“มันเป็นสิ่งวิเศษที่สุดในชีวิต จากคนที่ไม่มีแก่นสาระ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เล่นพนัน ใช้ชีวิตไร้ค่าไปวันๆ ไม่มีเงินเก็บ พอเปลี่ยนมาทำเกษตรตามแนวคิดของในหลวง ร. 9 ตอนนี้มีเงินล้าน มีที่ 10 ไร่ คิวตารางบรรยายอบรมให้คนไทยและต่างชาติท่ีมาดูงานที่ไร่เต็มทุกเดือน”

นั่นคือความรู้สึกแห่งความภูมิใจของ นางขนิษฐา มะโนสมบัติ หรือ ครูรุ่ง วัย 45 ปี อดีตครูบัญชีดีเด่น รองชนะเลิศอันดับ 2 ประจำปี 2558 ของ จ.เชียงราย เกษตรกรตัวอย่างที่นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาใช้จนประสบความสำเร็จในอาชีพ มีเงินเป็นล้าน รายได้เดือนละ 5 หมื่นบาท

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน

ครูรุ่ง เปิดใจกับทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ ถึงเส้นทางชีวิตจากครูบัญชีอาสาหันมาทำเกษตรว่า เริ่มจากเป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก 3 คนเพียงลำพังจากเงินของสามีที่ส่งมาจากต่างประเทศเดือนละ 3 หมื่น สามีรักและหวงมาก เพราะอดีตเป็นธิดาลิ้นจี่ของ อ.พญาเม็งราย จึงให้ทำหน้าที่เลี้ยงดูแลลูกอย่างเดียว

...

พอลูกๆ ไปโรงเรียนก็เข้าบ่อน เล่นการพนันโดมิโน บิงโกในหมู่บ้าน ใช้เงินมือเติบจ่ายฟุ่มเฟือยและสุรุ่ยสุร่ายกับของกิน ของใช้ราคาแพงที่ขายในห้างเท่านั้น ขาดการบริหารวางแผนการเงิน สุดท้ายเงินไม่พอใช้และไม่เหลือเก็บ ทุกสิ้นเดือนต้องเอาสร้อยทองไปจำนำ หนำซ้ำติดการพนันหนักจนทำร้ายลูกคนโตทุกวันเวลาเสียการพนัน ไล่ตะเพิดเวลามากวนใจ แม้ลูกเกือบถูกรถชนก็ไม่ลุกไปดู

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน

ครูรุ่งเครียดหนักกับชีวิต คิดมากจนป่วยและไปหาหมอทุกเดือน มีอาการปวดหัว ปวดท้องโดยไม่รู้สาเหตุ จิตตกกลัวเป็นนิ่ว โรคไต เหตุจากกินข้าวไม่ตรงเวลาเพราะมัวแต่เล่นการพนัน ตกกลางคืนไม่หลับไม่นอน เดินวนเวียน คิดแต่ว่าทำไงดีกลัวสามีทิ้งหากกลับมาแล้วรู้ว่าไม่มีเงินเก็บสักบาท สุดท้ายกลายเป็นโรคซึมเศร้า ทุบตีทำร้ายลูกทุกครั้งเมื่อมีอาการจนต้องรีบรักษากับหมอจิตเวชนาน 3 ปี 

ชีวิตครอบครัวเกือบพังสลาย โชคดีที่ระหว่างรอพบหมอที่ รพ. คนไข้อีกคนทักว่าเป็นคนบ้า อีกทั้งชาวบ้านครหาว่าเป็นคนไร้ค่า ไม่ช่วยเหลือสังคม อยากเอาชนะคำพูดเหล่านี้ จึงหันมาศึกษาดูงานกับศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงของครูบุญเป็ง จันต๊ะภา ปราชญ์ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านเกษตรพอเพียงและการทำเกษตรผสมผสาน

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน

          
โดยครูรุ่งฝึกจดบันทึกบัญชีอยู่ 3 เดือน พบว่ารายจ่ายหลักๆ ของครอบครัว คือ ค่ากับข้าว จึงเกิดแรงบันดาลใจนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มาพลิกชีวิต ทำการเกษตรโดยเริ่มจากพื้นที่เพียง 53 ตารางวา ปลูกผัก เลี้ยงไก่ เป็ด หมู ปลา และกบ สร้างตลาดสดในบ้าน ไม่ต้องออกไปจ่ายตลาด เพราะมีทุกอย่างที่ต้องการในบ้านแล้ว มีบ้างที่ต้องซื้อเนื้อหมู ครูรุ่งตามรอยศาสตร์ในหลวง ร.9 ทุกอย่าง แม้กระทั่งปุ๋ยชีวภาพ ทำให้ได้กินอาหารที่ปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายกับร่างกาย

“เริ่มทำสวนตอนอายุ35 ทำแปลงผัก 5 แปลงในพื้นที่ 53 ตร.ว. เหนื่อยมาก จากแต่ก่อนต้องพึ่งยาช่วยคลายเครียดให้นอนหลับ แต่พอมาทำเกษตรแล้วหลับสบายมากทุกคืนเพราะเหมือนได้ออกกำลังกายไปในตัว รู้สึกภูมิใจมากที่ทำเกษตรได้ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน มันไม่ยากเหมือนที่คิด ขอให้ลงมือเท่านั้น เห็นผลแน่นอน หว่านผักบุ้ง ผักชี อีกไม่กี่วันก็เก็บกินได้ จากแต่ก่อนจ่ายค่าซื้อไข่ไก่เดือนละ 960 บาท ตอนนี้ไม่ต้องซื้อแล้ว เพราะไปหยิบจากในเล้าของเราได้” ครูรุ่งเล่าด้วยน้ำเสียงแห่งความสุข

...

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน

กับผลผลิตที่เหลือจากการเก็บผลผลิตไว้กินเอง ครูรุ่งเล่าว่านำไปแบ่งปันให้คนในชุมชน หรือบางคนก็มาเก็บเองในสวน คนจึงเริ่มรู้จักมากขึ้นเพราะเล่าต่อๆ กัน คนมาศึกษาดูงานมากล้นจนเปิดเป็น “ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 53 ตารางวา แก้จน” นับเป็นครัวเรือนหลังแรกที่เป็นต้นแบบของ จ.เชียงรายในการจัดการบริหารพื้นที่ของบ้านให้เกิดประโยชน์สูงสุด

นอกจากนี้ครูรุ่งยังหันมาเป็นจิตอาสาพัฒนาชุมชน เมื่อมีการอบรมเกี่ยวกับการเกษตรที่ไหนก็ไป แล้วนำความรู้ที่ได้มาใช้ในสวน อีกทั้งทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้การทำบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือน และการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้กับคนที่มาดูงานในศูนย์เรียนรู้ฯ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ช่วยปลดหนี้และมีเงินออมด้วย

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน

...

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน
ต่างชาติเข้ามาศึกษาดูงานในไร่
ต่างชาติเข้ามาศึกษาดูงานในไร่

ตลอด 7 ปี มีผู้สนใจมาเรียนรู้และศึกษาดูงานวิถีการทำการเกษตรแบบพอเพียงมากขึ้นๆ และกลับไปทำตามอีกหลายครัวเรือน ครูรุ่งจึงปิดศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้ แล้วหันมาสร้าง “ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ 10 ไร่แก้จน” แบ่งพื้นที่ปลูกข้าว 7 ไร่ สวนเกษตร 2 ไร่ ปลูกหน่อไม้หวาน เลี้ยงสัตว์ ลงสวนเงาะ สวนมะม่วง และอีก 1 ไร่ เป็นพื้นที่บ้าน แต่ยังมีการจำลองศูนย์การเรียน 53 ตารางวาไว้

...

“ไม่คิดเลยว่าศาสตร์พระราชาจะประเสริฐอย่างนี้ ทำให้ชีวิตที่เกือบล้มเหลว ไม่มีคนยอมรับนับถือ กลับมาพลิกผัน มีความสุขอีกครั้ง ครอบครัวมีความมั่นคงทางอาหารที่อุดมสมบูรณ์ มีรายได้และมีเงินเเก็บออม เพราะไม่ต้องจ่ายค่ากับข้าวเดือนละหมื่นเหมือนในอดีต ณ วันนี้ไม่ได้ไปจ่ายตลาดเลยตั้งแต่ทำเกษตรมา 8 ปีแล้ว เพราะทุกอย่างมีให้กินในบ้าน

ครูรุ่งกับสามี
ครูรุ่งกับสามี
ครูรุ่งกับลูกสาวทั้งสอง
ครูรุ่งกับลูกสาวทั้งสอง
ลูกชาย
ลูกชาย

ที่น่าภูมิใจที่สุดคือลูกทั้ง 3 ทำสวนเป็น เลี้ยงปลา เลี้ยงกบเป็นหมด และลูกทุกคนสามารถบรรยายแทนได้ ถ้าพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบครูรุ่งอนาคตเด็กๆ ก็ไม่เป็นภาระกับสังคม เป็นคนมีคุณภาพต่อชุมชนและ เยาวชนก็หันมาสนใจทำเกษตรมากขึ้น อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่มั่นคง มีรายได้มั่งคั่ง หากเราบริหารเป็น ตอนนี้เป็ดส่งไปที่ลาวเยอะมาก แต่ในไทยคนเลี้ยงน้อยมาก 

การจดบันทึกบัญชีรายรับ รายจ่ายเปลี่ยนชีวิตคนให้ดีขึ้นได้ หากเคร่งครัดและทำจริงจัง บวกกับใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียง และเข้าใจ นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 มาใช้ ความเป็นอยู่ของทุกคนมีความสุขและมั่นคงแน่นอน

และอยากฝากถึงรัฐบาลว่าควรมีนโยบายสนับสนุนให้คนไทยลดหรือเลิกการเล่นพนันโดยรณรงค์ให้ประชาชน รู้จักพึ่งพาตนเอง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และมีการส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่หลังฤดูกาลเก็บเกี่ยว คนจะได้ไม่ไปหมกมุ่นเล่นการพนันเหมือนชีวิตครูรุ่งที่เคยก้าวพลาดมาแล้ว ” ครูรุ่งกล่าวทิ้งท้าย     

ครูรุ่ง คือเกษตรกรไทยตัวอย่าง จากคนที่เกือบล้มเหลวในชีวิต กลับมีความสุขได้จากการเกษตรของตนเอง และพร้อมต้อนรับและถ่ายทอดวิถีชีวิตตามรอย ในหลวง ร. 9 ให้กับผู้มาเยือนเสมอ

เกษตรพารวย! “ครูรุ่ง” ยึดหลักพอเพียงตามรอยในหลวง ร.9 จนมีเงินล้าน