สมอง คือ อวัยวะที่สำคัญที่สุดของชีวิตอวัยวะหนึ่ง แต่มันก็บอบบางที่สุดเช่นกัน
หากใครนึกภาพไม่ออก สมองมนุษย์ ก็คือ ก้อนเนื้อนิ่มๆ มีลักษณะเป็นรูปวงรี ค่อนทรงกลม คล้ายเมล็ดกาแฟ ด้านหน้าจะแคบ ด้านข้างจะยาว ซึ่งมันจะลอยอยู่ในน้ำ ที่มีกะโหลกศีรษะห่อหุ้มป้องกันเอาไว้อยู่
ละเลียดสายตา อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ โปรดอย่าเพิ่ง งวยงง ว่า วันนี้ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ คิดจะมา เลกเชอร์ วิชา Anatomy หรือ อย่างไรกัน...?
สาเหตุที่ ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ เกริ่นนำถึง สมอง นั่นก็เป็นเพราะ...มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย ภายหลังจากเหตุเศร้าสลด หนุ่มน้อยรายหนึ่ง ใช้หมัดเพียงหมัดเดียวต่อยเพื่อน จนถึงแก่ความตาย!
กำปั้น ของเด็กคนหนึ่ง ที่ต่อยออกไปเพียง หมัดเดียว มันมีพลานุภาพรุนแรง จนถึงขั้นทำให้คู่กรณีเสียชีวิตได้จริงๆ หรือ...?

...
นั่นคือประเด็นสำคัญ ที่ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ จะให้ผู้เชี่ยวชาญ มาร่วมสังเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อให้ แฟนๆ ไทยรัฐออนไลน์ ที่ได้อ่านสกู๊ปชิ้นนี้ ได้ไตร่ตรองและเกิดความรู้สึกยับยั้งชั่งใจ ในยามที่อารมณ์คุกรุ่น จนคิดจะไปทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ด้วยอารมณ์ชั่ววูบ
เพราะ...การปล่อยหมัด ออกไปเพียง หมัดเดียว หากมันไปถูกจุดสำคัญของอีกฝ่ายเข้า ชีวิตของคุณ อาจจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
“ต่อยแล้วตายทันที มันไม่มีหรอก มันมีแค่ทำให้สลบในทันที แต่ผลข้างเคียงที่อาจจะตามมาหลังจาก สลบ ก็คือ ภาวะสมองบวม ซึ่งนั่นแหละ...อาจทำให้เกิดการเสียชีวิตได้” นพ.สุรณรงค์ ศรีสุวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านพยาธิวิทยากายวิภาค แขกรับเชิญ ที่ทีมข่าวฯ เชิญมาให้ความรู้ในสกู๊ปชิ้นนี้
ทีนี้...เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับภาวะสมองบวม อันเกิดจากกำปั้นของมนุษย์กัน

ภาวะสมองบวม จากการถูก ต่อย โดยทั่วๆ ไป มันมี 2 กรณี คือ
1. สมองบวม แล้วพบว่า กะโหลกศีรษะแตก กรณีนี้ น่าจะเกิดจากเมื่อถูกต่อยแล้ว เกิดอาการสลบกลางอากาศ จนศีรษะลงไปฟาดกับพื้นแข็งๆ เช่น พื้นซีเมนต์ หรือพื้นแกรนิต จนกระทั่งทำให้กะโหลกแตก ซึ่งกรณีนี้ ถือเป็น สองแรงบวก ที่ทำให้สมองได้รับบาดเจ็บ โดยแรงที่ 1 คือ แรงจากการต่อย ส่วนแรงที่สอง คือ แรงกระแทกจากศีรษะที่ฟาดลงไปบนพื้น
2. สมองบวม แต่กะโหลกศีรษะไม่แตก กรณีนี้ สาเหตุที่ทำให้ สมอง เกิดอาการบวม เป็นเพราะเมื่อศีรษะถูกกระแทกอย่างแรง จนกระทั่งทำให้สมองเคลื่อนที่ไปกระแทกเข้ากับกะโหลกศีรษะที่อยู่ด้านตรงกันข้าม
ซึ่งหากใครยังไม่รู้ การบาดเจ็บของ สมอง ที่เคลื่อนที่ไปกระแทกเข้ากับกะโหลกศีรษะที่อยู่ด้านตรงกันข้ามนี้ มักจะทำให้ สมอง มีอาการบาดเจ็บรุนแรงมากกว่า สมองด้านที่รับแรงกระแทกตรงๆ เสียอีก

“หากมีอะไรแข็งๆ ไปฟาดไปที่ด้านหน้าศีรษะ สมองด้านหลังจะเกิดอาการช้ำ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเวลาที่ถูกกระแทกจากด้านหน้า มันจะเกิดแรงผลักให้ สมอง เคลื่อนที่ไปกระแทกเข้ากับกะโหลก ที่อยู่ทิศทางตรงกันข้าม
...
พูดง่ายๆ คือ หากฟาดเข้าที่บริเวณหน้าผาก เราจะพบรอยช้ำที่สมองใกล้กับท้ายทอย มากกว่า ส่วนบริเวณหน้าผาก หรือหากฟาดเข้าที่ศีรษะด้านขวา เราจะพบว่า ผิวสมองด้านซ้าย จะเกิดรอยช้ำมากกว่าผิวสมองด้านขวา
เพราะ สมอง มันก็เป็นเพียงก้อนเนื้อนุ่มๆ เมื่อไปกระแทก กับอะไรที่แข็งๆ แบบ กะโหลกศีรษะ มันก็ย่อมเสียหายได้เป็นธรรมดา” นพ.สุรณรงค์ เลกเชอร์ กับ ทีมข่าวฯ
ทั้งนี้ สมอง เมื่อเกิดอาการบาดเจ็บ มันจะเรียกพวกสารน้ำ เข้ามาในเนื้อเยื่อ ทำให้เนื้อสมองพองขึ้น ซึ่งมันจะไปเบียดพื้นที่เซลล์อื่นๆ และทำให้หลอดเลือดที่มาเลี้ยงสมองเกิดอาการตีบ จนกระทั่งทำให้เลือดและออกซิเจนมาเลี้ยงสมองได้น้อยลง เมื่อออกซิเจนมาเลี้ยงสมองได้น้อยลง สมองก็จะยิ่งเกิดอาการบวมมากขึ้นๆ จนกระทั่งไปมีผลกับ ก้านสมอง จนทำให้เกิดการหยุดหายใจ จนกระทั่งเสียชีวิต ภายใน 3 - 7 วัน แล้วแต่กรณี...

สมาคมการแพทย์เด็ก 4 ประเทศยักษ์ใหญ่ ลงความเห็น ไม่ควรให้เด็ก เล่นกีฬาชกมวย
โดยเฉพาะหากเป็น เด็ก หรือเยาวชน ซึ่งกะโหลกยังไม่ได้ขยายเต็มที่ ช่องว่างในกะโหลกมีน้อย จึงทำให้พื้นที่สำหรับรองรับการบวมของสมองแทบไม่มี ฉะนั้น หากสมองเกิดอาการบวมแม้แค่เพียงเล็กน้อย มันก็เสี่ยงต่อชีวิตได้แล้ว
...
ด้วยเหตุนี้ สมาคมการแพทย์เด็กในประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย จึงมีข้อแนะนำว่า กีฬาชกมวย เป็นกีฬาที่ไม่ควรให้เด็ก หรือ เยาวชน เล่น เนื่องจากเป็นกีฬาที่ไม่ปลอดภัย
นั่นเป็นเพราะ ผลการวิจัยรายงานหนึ่งพบว่า กีฬาชกมวยในกลุ่มเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 16 ปี ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเกิดอาการสลบ มากกว่า 1.14 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ในขณะกีฬาประเภทอื่นๆ ที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดอาการสลบไม่ต่างกัน เช่น กีฬารักบี้ หรือกีฬาฮอกกี้ กลับพบความเสี่ยง ไม่ถึง 0.31 เปอร์เซ็นต์ และ 0.28 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

ปล่อย สมองถูก shut down เสี่ยงตายหรือพิการ ในบั้นปลาย
หากถามว่า การสลบ มันอันตรายมากน้อยแค่ไหน คำตอบก็คือ การสลบ ก็คือ การที่สมองหยุดทำงานแล้ว สมองหยุดการทำงาน แปลว่าอะไร เอาแบบง่ายๆ เลยนะ นั่นก็แปลว่า สมองมันไปต่อไม่ไหวแล้ว มันจึงต้อง shut down ตัวเอง
การชกให้ฝ่ายตรงข้ามหมดสติ ก็คือ การดึงปลั๊กคอมพิวเตอร์ในขณะที่มันกำลังทำงานอยู่ คิดดูสิว่า หากคุณดึงปลั๊กในขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่บ่อยๆ มันจะเกิดอะไรขึ้น...?
...
คอมพิวเตอร์ มันก็พังใช่ไหม...? สมองของมนุษย์ มันก็ไม่ต่างกันหรอก!
กรณีนักมวยถูกต่อยจนกระทั่งตายคาเวที อาจจะเกิดขึ้นไม่มากนักก็จริง แต่งานวิจัยในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า มีนักมวย มากกว่า 339 ราย เสียชีวิตจากการชกมวยบนเวที ข้างเวที และในห้องแต่งตัว ในรอบ 57 ปี ที่ผ่านมา นี่ยังไม่นับพวกที่พิการ หรือทุพพลภาพ อันเป็นผลกระทบจากการชกมวยอีกนะ"

Shaken Baby Syndrome เขย่าตัวทารก เสี่ยงอาจถึงตาย
นอกจากนี้ ในต่างประเทศยังมีงานวิจัยที่พบอีกด้วยว่า การเขย่าทารกอย่างรุนแรง อาจทำให้ ทารก เกิดอาการสมองบวม จนกระทั่งเสียชีวิต หรือที่เรียกว่า Shaken Baby Syndrome ได้เช่นกัน ซึ่งในประเทศไทยเอง ก็พบกรณีแบบนี้อยู่เนืองๆ
"ขออธิบาย แบบง่ายๆ และกระชับแบบนี้นะ กะโหลกของทารก จะค่อนข้างเหนียวและมีลักษณะยืดหยุ่น การเขย่าตัวแรงๆ อาจจะไม่ทำให้กะโหลกแตก แต่แรงเหวี่ยงภายใน จะทำให้ สมอง ถูกเขย่าไปกระแทกเข้ากับกะโหลก จนกระทั่งทำให้สมองเกิดอาการบวมช้ำ เปรียบไปก็เหมือนกับ การเขย่าไข่ในถุงพลาสติก ถุงพลาสติกมันจะไม่ขาด แต่ไข่มันจะแตกนั่นเอง" นพ.สุรณรงค์ กล่าว
ซึ่งกรณีในลักษณะนี้ หากไม่ผ่าชันสูตร จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า การเสียชีวิตเกิดจากอะไร...? โดยคดีแบบนี้ มักจะเกิดในกรณี แม่เลี้ยงทำร้ายลูกเลี้ยงอะไรแบบนี้ มากที่สุด

ต่อยแรงไม่แรง ต่อยตรงไหนจึงสลบ ต่อยจุดไหนจึงตาย...?
ประเด็นนี้คงตอบได้ยาก เพราะสมองมนุษย์เราไม่เหมือนกัน อย่างไรก็ดี การบาดเจ็บของสมอง จากการถูกกระแทก ที่จุดอันตราย มีอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ คือ ด้านหน้า ที่บริเวณหางคิ้ว ด้านข้างบริเวณเหนือใบหู ทั้งซ้ายและขวา
2 จุดนี้ หากมีแรงกระแทกผ่าน มันจะส่งผ่านไปด้านตรงกันข้าม ของ สมองอีกฟากหนึ่ง จนกระทั่งทำให้สมองเกิดอาการบวมช้ำทั้งสองด้านได้เลย
ทั้งนี้ ในทางการแพทย์ มองว่า การทำให้สมองหยุดการทำงาน คือ การทำให้สมองได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ฉะนั้น ไม่ว่าจะชกหน้า ชกหลัง ชกคาง หรือบริเวณใบหน้าทั้งหมด แรงมันก็ส่งไปถึง สมอง ได้อยู่ดี เพราะกะโหลก กับคอ มันเชื่อมต่อกันด้วยข้อต่อเล็กๆ ที่ผ่านกะโหลกข้อที่ 1 แล้วมีเอ็นกะโหลกเชื่อมกันอยู่ เพราะฉะนั้น การชกแรงๆ มันก็ย่อมส่งแรงไปถึงก้านสมองได้ มันจึงเป็นการทำให้สมองบาดเจ็บโดยตรง
ด้วยเหตุนี้ เวลาไปต่อสู้กันในศาล การกระทำต่อบริเวณใบหน้าทั้งหมด แปลว่า คือการกระทำที่ประสงค์ต่อชีวิตทั้งสิ้น เพราะ สมอง เป็นอวัยวะที่สำคัญต่อการมีชีวิตนั่นเอง
ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
สืบเสาะข่าว รับเรื่องราวร้องทุกข์ สามารถส่งเรื่องราว หรือประเด็นปัญหาของท่านมาได้ที่
reporter.thairath@gmail.com หรือช่องทาง Facebook : ทีมข่าวเฉพาะกิจ
