ตอนที่ 4
ฝ่ายเมขลาก็ยังติดใจสงสัยที่ไข่มุกยืนยันว่าตนคือดาราที่ชื่อเมขลา เข้าไปค้นหาหนังสือดาราที่โต๊ะของกุ้ง กุ้งไม่ให้ค้น เมขลาต่อรองว่าขอดูรูปดาราที่ชื่อเมขลาหน่อยเดียวเอง เห็นเขาว่าหน้าเหมือนตน
กุ้งหางตาใส่ถามว่า “เมขลากับครูเนี่ยนะ สวยกว่าครูเยอะ อย่าไปเทียบกับเขาเลย”
ฝ่ายไข่มุกบอกพญาขณะไปเดินช็อปปิ้งกันในตัวเมืองว่า
“เมขลาเป็นชื่อจริงตามบัตรประชาชนค่ะ แต่ในวงการใช้ชื่อลาล่า เปลี่ยนชื่อเสริมดวงไงคะ ปิดชื่อเก่าไม่ให้ใครรู้”
“แล้วคุณเมขลา เค้าเป็นคนยังไงเหรอครับ” พญาหลอกถาม ไข่มุกได้ทีใส่ไฟแฉแหลกว่า
“หูย...แม่นี่เค้าหัวสูง ใช้เงินมือเติบ เป็นหนี้นอกระบบไปทั่วฉันกับลูกต้องเดือดร้อนแทน โดนพวกมันขู่ตัดหูทุกวัน” พลางเหล่มองพญาวัดอารมณ์แล้วโก่งราคาที่ดินป่าสายน้ำผึ้ง “นี่จะขายที่ต้องคิดราคาเผื่อจะใช้หนี้ด้วยนะเนี่ย”
แต่พญาไม่สนใจกลับถามว่าแล้วเมขลามีแฟนหรือยัง ไข่มุกบอกว่ามี นายแจ๊คที่เล่นด้วยกันไง มาการีนเห็นร้านขายของชวนไข่มุกไปดูของกันดีกว่าบ่นว่าเข้าเมืองมายังไม่ได้ช็อปกันเลย พญาจึงเชิญสองแม่ลูกตามสบาย แล้วตัวเองก็เอามือถือมาเสิร์ชชื่อ “ลาล่า” พบว่ามีรูปดาราชื่อเมขลาจริงๆ
ooooooo
เสี่ยส่งมาหาไข่มุกที่เรือนเล็กไร่ภูพญาอีกเพื่อถามเรื่องการขายที่ เจอเพ็ญที่มองอย่างไม่พอใจไข่มุกบอกว่าเสี่ยส่งเป็นแขกของตน เพ็ญพูดหน้านิ่งว่าเกรงว่าที่นี่จะไม่สะดวกรับแขกอย่างเสี่ย
“ไม่เป็นไรครับ ถึงคุณเพ็ญจะไม่เต็มใจ แต่ยังไงผมก็ต้องแวะมาเยี่ยมคุณไข่มุกบ่อยๆอยู่ดี” เสี่ยส่งมองเพ็ญอย่างไม่ยี่หระ ไข่มุกดูออกว่าทั้งสองไม่กินเส้นกัน คุยกับมาการีนว่าแบบนี้เราก็โก่งราคาที่ได้ ใครให้ราคาดีก็ขายให้คนนั้น มาการีนเตือนว่าเราต้องขายให้ได้ก่อนที่เมขลาจะโวยวายขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วง ถ้ามันยังหวงที่ ก็ต้องแสดงตัวแล้ว แต่มันทำเงียบแบบนี้ไม่รู้มีแผนอะไร แต่ถึงมันจะทำยังไงก็ไม่กลัวหรอก แม่จัดการได้”
แล้วไข่มุกก็ทดสอบด้วยการเอาแหวนเพชรปลอมที่แจ๊คซื้อให้เมขลาไปวางไว้ที่โต๊ะนักเรียนใกล้ประตูทางออกเพื่อเมขลาจะได้เห็น
เมขลาเห็นจริงๆ แต่เธอตะโกนถามว่าใครทำแหวนหล่นหายหรือเปล่า ทำให้สองแม่ลูกสงสัยว่าเมขลาอาจจะความจำเสื่อมจริงๆ
คืนนี้ เมขลาฝันว่าตนได้เล่นละครกับแจ๊ค และแจ๊คเรียกเธอว่านักฆ่ามีหน้าที่ต้องฟังคำสั่งตนทุกอย่าง แล้วแจ๊คก็ผลักเธอลงบนโต๊ะ เมขลาตกใจร้องลั่น
“อย่า...อย่าทำฉันนนน...” พอลืมตาตื่นพบตัวเองนอนอยู่บนเตียง เธอดีดตัวขึ้นนั่งบ่นงงๆ “โอ๊ย...ฝันประหลาดอีกแล้ว ใครกันเนี่ย ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร นักฆ่าสาวบ้าอะไรกัน”
บ่อนของเสี่ยส่งที่หัวเมือง แจ๊คไปเล่นที่นั่นเสียไปเกือบล้านแต่ยังติดหนี้ทางบ่อน มิ่งลูกน้องเสี่ยส่งที่คุมบ่อนตามทวงแจ๊คก็บอกว่าคนกันเองตนไม่โกงหรอกเดี๋ยวรับงานหนังเล่นไม่กี่ฉากก็ได้แล้ว
“จะไปเล่นอีกกี่ฉากก็เรื่องของเอ็ง แต่ถ้าอาทิตย์หน้าไม่มีเงินมาใช้หนี้ รับรองตามถึงกองถ่ายแน่คราวนี้จะได้เล่นหนังโหด มัน ฮาแน่” มิ่งขู่หน้าเหี้ยม แจ๊คค่อยๆเลี่ยงไปหน้าเครียดเพราะไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้พนันได้
ooooooo
เพราะต้องการพิสูจน์ให้แน่ใจว่าเมขลาความจำเสื่อมจริงหรือไม่ ไข่มุกไปที่ศูนย์เด็กเล็ก เลียบเคียงถามพญาว่าครูปริมมาทำงานที่นี่นานหรือยัง พอรู้ว่าไม่นานก็ถามดักว่า
“จำได้ว่าอุบัติเหตุคราวนั้นมีกันสามคน มีคุณแล้วก็ผู้หญิงอีกสองคน คนนึงคือเมขลา อีกคนคือครูปริมใช่ไหมคะ”
เมื่อพญารับว่าใช่ก็ถามว่าเขาเคยเห็นครูปริมมาก่อนไหม พญาบอกว่าเพิ่งเจอครั้งนี้ ไข่มุกก็พึมพำกับตัวเองว่าอย่างนี้นี่เอง พอพญาถามว่ามีอะไรหรือ เธอกลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไร ถามไปงั้นเอง
ไข่มุกไปบอกมาการีนว่าเพราะไม่เคยมีใครเจอครูปริมมาก่อน เมขลาถึงตบตาทุกคนได้สนิท หวังจะจับผู้ชายรวยๆ มาการีนถามว่าแล้วทำไมถึงทำเป็นจำเราไม่ได้ไข่มุกบอกว่า ขืนทำเป็นว่าจำได้ก็ความแตก ไม่เป็นไรเดี๋ยวแม่จัดการเอง
พญาแจ้งแก่เมขลาว่า หลังจากลูกค้าได้รับจดหมายที่เธอแปลแล้วพอใจมากสั่งออเดอร์เพิ่มอีกหลายอย่างเลย แล้วให้กุ้งเอาเอกสารอีกหลายเจ้าที่ไม่ได้ส่งมาให้แปลอีก
ขณะนั้นพญาหันไปเห็นนิตยสารปกเป็นภาพดารา โปรยหัวเกี่ยวกับเรื่องของลาล่าว่า
“ปิดตำนานเจ้าหญิงแห่งวงการ ‘ลาล่า’ ตายปริศนา”
พญาตกใจรีบหยิบหนังสือขึ้นมา กุ้งบอกว่านั่นของตน พญาถือหนังสือออกไปบอกว่าเสร็จงานเดี๋ยวคืนให้
พอเข้าห้องทำงาน เขาปิดประตูล็อกแกะหนังสือออกพลิกหาหน้าที่มีข่าวลาล่าทันที เขาอ่านอย่างเร็ว
“แจ๊ค อดีตหวานใจไฮโซของลาล่ากล่าวว่า งานศพของเจ้าหญิงแห่งวงการบันเทิงได้จัดอย่างเรียบง่าย แต่เหล่าแฟนคลับยังตั้งข้อสงสัย ต้องการหลักฐานยืนยันว่า ไอดอลของพวกเขาได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆ”
พญามองรูปเมขลานักฆ่าสาวยืนควงแขนแจ๊คพึมพำ “อ๋อ...เนี่ยเหรอ แฟนเธอ” แล้วฉีกหน้าที่มีข่าว ซึ่งข้างๆ มีคูปองชิงโชคด้วย
เสี่ยส่งมาหาไข่มุกที่เรือนเล็ก ไข่มุกปากหวานว่าตนกับลูกกำลังเบื่อ เสี่ยส่งชวนไปเที่ยวไร่ตนไหม ไข่มุกรับคำทันที
ooooooo
วันนี้บัวผาดไปซื้อของที่ตัวจังหวัด ถูกชิดกับหยอยลูกน้องมิ่งนั่งกินเหล้าอยู่ เห็นบัวผาดเดินผ่านไปก็จะหาเงินกินเหล้า จึงวิ่งราวกระเป๋าถือ บัวผาดขัดขืนจึงถูกชกต่อยตบตี เธอก็สู้จนได้กระเป๋าคืนมาแต่ตัวเองก็บอบช้ำปากเจ่อเป็นครุฑ
ตกเย็นเมื่อมารับใช้ที่โต๊ะอาหาร เพ็ญชมว่าบอบช้ำขนาดนี้ยังมีแรงมายกกับข้าว ปรารภกับพญาว่า
“พวกฉกชิงวิ่งราวมาจากไหนไม่รู้ แม่ว่าเมื่อก่อนแถวหมู่บ้านเราไม่มีเลยนะ เราต้องกำชับพวกคนงานหญิงให้ระวังตัวดีๆ อย่าไปทำตัวล่อเป้าแบบนี้อีก” พญาเตือนเมขลาว่าเธอเองก็ต้องระวังตัวด้วย
“คนอย่างฉัน แค่นี้สบายมาก ไม่ยืนทื่อให้โดนฉกกระเป๋าไปง่ายๆหรอก”
“ทำอวดเก่ง” พญาพึมพำอย่างหมั่นไส้ เพ็ญชำเลืองมองความสนิทสนมของทั้งคู่อย่างจับสังเกต
คืนนี้เมขลานอนไม่หลับจึงออกมาอ่านหนังสือที่ห้องนั่งเล่น พญาก็นอนไม่หลับออกมาเจอถามว่ายังไม่นอนหรือ เมขลาบอกว่าจะทำงานต่ออีกหน่อย
“นึกไม่ถึงว่าอย่างเธอก็จะตั้งใจทำงานกับเขาเป็น” เมขลาคุยว่าตนดีกว่าที่เขาคิดเยอะ แล้วถามเขาอย่างสงสัยว่าตนเป็นแค่ครูบ้านนอกแต่ทำไมภาษาอังกฤษเป๊ะขนาดนี้ “อาจเพราะเคยเป็นครูสอนวิชานี้มั้ง” พญาตอบมั่วๆให้ผ่านๆไป
“อ้าว...ก็คุณบอกเองว่าฉันเป็นแต่ครูสอนเด็กเล็ก แล้วเด็กเล็กที่ไหนจะเรียนภาษาอังกฤษระดับนี้”
“ทำงานไป มัวพูดมากเดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จหรอก” พญาตัดบทเอาดื้อๆ แต่แอบมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน
ooooooo
เมื่อไปบ้านของเสี่ยส่ง มาการีนเห็นความร่ำรวยของเสี่ยก็ยุให้แม่มาอยู่ที่นี่เพราะหรูกว่า สบายกว่าและไม่มีคุณนายเพ็ญมาจู้จี้ด้วย
“ไม่รู้เรื่องเลย มานี่เราก็เป็นหมูในอวยของเขาน่ะสิ อยู่ไร่ภูพญาน่ะดีแล้ว เขาจะได้ตามไปเอาใจเรา” ไข่มุกกระซิบดุมาการีน แล้วหันไปยิ้มหวานชมว่าไร่เสียใหญ่โตสวยกว่าที่คิดมากเลย เลียบเคียงถามว่า “แล้วที่บ้าน
อยู่กันแค่นี้เหรอคะ”
“อยู่กับลูกสาวครับ แต่ตอนนี้เขาไปเที่ยวเมืองนอก ช่วงนี้ผมอยู่บ้านคนเดียว คุณไข่มุกอยากมาพักที่นี่ก็ได้นะครับ” แล้วทำเสียงหล่อเอียงเข้าไปกระซิบข้างหู “มาคนเดียวก็ได้”
“แหมเสี่ยก็...” ไข่มุกใส่จริตตีแขนเสี่ยแก้เขิน
“ถ้าเราได้เป็นหุ้นส่วนกัน...ไร่ของผมกับป่าสายน้ำผึ้งของคุณ รวมกันก็ร่วมพันไร่ คิดดูสิครับว่าจะทำเงินได้อีกมากแค่ไหน”
“เรื่องนั้น...ฉันยังรีบตัดสินใจไม่ได้หรอกค่ะ” พูดแล้วทิ้งสายตาอ่อย “ต้องดูความประพฤติก่อนว่าใครจะเหมาะกับป่าสายน้ำผึ้งจริงๆ”
เสี่ยส่งแอบเบ้หน้าเอือมความเก๋าและเขี้ยวของไข่มุก
ooooooo
พญาเอานิตยสารดารามาวางคืนที่โต๊ะกุ้ง กุ้งกับเมขลาแย่งกันหยิบ เมขลาอยากอ่านเรื่องของลาล่า และกุ้งต้องการบัตรชิงโชค แต่หาไม่เจอเพราะพญาฉีกไปแล้ว
ทั้งสองโต้เถียงกันว่าใครฉีกหน้าบัตรชิงโชคไป
เมขลาบอกว่าตนไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น กุ้งพลิกหาบัตรชิงโชคเอาเป็นเอาตายเพราะอยากได้รางวัลของนิตยสาร
อรัญติดใจเรื่องขบวนการค้ามนุษย์ที่เมขลาเล่าให้ฟัง แต่ถามทะเบียนรถก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเป็นรถบรรทุกผักเก่าๆ สีตุ่นๆ มาจากเส้นทางที่อรัญฟังแล้วบอกว่าเป็นเส้นทางที่ไปสุดที่ไร่เสี่ยส่ง
วันนี้อรัญมาหาพญาที่บ้าน บอกความคืบหน้าเรื่องโรงเก็บสมุนไพรของเขาถูกลอบวางเพลิงว่า
“เจ้าหน้าที่ตรวจดูแล้ว เจอคราบน้ำมันรอบโรงเก็บสมุนไพรของนาย ที่ไฟไหม้คราวนั้น ไม่ใช่อุบัติเหตุจากไฟก้นบุหรี่ แต่น่าจะมีคนตั้งใจเผา” พญาถามว่าใครทำ ไม่น่าใช่พวกคนงาน “ลองนึกดูแล้วกันว่าใครจะได้ประโยชน์จากงานนี้”
“แล้วเรื่องแก๊งค้าแรงงานเถื่อนที่ครูปริมไปเจอถึงไหนแล้ว”
“จะจัดการเร็วๆนี้แหละ แต่พูดถึงครูปริมแล้วก็นึกแปลกๆว่ะ เขาดูไม่เหมือนครูต่างจังหวัดเลยสักนิด มองแว่บแรกคิดว่าเป็นดาราในกรุงเทพฯซะอีก สวยๆแบบนี้เป็นซุปเปอร์สตาร์ได้เลยนะ”
“ปลื้มเขามากไปรึเปล่า จะเป็นแบบนั้นได้ไง” พญาเหน็บเพื่อน อรัญยิ้มกรุ้มกริ่มบอกว่า
“ไหนๆมาแล้ว งั้นก็ขออนุญาตเข้าไปคุยกับครูปริมเลยนะครับไอ้คุณพญา”
พออรัญยิ้มทำทะเล้นโบกมือลาไป พญาก็หยิบกระดาษที่ฉีกจากนิตยสารเกี่ยวกับข่าวลาล่าซึ่งข้างๆมีคูปองชิงรางวัลฉีกทิ้งอย่างไม่ต้องการให้ใครเห็นอีก แล้วโยนทิ้งเป็นเศษกระดาษ ด้วยสีหน้าขรึมเครียด
ooooooo
ไข่มุกกับมาการีนยังตั้งหน้าตั้งตาจับผิดเมขลาอีก จำได้ว่าเมขลาแพ้กุ้ง วันนี้ไข่มุกจึงซื้อกุ้งมาให้ป้าแหวงทำอาหาร ป้าแหวงเลยแอบเม้มค่าอาหารวันนั้นเอาไว้เลย
ถึงเวลาอาหาร สองแม่ลูกปะเหลาะให้เมขลากินกุ้ง เมื่อเมขลาไม่กิน มาการีนก็อุตส่าห์แกะเปลือกกุ้งให้ พอกินเข้าไปตัวแรก เมขลาติดใจเลยแกะกินตัวแล้วตัวเล่าท่ามกลางความสะใจของสองแม่ลูก
ขณะกินเมขลาไม่เป็นอะไร แต่ไปออกฤทธิ์ตอนกลางคืน คันและเป็นผื่นไปทั้งตัวจนอยู่นิ่งไม่ได้ เสียงดังกุกกักในห้องจนพญามาเคาะประตูดุว่าบอกแล้วว่าไม่ให้ออกกำลังตอนกลางคืน
แต่พอเห็นหน้าและสภาพของเมขลาที่แดงเป็นผื่นคันคะเยอไปทั้งตัวก็ถามว่าเป็นอะไร
“ไม่รู้ คันเพดานปากจะตายอยู่แล้ว คันมาถึงคอแล้วด้วย” พูดพลางเกาเป็นลิง พญาเดาว่าแพ้อะไรแน่เลย เจ้าตัวบอกไม่รู้ แต่คันจนทนไม่ไหวแล้ว พลางเปิดเสื้อตรงนั้นตรงนี้ให้ดู จนพญาต้องรีบห้ามว่าพอแล้ว เขาหันไปหยิบยาทาแก้คันให้ ทั้งสองสบตากันปิ๊ง...ปิ๊ง... เมขลาหายคันไปชั่วขณะ แล้วอ้อนให้เขาช่วยทาให้ พญายื่นยาให้บอกให้ทาเองแล้วเดินไปเขินๆ
เมขลาทำหน้าง้ำบ่นอุบอิบ “ช่วยหน่อยก็ไม่ได้ คันจะตายอยู่แล้ว”
กลางดึกพญาเข้าไปดูเมขลาอีกที พบว่าหลับปุ๋ยไปแล้ว เขาย่องออกไปเพราะไม่อยากให้เธอรู้ว่าตนเข้ามาดู
ooooooo
อรัญกับตำรวจไปที่บ้านเสี่ยส่ง เสี่ยต้อนรับอย่างกระตือรือร้นถามว่าจะให้ตนช่วยอะไรก็ยินดี
อรัญบอกว่าเมื่อสามวันก่อนมีคนเห็นรถลักลอบขนแรงงานเถื่อนมาจากทางไร่เสี่ย เสี่ยทำหน้าตายว่าทางเส้นนี้แยกเข้าป่าได้อีกหลายทาง แน่ใจไหมว่ามันมาจากทางไหน อรัญบอกว่าให้ลองสืบดู ยังไม่ได้สรุปว่ามาจากไร่เสี่ย และอีกอย่างช่วงนี้มีพวกโจรกระชากกระเป๋าอาละวาดหนักส่วนมากเหยื่อจะเป็นผู้หญิง มีคนสงสัยว่าคนร้ายอาจจะเป็นลูกน้องบางกลุ่มของเสี่ย
เสี่ยส่งปฏิเสธเสียงแข็งว่าตนไม่มีลูกน้องแบบนั้นเด็ดขาด คนอย่างนั้นตนไม่เลี้ยง
“ก็ดีครับ งั้นผมไม่รบกวนแล้ว ขอบคุณมาก” อรัญจำต้องพูดอย่างนั้นทั้งที่ยังสงสัย
พออรัญกับตำรวจไป เสี่ยส่งถามมิ่งว่าฝีมือใคร มิ่งบอกว่าน่าจะเป็นไอ้ชิดกับไอ้หยอย สองคนนี้เวลาเมาแล้วคึก ชอบหาลำไพ่พิเศษ
“กำชับพวกมันด้วยนะ ทำอะไรอย่าให้มีเรื่องมาถึงอั๊วได้” เมื่อมิ่งรับคำแล้ว เสี่ยส่งเดินเข้าบ้านอย่างหงุดหงิด
ooooooo
แอนนี่กลับมาแล้วพร้อมของฝากให้พญา ไข่มุกกับมาการีนเห็นแอนนี่ก็มองอย่างแปลกใจแกมเขม่น มาการีนดูของฝากถามว่าซื้อจากไหน ห้างแถวนี้มีด้วยหรือ
แอนนี่บอกว่าซื้อมาจากฮ่องกงช่วงนี้มีเซลส์ทั้งเกาะ สองแม่ลูกตื่นเต้นจะไปเสริมสวยในช่วงลดราคา แอนนี่มองสองแม่ลูกอย่างดูถูกถามว่าเป็นคนงานใหม่หรือ ไข่มุกได้ยินแอบด่าว่าไม่ค่อยมีเทสต์ดูคนไม่ออก ลอยหน้าคุยอวดว่า
“รู้ไว้ด้วย ฉันเป็นแขกของคุณพญา”
แอนนี่หางตามอง พญาแนะนำว่าสองคนนี้เป็นเจ้าของป่าสายน้ำผึ้งคนใหม่ และแนะนำแอนนี่ว่าเป็นลูกสาวเสี่ยส่ง
พอต่างรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใครท่าทีก็เปลี่ยนไปทันที แอนนี่ยกมือไหว้ไข่มุก ข้างไข่มุกก็ยอว่าเห็นปุ๊บก็รู้สึกถูกชะตาปั๊บเลย
ขณะทั้งสี่นั่งดื่มน้ำชากันนั้น เมขลาในชุดนอนเดินมาจากบนบ้าน แอนนี่จิกตามองถามพญาว่าครูปริมใส่ชุดนอนออกจากห้องนอนเขาหรือ พญาชี้แจงว่าเพราะจัดเรือนเล็กให้ไข่มุกกับมาการีนอยู่ เลยให้ครูปริมมาอยู่ที่นี่
เมขลาเดินเกายุกยิกมา แอนนี่ถามว่าเป็นโรคติดต่อหรือเปล่า ทำท่ารังเกียจ เมขลาก็ยิ่งเกาเดินเข้าใกล้ พญารู้ทันปรามว่าเลิกแกล้งคนอื่นได้แล้ว พลางบอกแอนนี่ว่าเมื่อวานกินกุ้งสงสัยแพ้กุ้ง
มาการีนแอบกระซิบไข่มุกว่า “ท่าทางนังเมมันจะจำไม่ได้จริงๆนะแม่”
“อย่าเพิ่งเชื่อ ดูไปก่อน อาจจะเล่นละครหลอกเราก็ได้” ไข่มุกมองเมขลาอย่างระแวง
พญาเห็นสองแม่ลูกซุบซิบก็หันมอง ทั้งสองรีบฉีกยิ้มหวานกลบเกลื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ooooooo
ต่อหน้าแอนนี่ยิ้มแย้มมีไมตรีกับไข่มุก แต่พอเข้าห้องทำงานของพญาเธอบอกว่าสองแม่ลูกนี่ไม่ใช่เล่นให้ความหวังทั้งสองฝ่ายเพื่อโก่งราคาป่าสายน้ำผึ้ง
ขณะนั้นเองเมขลาเข้ามาในห้อง แอนนี่ถามเสียงแข็งว่าเข้ามาทำไม เมขลาบอกว่ามาทำงาน
พญาชี้แจงว่าตนให้ครูปริมมาช่วยแปลเอกสารเพราะเก่งภาษาอังกฤษมาก แต่ที่ออฟฟิศที่เต็มแล้วจึงให้มานั่งในห้องตน แอนนี่เบ้หน้าว่าจะเก่งสักแค่ไหนเชียว แล้วหยิบเอกสารที่เมขลาเอามาให้พญาขึ้นอ่าน เมขลาถามว่าใช้ได้หรือเปล่า
“อืม...ก็พอรู้เรื่อง” แล้วกระซิบถามพญา “เขาเคยไปเรียนต่างประเทศเหรอ ภาษาถึงดีขนาดนี้”
พญาไม่ตอบ แต่ยิ้มๆอย่างชื่นชม
วันนี้ขณะเมขลาขี่มอเตอร์ไซค์สะพายกระเป๋าใบเล็กๆมาอย่างอารมณ์ดี เจอชิดกับหยอยมันบอกกันว่าสวยดี หยอยบอกว่างั้นก็เอาทั้งกระเป๋าทั้งคนเลย
แล้วมันก็ขี่รถเข้าไปถีบมอเตอร์ไซค์เมขลาล้มชิงกระเป๋าพลางโปะยาสลบ แต่เมขลาดิ้นจึงโดนไม่เต็มที่ เมขลาเตะผ่าหมากจนมันตัวงอ เมขลาวิ่งร้องขอความ ช่วยเหลือออกไป ชิดกับหยอยมือกุมเป้าวิ่งตามมาคว้าไว้จะลากเข้าข้างทาง เธอเริ่มมึนๆเพราะยาสลบ
พญาขับรถผ่านมาเห็นพอดีจะเข้าไปช่วยถูกหยอยเอาไม้ตีหัวจนทรุด แต่ชิดกับหยอยสู้พญาไม่ได้จึงพากันวิ่งหนี พญารีบเข้าประคองเมขลาถามว่าเป็นอะไรไหม เมขลามองเบลอๆแล้วหมดสติไป
เมื่อพญากลับไปถึงบ้าน ทั้งแอนนี่กับมาการีนแย่งกันปฐมพยาบาล เมขลาเพิ่งฟื้นเดินออกมางงๆ พญาถามว่าตื่นแล้วหรือ ดีขึ้นไหม แล้วบอกแอนนี่กับมาการีนที่ยังแย่งกันดูแลเขาว่า
“ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวให้ตัวต้นเหตุเขาจัดการเอง”
ooooooo
เมขลาทายาให้พญาอย่างตั้งใจ เธอขอบคุณที่เขาช่วย พญามองอึ้งไม่คิดว่าเธอจะเอ่ยคำนี้ออกมาได้ เมขลาถามว่าตนแย่ขนาดนั้นเลยหรือ รู้สึกตัวเองนิสัยไม่ดีจนใครๆพากันเกลียด
พญาให้กำลังใจว่าหัดปรับตัว ชีวิตอาจจะดีจนนึกไม่ถึงก็ได้” เมขลาบอกว่าคงยาก เกิดมาไม่ดีนิสัยคงแย่ไปตลอดชีวิต พญาถามว่านี่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยใช่ไหม ตนเหนื่อยที่จะพูดกับเธอจริงๆ
“ก็ไม่ต้องพูดขี้เกียจฟังเหมือนกัน ฉันมันพวกบัวใต้น้ำ คุณด่ายังไง ฉันก็ไม่ผุดขึ้นมาเหนือน้ำได้หรอก” พูดพลางจิ้มแผลแรงๆ จนพญาร้อง แทนที่จะหยุด เธอกลับจิ้มแรงขึ้นจนพญาจะจับมือไว้ แต่เมขลาไวกว่า หลบไปได้แล้วลุกยิ้มเย้ยวิ่งไป
พญาทั้งเอ็นดูทั้งเคือง จะด่าก็ด่าไม่ทัน เลยได้แต่ถอนใจหนักๆ แต่ใบหน้าอมยิ้ม
วันนี้ไข่มุกกับมาการีนไปถ่ายรูปที่ทุ่งหญ้าสวย มาการีนบอกให้แม่เอียงซ้ายเอียงขวา ไข่มุกมัวแต่เก๊กท่าสวย พอมองที่พื้นเห็นงูเลื้อยอยู่ใกล้เท้า ไข่มุกยืนแข็งทื่อ มาการีนถามว่าแม่เป็นอะไร ไข่มุกแผดเสียงแทบไม่เป็นภาษาว่า
“งะ...งะ...งู! ช่วยด้วย!”
เมขลาได้เสียงชะงักพึมพำ “เกิดอะไรขึ้น” พอรู้ก็ลังเลว่าจะช่วยดีหรือไม่ แต่นึกถึงคำพูดของพญาที่ว่า “หัดนึกถึงคนอื่นก่อนตัวเองบ้าง ถ้าเธอเป็นคนดีกว่านี้ชีวิตอาจจะดีขึ้นจนนึกไม่ถึงก็ได้” เลยตัดสินใจวิ่งเข้าไปช่วย ไข่มุกวิ่งหนีเท้าไปพันเถาวัลย์นึกว่างูเลยวิ่งเตลิด เมขลาตกใจวิ่งตามไปจนหมดแรงจึงรู้ว่าที่แท้เป็นเถาวัลย์
สองแม่ลูกยิ่งสงสัยเพราะเมขลาที่รู้จักนั้นไม่เคยมีน้ำใจช่วยเหลือใคร เลยวางแผนพิสูจน์ต่อไปให้ชัดๆ ชัวร์ๆ ฝันหวานกันว่า ถ้าเมขลาความจำเสื่อมจริงๆ ไข่มุกก็จับเสี่ยส่งให้อยู่จะได้ทั้งไร่เสี่ยและป่าสายน้ำผึ้ง ส่วนมาการีนก็จับพญาให้ได้จะได้เป็นคุณนายไร่ภูพญา
เมขลาตั้งใจสอนเด็กๆมาก วันนี้ก็พาไปริมไร่ภูพญาที่ติดกับไร่เสี่ยส่ง สอนเรื่องการปลูกป่า คุณประโยชน์ของต้นไม้ใหญ่ที่มีรากลึกคอยอุ้มน้ำไว้เวลาฝนตกทำให้น้ำไม่ท่วมบ้านเรือน เห็นไร่เสี่ยส่งพ่นยาฆ่าแมลงจนเหมือนหมอกควันก็สอนว่า ยาฆ่าแมลงแถวนี้เวลาฝนตกก็ไหลลงไปที่ราบ จึงไม่แปลกใจเลยว่าคนไทยตายเพราะโรคมะเร็งเป็นอันดับหนึ่ง
พญาเห็นถึงความพยายามในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงของเมขลา เขาให้รางวัลเธอด้วยการพาไปเที่ยวสวนดอกไม้ เมขลาดีใจมากเดินชมสวนดอกไม้อย่างตื่นตาตื่นใจ พญาดูแล้วก็นึกละอายใจที่ตนทำผิดกับเธอ
เมขลาตื่นเต้นกับความสวยงามของสวนดอกไม้ เผลอจูงมือพญาพาไปดูทางโน้นทางนี้ เมื่อพญาซื้อไอศกรีมให้กิน เธอก็คะยั้นคะยอป้อนเขา พญาบ่ายเบี่ยงเลยกลายเป็นหยอกล้อหัวเราะกันอย่างร่าเริง โดยไม่รู้ว่าถูกสายลับแอบถ่ายรูปไว้หมด
ooooooo
วันนี้พญาจะไปส่งของ เมขลาเอารายการของเด็กที่ต้องใช้ในการเรียนฝากให้ช่วยดูให้ด้วย อรัญเพิ่งมาถึงถามว่าเธออยากได้ของใช้ส่วนตัวอะไรบ้าง เมขลาขอลิปสติกสีสวยๆสักสองแท่ง อรัญยินดีและเต็มใจซื้อให้
พญาเขม่นเร่งให้รีบขึ้นรถเดี๋ยวสาย อรัญบ่นอุบอิบว่ายังคุยไม่จบเลยกันท่าจัง พญาสั่งเมขลาว่า
“ฉันเข้ากรุงเทพฯสองคืน ดูแลตัวเองดีๆ อย่ามีเรื่องกับใครอีกเข้าใจไหม”
“ไม่ต้องย้ำหรอกค่ะ ใครไม่หาเรื่องฉันก่อน ฉันก็ไม่หาเรื่องด้วยหรอก” เมขลารับปากอย่างมีเงื่อนไข
พอรถออกไปแล้ว แอนนี่เพิ่งกระหืดกระหอบมาบ่นว่าออกไปเช้าจังอุตส่าห์มาส่ง เมขลาหันจะเดินกลับ ก็แกล้งบอกขอบใจที่อุตส่าห์ตื่นมาส่งพญาแทนตน บ่นพญาว่ารอหน่อยก็ไม่ได้ ทีเมื่อก่อนล่ะรอได้ เมขลารู้แกวบอกว่าก็แค่เคย มันเป็นอดีตไปแล้ว ว่าแล้วก็ขอตัวไปสอนเด็ก แอนนี่จิกตามองตามอย่างฝากไว้ก่อน
ป้าแหวงกับบัวผาดซุบซิบกันว่าระยะนี้ดูนายกับครูปริมแปลกๆกัน เพราะเมื่อก่อนพูดกันคำสองคำก็เถียงกันแล้ว เดี๋ยวนี้มีพาไปเที่ยวด้วย ป้าแหวงระแวงว่า “หรือยายครูตัวแสบทำเสน่ห์กับนายเรา”
เพ็ญมาข้างหลังได้ยินเต็มสองหู ปรามทั้งคู่ว่านินทาเจ้านาย ถ้าได้ยินอีกจะหักเงินเดือนนาทีละห้าสิบบาท ทั้งสองโอดว่าโหด ตนแค่พูดถึงเท่านั้น ถามว่าหรือแม่เพ็ญไม่เห็นเหมือนตน
เพ็ญทำหน้าเข้มใส่ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้เหมือนกัน
ฝ่ายเสี่ยส่งรุกไข่มุกอย่างต่อเนื่องหมายจะตัดหน้าซื้อป่าสายน้ำผึ้งก่อนพญา วันนี้ก็พาไปกินอาหารกันในร้านที่ตัวเมือง กินกันจนอาหารหมด พนักงานมาเก็บเงินรวมแปดร้อยห้าสิบบาท เสี่ยส่งอืดควักไม่ออก ไข่มุกก็ทำทีขอไปเข้าห้องน้ำ เดินบ่นไปตามทางว่าไอ้เสี่ยขี้ตืด ฝ่ายเสี่ยก็บ่นอย่างรู้ทันว่า “นังคุณนายขี้เหนียว ลูกไม้ตื้นๆ ทำลุกไปเข้าห้องน้ำ”
แต่ในที่สุดเสี่ยส่งก็ต้องจ่ายเพราะไข่มุกบอกว่าไม่ได้พกเงินสดมา และลืมกดเอทีเอ็ม ให้เสี่ยออกไปก่อน
ooooooo
พญาและอรัญไปกองโรงเรียนสามัญศึกษาเพื่อขอเอกสารเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องศูนย์เด็กเล็ก บังเอิญไปเจอศนิ อรัญจำศนิได้ครู่เดียวศนิก็นึกได้ว่าเคยเจอกันที่งานศพเมขลา เธอสงสารเพื่อนที่มาจากไปเร็วแบบนี้ เพราะตนกับเมขลาสนิทกันตั้งแต่เด็ก
ศนิบอกว่าเมขลาจากไปทั้งที่ละครเรื่องสุดท้ายยังเล่นไม่จบ พญาถามว่าเรื่องอะไรหรือ
“นักฆ่าสาว” ศนิบอกแล้วเล่าชีวิตที่น่าสงสารของเมขลาให้ฟังว่าพ่อแม่ตาย โดนน้าที่ไม่เคยรักเลยเอาแต่ถ่ายเทเงินทองของเมขลาไปให้ลูกสาวตัวเอง มาการีนไม่เคยทำงานเลยแต่หิ้วกระเป๋าใบละหลายแสน เมื่อเงินหมุนไม่ทันก็กู้นอกระบบแล้วโยนภาระให้เมขลา อรัญถามว่านิสัยอย่างเมขลาทำไมถึงยอมให้น้าทำแบบนั้นได้
“ลึกๆแล้วเมขลาไม่ได้เข้มแข็งอย่างที่เห็นหรอกค่ะ เขาโดดเดี่ยวมาก ในโลกนี้ก็มีญาติเหลือแค่สองคนแค่นั้นเอง โดนเอาเปรียบยังไงก็ต้องยอม ชีวิตเขาน่าสงสารกว่าที่ทุกคนคิด” ศนิเล่าชีวิตของเพื่อนแล้วเศร้า
ooooooo
วันนี้พวกเด็กๆ เล่นวิ่งไล่กัน ปลากัดปีนต้นไม้หนี เวลาหนีก็ปีนขึ้นไปอย่างเร็ว แต่พอจะลงเกิดหวาดเสียวไม่กล้าลง บอกเมขลาที่มาดูว่ากลัวตก เมลขาเลยรีบปีนขึ้นไปช่วย
“โอ้โห...ปีนเร็วกว่าลิงอีก” น้ำตาลร้องทึ่ง เด็กๆ พากันมองครูปริมกับปลากัดลุ้นกันตื่นเต้น
ปลากัดขยับยื่นมือมาจับมือเมขลา เหยียบเอากิ่งไม้เปราะหัก เมขลาพุ่งเข้าจับตัวปลากัดไว้เลยกอดกันตกลงไปทั้งคู่
ผลปรากฏว่าปลากัดแขนหัก เมขลาเป็นแผลที่แขนและศอก ไข่มุกและมาการีนรุมกันตำหนิเมขลา
หาว่าพาเด็กเล่นจนเกิดอุบัติเหตุ เป็นโรงเรียนอื่นเขาไล่ออกแล้ว แอนนี่ผสมโรงบอกเพ็ญว่า “มีครูแบบนี้ คุณน้าต้องคิดหนักนะคะ”
“เธออยากช่วยก็ควรเรียกคนงานให้ช่วย ประมาทเกินไป” เพ็ญตำหนิ พอดีพญากลับมาจึงโยนกลองให้เขาจัดการ
“ทราบเรื่องตั้งแต่เข้าไร่มาแล้วครับ ได้คุยกับเด็กอื่น ครูปริมจะปีนขึ้นไปช่วย ที่ตกลงมาเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครผิดทั้งนั้น ต่อไปนี้ก็ต้องระวังให้มากกว่านี้” พญาเอ่ยแล้วมองปลากัดเตือนว่า “เราก็อย่าซนให้มากนัก”
ไข่มุกติงพญาว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตเด็ก เขาจะปล่อยไว้แบบนี้หรือ อรัญเดินเข้ามาดูปลากัด บอกว่าถ้าครูปริมไม่ขึ้นไปช่วย อาจหนักกว่านี้อีก เพราะเด็กกระดูกอ่อน
ตกกลางคืนเมขลาไปเคาะประตูห้องนอนพญาขอบคุณที่ช่วยพูดให้ และขอโทษที่ตนก่อเรื่องขึ้นอีก พญาพูดหน้านิ่งว่าชินแล้ว พลางเอาของฝากให้ เมขลาดีใจมากที่ได้เสื้อสวยถูกใจ ชมว่าเขาก็มีน้ำใจเหมือนกันนะเสียแต่ชอบด่าชอบสอนมากไปหน่อย
“เพราะเธอไม่มีใครสอน ฉันถึงต้องสอน จะได้ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น เรื่องวันนี้เธอก็มีส่วนผิด เด็กก็คือเด็ก เขาไม่รู้ว่าทำแล้วจะอันตรายแค่ไหน ผู้ใหญ่ต้องคอยบอกคอยสอนให้ระวังไม่ปล่อยให้เล่นซนแบบนั้น”
“ค่า...ได้ค่า...รับทราบค่า...บ่นจัง ไปนอนดีกว่า” เมขลาทำทะเล้นทีเล่นทีจริงแล้วผละไป แต่เอี้ยวแรงไปหน่อยเจ็บเอวที่เคล็ดจนร้อง พญารีบเข้าประคองถามว่ายังเจ็บอีกหรือ เดินไหวไหม “ค่ะ...ยังปวดแปลบตอนเดิน ทายาหม่องที่แม่เพ็ญให้แล้วยังไม่ดีขึ้น แปลกนะ ตอนจะตกต้นไม้ ไม่รู้ฉันคิดยังไง ถึงได้เอาด้านข้างลำตัวลง ยังโชคดี ขืนลงตรงๆได้แขนหักเหมือนปลากัดแน่ สงสัยเคยเรียนวิชาบู๊ตึ๊ง”
พญามองอย่างหมั่นไส้แกมระอาที่เจ็บตัวขนาดนี้แล้วยังมีอารมณ์คุยโม้อีก
เพ็ญบอกพญาว่าแปลกใจที่วันนี้เขาพูดเข้าข้างครูปริม และแปลกใจที่ไข่มุก มาการีน และแอนนี่พากันถล่มเธอเหมือนกับอยากให้ออกจากไร่เราไปให้ได้ พญาบอกว่าตนตำหนิครูไปแล้ว แต่ถ้าถึงกับไล่ออก ผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอจะไปอยู่ไหน เพ็ญฟังแล้วชื่นชมที่พญาใช้ทั้งพระเดชและพระคุณในการปกครองคน
ทัศนคติต่อเมขลาที่เปลี่ยนไปทำให้ท่าทีต่อเมขลา ของพญาเปลี่ยนไป มีความอ่อนโยน ผ่อนปรน ทำให้เมขลาที่แข็งกร้าวต่อต้านเขาก็อ่อนลงด้วย
เพื่อตอบแทนที่พญาช่วยพูดให้ เมขลาจึงทำดีตอบแทน ปรับปรุงตัวเองตามคำแนะนำของเขา ทำให้พญายิ่งรู้สึกผิดที่ตนทำให้เธอต้องอยู่ที่นี่ในสภาพที่ความจำเสื่อมจนจำไม่ได้แม้แต่ตัวเอง
ฝ่ายแอนนี่ที่จ้างนักสืบติดตามการเคลื่อนไหวของเมขลานั้น เสี่ยส่งเห็นว่าเป็นการลงทุนมากเกินไป เพราะดูไปแล้วครูปริมก็เหมือนครูบ้านๆทั่วไปไม่ต้องสืบกันถึงขนาดนั้น แอนนี่ชี้แจงกับเสี่ยว่า
“หนูสังหรณ์ใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา น่าจะมีอะไรมากกว่าที่เราคิด” สั่งนักสืบว่า “ฉันต้องการรู้ว่าครูปริมเป็นใครกันแน่”
ooooooo