ตอนที่ 12
ทางบัญชากับอ่อนศรีนั่งรถมาด้วยกัน อ่อนศรีกลัวจะมีการดักทำร้ายเกิดขึ้นอีก บัญชาบอกว่าถ้ากลัวก็ไม่ต้องไป เธอแอบโมโหแต่ต้องเก็บอารมณ์เพราะต้องการไปดูหน้าอาเหลียง
หน้าสถานที่จัดงาน ดอนกับวดีในคราบของ
ยากูซ่ากับภรรยาลงจากรถ ดอนกดปุ่มที่แว่นเพื่อให้กล้องทำงานไลฟ์สดตลอดเวลา รถที่มาจอดต่อท้ายเป็นรถของบัญชา ตามด้วยรถของมาเฟียอิตาลี ดอนกับ
วดีระวังตัวทันที
มาเฟียอิตาลีทักทาเคชิ ดอนรีบแตะเบาๆที่หูเป็นการขอข้อมูล มิเชลรายงานทันทีว่า สองคนแรกคงไม่ต้องแนะนำ ส่วนคนหลังคือรีโอจากอิตาลี ทักทายได้เลย ดอนจึงเดินเข้าไปหา มาเฟียอิตาลีเย้า
“ไม่เจอกันตั้งนาน คุณดูไม่เปลี่ยนไปเลย ภรรยาคนสวยของคุณก็เหมือนกัน เคยสวยยังไงก็ยังคงสวยแบบนั้น”
“คุณเองก็ยังหล่อเท่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่ามีเคล็ดลับอะไร” ดอนกระเซ้ากลับ
ทั้งสองคุยกันอีกเล็กน้อยก็พากันเข้าไปข้างใน ทางเข้ามีการตรวจสแกนบัตรเชิญและอาวุธ วดีส่งกระเป๋าถือ ให้ตรวจแล้วผ่านเข้าไป แต่พอถึงดอน
มีสัญญาณดังขึ้น วดีหน้าเสีย ดอนหัวเราะ หยิบปืนพกออกมาส่งให้เจ้าหน้าที่แล้วบอกว่า
“โทษที พอดีของมันติดมือจนชินน่ะ”
พอผ่านเข้ามา วดีต่อว่าเล่นอะไร ดอนกระซิบบอกว่าเป็นกลซ่อนปืน เธอฟังแล้วงงว่าเขามีแผนอะไรซ่อนอยู่
ภายในห้องประชุมค่อนข้างมืด จัดแบบโต๊ะกลมประมาณสามสิบกว่าที่นั่ง มีเจ้าหน้าที่พาแต่ละคนไปนั่งตามป้ายชื่อที่ติดไว้ จอขนาดใหญ่ขึ้นภาพสัญลักษณ์มังกรทะเล ดอนกับวดีหันมองหน้าสมาชิกแต่ละคน เป็นการส่งภาพไปให้ที่หน่วยได้เห็นด้วย
มิเชลมองจอที่ดอนส่งภาพมาอยู่ในห้องลับ เอมี่ดักคอคงอยากเห็นอาเหลียง ดาบธงชัยแปลกใจที่
มิเชลอยู่กับปีศาจร้ายนี่มาได้หลายปี เธอบอกเขาคือ
หว่องหลีที่อ้างชื่ออาเหลียงเพื่อยึดอำนาจแก๊งมังกรทะเล ตนไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นอาเหลียง จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากทุกคน
ส่วนบัญชานั่งคู่กับอลัน คุยกันโดยไม่หันมองกันเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดสังเกต ทั้งสองทายกันว่าอาเหลียงจะปรากฏตัวหรือไม่ แต่ก็อยากให้มาเพื่อปริศนาค้างคาใจจะได้หมดไป และงานครั้งนี้อาจเป็นฝีมืออาเหลียงที่จัดขึ้น แต่เพื่อจุดมุ่งหมายอะไร เดี๋ยวคงได้รู้กัน
เก๋าเข้ามารายงานความพร้อมแก่ฤทธิ์ณรงค์ที่นั่งรอเวลาอยู่อีกห้อง แล้วเสียงพิธีกรสาวก็ประกาศว่า ขอต้อนรับเข้าสู่การชุมนุมใหญ่ของเหล่ามังกรทะเลจากทุกมุมโลก และขอเชิญพบกับประธานของเรา...อาเหลียง
ทุกคนจ้องมอง เสียงรถวีลแชร์ดังขึ้น ฤทธิ์ณรงค์เป็นคนเข็นอาเหลียงออกมา ไฟสว่างขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้ประจักษ์ มิเชลซึ่งเฝ้ามองแทบไม่เชื่อตาตัวเอง
อาเหลียง กล่าวขึ้นว่า
“นานเหลือเกินที่เราไม่ได้เจอกันพร้อมหน้าแบบนี้ หลายคนคงแปลกใจสินะว่าฉันหายไปไหนมาหลายปี ...ทุกอย่างเริ่มต้นเพราะมีคนทรยศ พวกมันวางแผนฆ่าฉัน และคิดว่าฉันคงตายไปแล้ว จนกระทั่งวันนี้...รู้ไหมฉันรอคอยวันนี้มาตลอด รอคอยที่จะบอกกับทุกคน ถึงสิ่งที่พวกมันทำกับฉัน”
อาเหลียงรวบรวมกำลังดันตัวเองลุกขึ้น แล้ว
ชี้นิ้วไปที่บัญชากับอลันพร้อมกล่าวเสียงกร้าว
“พวกมันคือไอ้คนทรยศ!!”