขั้นเทพ ไม่ได้บอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกต้อง เพราะสุดท้ายแล้ว เขาก็ต้องชดใช้สิ่งที่ตัวเองก่อไว้

แม้ ‘อบาเนล’ จะเก่งแค่ไหน แต่ "ความลับ" ไม่มีในโลก.

ข่าวอื่นๆ :

ข้อมูลอ้างอิง :

  • Abagnale & Associates
  • Frank Abagnale Biography