ตอนที่ 11
เฟื้อ เป็นคนสนิทของเจ้าคุณยงยศที่อยู่ไทรโศกถูกเจ้าคุณฯเรียกเข้ามาถามเรื่อง ไทรงาม ระหว่างนั้น เด่นดาวเดินใจลอยคิดถึงเรื่องไทรงามกับอู๊ดมาได้ ยินเสียงคุยกันในห้องข้องเกี่ยวกับไทรงามจึงหยุดฟัง
เจ้าคุณฯถาม เฟื้อว่าไทรงามเกิดที่ไทรโศกนี่จริงหรือ เฟื้อเชื่อว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นเพราะตนเห็นตั้งแต่ยังแบเบาะ ถามท่านเจ้าคุณฯว่า "ท่านถามทำไมหรือครับ"
"นั่นสิคะ" เด่นดาวพูดอย่างเห็นด้วยพลางเดินเข้าไป เจ้าคุณฯรีบกลบเกลื่อนพูดคุยต่อเหมือนเป็นเรื่องปกติ ธรรมดาว่า
"ไม่มี อะไรหรอกหลาน ปู่เห็นว่าเธออัธยาศัยดี แล้วหน้าตาก็ช่างเหมือน...เอ่อ...เหมือนญาติของเราคนหนึ่ง แต่ ถ้าเจ้าเฟื้อเขาว่าคุณหมอเธอเกิดที่นี่ ก็เป็นอันว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา"
"ไม่เกี่ยวแน่ครับ เพราะคุณหมองามเป็นลูกของแม่เย็น ใครๆก็รู้" เฟื้อยืนยัน
เจ้าคุณฯ จึงกลบเกลื่อนเปลี่ยนเรื่องว่าจะเป็นลูกหลานใครก็ช่างเถอะ เห็นว่าเป็นคนมีอัธยาศัยดีเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจพูดจาสุภาพอ่อนหวานเลย อยากให้เด่นดาวคบหาไว้ เป็นเพื่อน เพราะคนอย่างนี้ไม่ใช่จะหาที่ไหนได้ง่ายๆ
"ค่ะ...ใครๆ ถึงได้พากันรักเธออย่างไรคะ" เด่นดาวพูดอย่างนั้น รู้สึกอย่างนั้น แต่ในใจแอบคิดขอยกเว้นอู๊ดไว้ คนหนึ่งในจำนวนใครๆที่เธอเอ่ยถึง
ไม่ เพียงเด่นดาวที่คิดไม่สบายใจเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างอู๊ดกับไทรงาม ดำเองก็คิดมากจนเอาไปนั่งซึมนอนไม่หลับเหมือนกัน
ooooooo
เช้า วันต่อมา เมื่อเพิ่มไปรับคุณเจนมาที่ไทรโศกพร้อมเอกสารประกอบพินัยกรรมก็มานั่งกัน พร้อมหน้าที่โถงเรือนใหญ่ไทรโศก นอกจากพวก "ธีระรัตน์" ทั้งหมดแล้ว ยังมีเพิ่มมานั่งเป็นพยานด้วย
เมื่อทุกคนพร้อมแล้ว คุณเจนจึงเอาเอกสารประกอบพินัยกรรมอ่านให้ฟัง
"นอกจากนางบานเย็น ธีระรัตน์ จะได้รับเงินเดือนเป็นจำนวนดังกล่าว นับตั้งแต่ให้กำเนิดทายาทแก่ตระกูลธีระรัตน์ แล้ว ยังจะได้รับเงินปันผลจากรายได้ทั้งหมดที่ได้จากที่นาไทรโศกอีกปีละ 10% จนเมื่อทายาทของนายกิติและนางบานเย็น ธีระรัตน์ มี
อายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ จึงอนุญาตให้แบ่งที่ดินไทรโศกเป็น 4 ส่วน ข้าพเจ้าขอมอบที่ดิน 2 ใน 4 ส่วนนั้นให้แก่ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมายของนายกิติและนางบานเย็น ธีระรัตน์ ส่วนที่เหลือข้าพเจ้าขอมอบให้แก่นายกิติและนางบานเย็น ในสัดส่วนที่
เท่ากัน"
คุณ หญิงถามแทรกขึ้นว่าตนจะได้อะไร คุณเจนบอกว่าได้รับเงินปันผล 30% ในแต่ละปี อุษาถามขึ้นบ้างว่าตนเป็นเมียกิติจะได้อะไรบ้าง
"คุณกิติจะมีเมียกี่ คนก็ได้ แต่ภรรยาที่ถูกต้องตาม กฎหมายมีได้คนเดียวเท่านั้นครับ" คุณเจนบอก
"ยัง มีสาระสำคัญที่เจ้าคุณพ่อหมายเหตุไว้ด้วยใช่ไหมครับคุณเจน" เพิ่มถาม
"ครับ" คุณเจนตอบแล้วจึงเริ่มอ่านต่อตรงหมายเหตุว่า "หมายเหตุ...หากมีเหตุอันใดที่ทำให้ทายาทของนายกิติและนางบานเย็น ธีระรัตน์ ต้องพิการหรือเสียชีวิตก่อนอายุครบ 25 ปี ให้มอบเงินรายได้จากที่นาไทรโศกหลังหักค่าใช้จ่ายซึ่งฝากเก็บไว้ที่
ธนาคาร ทุกปีให้แก่องค์กรสาธารณกุศล และให้ขายที่ดินไทรโศกทั้งหมดเพื่อนำเงินก่อตั้งมูลนิธิ "โพธิ์งาม" เพื่อช่วยเหลือลูกหลานชาวนาให้ได้รับทุนการศึกษาสืบไป..."
อุษาทนไม่ ได้แผดเสียงลั่น "ไม่จริ๊ง...ไม่จริง!!!"
ส่วนคุณหญิงนิ่งตาโปนด้วย ความโกรธขบฟันจนกรามนูน เจ็บใจที่เจ้าคุณฯทำพินัยกรรมไว้เหมือนจะรู้ว่าหลังจากท่านจากไปแล้วจะเกิด อะไรขึ้นจึงปิดรูรั่วช่องโหว่ไว้อย่างที่ไม่มีทางบิดพลิ้วได้เลย
ooooooo
เวลา เดียวกันนั้น อ๊อดแต่งตัวหล่อกำลังจะออกจากบ้าน เดินผ่านมาทางเชื่อมระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนเล็ก เจอไทรงามเดินมาจากอีกด้านพอดี เขาพุ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้นถามว่ามาตรวจคนไข้แถวนี้หรือ ไทรงามตอบตามมารยาทว่ามาฉีดยาและ
กำลังจะกลับคลินิก
อ๊อดรีบอาสาจะไป ส่งบอกว่าเพิ่มเพิ่งเอารถจากพระนครมาให้ใช้ที่นี่พอดี ไทรงามปฏิเสธขอเดินไปเอง อ๊อดไม่ยอมให้พลาดโอกาส ตื๊อจะไปส่งให้ได้ พอเห็นท่าว่าไทรงามจะไม่ยอมไปด้วยจริงๆก็คว้าแขนเธอไว้จะลากไปกับตนให้ได้
"ปล่อย ดิฉันเถอะค่ะ" ไทรงามขอร้องดีๆ พลางบิดมือเบาๆ ถูกอ๊อดจับแน่นและบีบแรงขึ้นสุดท้ายกลายเป็นยื้อยุดกัน
"ปล่อยมือหมอ งามเถอะครับพี่อ๊อด" อู๊ดออกมาเห็นพอดีขอร้องขึ้น ทำให้อ๊อดจำต้องปล่อยมือไทรงาม เธอรีบขอตัวไปทันที
อ๊อดฉุนขาดที่อู๊ ดมาขัดจังหวะทองของตัวเอง พุ่งเข้าไปขยุ้มคอเสื้ออู๊ดถามว่ามันกงการอะไรของนาย อู๊ดพูดอย่างใจเย็นว่าผู้ชายมาจับมือถือแขนผู้หญิงอย่างนั้นตนเห็นว่าไม่ สุภาพ
"ฉันกับหมองามมีความรู้สึกดีต่อกัน จับมือกันแค่นี้มันเสียหายตรงไหน ดูอย่างนายกับน้องดาวสิไปไหนมาไหนแทบจะกอดกันเลยไม่ใช่หรือ" อ๊อดแว้งกัดทันที พออู๊ดบอกว่าตนไม่เคยทำตัวรุ่มร่ามแบบนั้น อ๊อดก็ตัดบทว่า "นายจะรักจะชอบน้องดาวก็
เรื่องของนาย แต่อย่ามายุ่งกับหมองามของฉัน..."
"หนู งามไม่ใช่ของใครทั้งนั้น เพราะเธอมีพ่อมีแม่ครับคุณอ๊อด" คุณเจนออกมาเจอพอดีพูดแทรกขึ้น
อ๊อดหน้าเสียรีบขอโทษที่พูดจาไม่ สุภาพ ยืนยันว่าตนจริงใจกับไทรงาม พูดเฉไฉหน้าตาเฉยว่า
"คุณเจนมาก็ ดีแล้ว ผมจะได้ถือโอกาสนี้ขออนุญาตคุณเจนคบหมองามอย่างจริงจังซะเลย"
"ขอ อนุญาตผมไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเป็นเพียงแค่พ่อบุญธรรมของหนูงาม คุณอ๊อดควรจะเข้าหาแม่ของหนูงามถึงจะถูก" คุณเจนพูดขาดคำอ๊อดถามทันทีว่าแม่ของหมองามเป็นใคร คุณเจนมองหน้าอ๊อดนิ่งก่อนจะตอบเหมือนจะตอกเข้าให้ถึง
หัวใจอ๊อดว่า "คุณบานเย็นครับ!"
ทั้งอ๊อดทั้งอู๊ดต่างอึ้งไปทั้งคู่
ooooooo
กิ ติกลับมาฟ้องคุณหญิงว่าบานเย็นมีชู้จนได้ลูกออกมาคือไทรงาม อ๊อดเข้ามาได้ยินถามว่าใครเป็นชู้กับใคร คุณหญิงตัดบทว่าไม่มีอะไร แล้วบอกอ๊อดว่า รู้ว่าไทรงามเป็นลูกใครแล้วก็เลิกยุ่งเสียที หันกลับไปหาเด่น-ดาวก็ยังไม่สายเพราะไทรงามก็เป็นแค่
ลูกบ่าวในบ้านเราไม่ สมควรลดตัวลงไปคบด้วย
"ไม่ครับ อ๊อดรักหมองาม อ๊อดไม่สนหรอกครับว่าเธอจะเป็นลูกขี้ข้าบ้านไหน ยังไงอ๊อดก็จะเอาเธอมาเป็นของอ๊อดให้ได้"
ได้ฟังคำประกาศจริงจังของ อ๊อดแล้วทั้งพ่อ แม่ และย่า ต่างก็หนักใจ
ส่วนที่ห้องครัว พอเพิ่มไปเล่าให้หวินฟังว่าทุกคนรู้แล้วว่าเอกสารแนบท้ายพินัยกรรมเขียนไว้ ว่าอย่างไร ต่างทำท่าจะอกแตก หวินถามว่าแล้วพวกธีระรัตน์ไม่กรี๊ดกันจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ ถามเพิ่มว่า
"นี่ ถ้าคุณอู๊ดเป็นอะไรไป ก็หมายความว่าไม่มีใครได้อะไรเลยใช่ไหมพี่เพิ่ม"
"เจ้า คุณฉลาด" เพิ่มเอ่ยหลังจากพยักหน้าหงึกๆ "ท่านรู้ว่าเมื่อคุณอู๊ดได้รับมรดกมหาศาลแล้วอาจจะมีใครที่โลภมากลอบทำร้าย เธอให้พิการหรือไม่ก็เสียชีวิต เพื่อจะฮุบมรดกไว้เสียเอง ท่านก็เลยเขียนเอกสารฉบับนี้เพื่อปกป้องคุณอู๊ดโดยเฉพาะ"
ทันใดนั้น ทั้งสองก็แทบหมดอารมณ์คุยกันเมื่อคุณหญิงเดินหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาสั่ง เพิ่มให้เอาเรือออกไปตามคุณเจนกลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้ เพิ่มถามอย่างสงสัยว่ามีอะไรหรือเพราะคุณเจนเพิ่งไปหยกๆ
"ฉันจะบอก คุณเจนให้ทำเรื่องตัดนังเย็นออกจากกองมรดก ฐานที่มันริอ่านมีชู้จนมีนังหมองามนั่นโผล่ออกมาประจานตัวเอง"
หวิน กับเพิ่มมองหน้ากันไม่สบายใจ หวินถามว่ามันจะดีหรือ คุณหญิงตวาดว่านังก้นครัวอย่างหวินไม่มีสิทธิ์อะไรมาออกความเห็น หวินเลยฮึดขึ้นมา แต่ก็ยังพูดอย่างนอบน้อมว่า
"หวินไม่อาจเอื้อมถึง เพียงนั้นหรอกค่ะ เพียงแต่...เวลามันผ่านไปนานเป็นสิบๆปี คุณหญิงอาจจะลืมไปแล้วว่า ถ้าคุณเจนสืบไปสืบมาแล้วพบว่าจริงๆแล้วนายใบ้คือพ่อที่แท้จริงของคุณอู๊ด มันจะไม่ใช่แค่หนูเย็นสิคะที่ถูกตัดจากกองมรดก แต่มรดกทั้ง
หมดจะกลายเป็นโมฆะ ต้องยกให้การกุศล ทำให้ทุกคนพลอยไม่ได้อะไรไปด้วยสิคะ"
เพิ่มฟังแล้วกลั้นยิ้มไม่อยู่ ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ส่วนคุณหญิงหน้าชาเหมือนถูกหวินตบอย่างแรง หูอื้อตาลายจนแทบจะเสียสติอยู่ตรงนั้น
ooooooo
ส่วนกิติก็ พุ่งไปหาบานเย็นที่กำลังเช็ดถูบ้านอยู่ ด่าว่าบานเย็นมีชู้จนมีมารหัวขนมาหยามหน้าตน ถามบานเย็นว่าใครเป็นพ่อของเด็กนั่น เธอเป็นชู้กับใบ้ใช่ไหม
บานเย็น แค่นหัวเราะออกมาอย่างเจ็บแค้น ข่มเสียงถามว่า
"ก็พวกคุณเองไม่ใช่ หรือที่ยัดเยียดนายใบ้มาให้ฉันตั้งแต่คืนแรกที่ส่งตัว ถ้าฉันจะอยู่กินกับเขาจนมีลูกด้วยกันอีกสักคนแล้วมันผิดตรงไหน เพราะเขาไม่ใช่ชายชู้ แต่เป็นสามีของฉันต่างหาก..."
กิติโกรธจนขาด สติตะคอกว่าถ้าใบ้เป็นสามีก็ให้ถือว่าตนเป็นชายชู้ก็แล้วกัน พุ่งเข้าลากบานเย็นเข้าห้องอย่างบ้าดีเดือด
กิติถูกบานเย็นสู้สุด ฤทธิ์ทั้งจิกทั้งข่วนทั้งตบจนหน้าชาแต่ยังหน้ามืด โถมตัวเข้าทับบานเย็น แต่วินาทีนั้นก็ถูกจิก ผมหน้าหงายขึ้นมาตบสุดแรง! อุษานั่นเอง! ตบเสร็จก็ด่าเป็นไฟ จนกิติตั้งสติได้กระชากตัวอุษาออกจากห้อง
อุษา ถูกลากไปที่เรือนใหญ่เหวี่ยงเข้าไปในห้องจนหน้าคะมำ อุษาพลิกตัวหันหน้ามาเผชิญกับกิติ ต่างคนต่างเลือดขึ้นหน้า ทั้งด่าทั้งสาวไส้กันไม่มีใครยอมใคร จนคุณหญิงเข้ามาตวาดให้หยุด สั่งกิติให้พาเมียไปให้พ้นหน้าตน และอบรมสั่งสอนให้รู้จัก
สงบปากสงบคำเสียบ้าง ถามอย่างเจ็บใจว่า
"หรือ แกจะยอมให้ผู้หญิงคนนี้ขึ้นขี่บ่าแกอยู่ร่ำไปก็ตามใจ!"
เมื่อกิติลาก อุษาไปพ้นหน้าแล้ว คุณหญิงได้แต่ยืนทดท้อตรอมใจกับเรื่องเลวร้ายที่ถาโถมเข้ามาสู่ตระกูลธีระ รัตน์
ส่วนกิติพอลากอุษาเข้าห้องก็แสดงความโหดเหี้ยมด้วยการใช้ เข็มขัดหนังของตัวเองเงื้อจะหวด จนอุษากลัวตัวสั่น
ooooooo
เที่ยง นี้ ไทรงามปิดคลินิกจะชวนดำไปกินข้าวกลางวันด้วยกัน ดำยังไม่หายน้อยใจทำเล่นตัวแต่ไทร-งามไม่เฉลียวใจนึกว่าดำไม่อยากไปกินข้าว จริงๆ
ขณะไทรงามจะเดินไปนั่นเอง อ๊อดก็โผล่มาถามว่าได้ยินว่าจะไปกินข้าวถ้าตนจะขอตามไปด้วยจะรังเกียจไหม ทำเอาไทรงามปฏิเสธไม่ออก จำต้องไปด้วยอย่างรักษามารยาท
เป็นเวลาที่ อัมจัดปิ่นโตจะเอาไปให้อู๊ดที่ไซต์งานพอดี เห็นทั้งสองเข้ามาก็ทำทีกระตือรือร้นเข้าไปเชิญเข้าร้านแล้วขอตัวอ้างว่ามี ธุระนิดหน่อย คว้าปิ่นโตเดินลิ่วออกไปอย่างแสนจะสะใจที่จะได้คาบข่าวนี้ไปเป่าหูอู๊ดได้ อย่างมันอารมณ์
แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนการของอัม เมื่อเอาปิ่นโตไปฝากอู๊ด ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างเกรงใจบอกว่ากำลังจะออกไปกินที่ตลาดพอดี จนอัมเป่าหูว่าเวลานี้อ๊อดกับหมองามอยู่ที่ร้าน ทั้งคู่สั่งอาหารแล้วก็เอาแต่นั่งมองหน้ากันตาฉ่ำ
อัมปั้นน้ำเป็น ตัว เป่าหูจนอู๊ดเซ็งตัดสินใจไม่ไปที่ตลาด แต่เรียกใบ้และคนงานแถวนั้นมากินข้าวจากปิ่นโตของอัมด้วยกัน ทำเอาอัมเซ็งจนพูดไม่ออก
ooooooo
หลังจากกินอาหารปิ่นโตจน อิ่มกันแล้ว อู๊ดตอบแทนน้ำใจด้วยการขับรถไปส่งเธอที่ตลาด เธอพยายามชวนเขาเข้าไปนั่งดื่มโอเลี้ยงสักแก้ว ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะต้องรีบกลับไปทำงานต่อ ชมก่อนไปว่าอาหารอร่อยมาก
แต่ พออู๊ดจะไป อัมก็เกิดเซจะล้มขึ้นมาเสียเฉยๆจนอู๊ดต้องประคองไว้ อัมอบอุ่นซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เขาอุ้มเธอวิ่งไปทางคลินิกของหมองามด้วยความตกใจ
อ๊อดเกาะแจที่ คลินิกหมองาม ช่วยปั้นสำลีเซ็งๆกระทั่งวางมือเมื่อไทรงามลุกไปทางอื่น แต่พอไทรงามเข้ามาก็ทำเป็นเอาการเอางานยิ้มแย้มมีความสุข
"พอแค่นี้ เถอะค่ะคุณอ๊อด อุตส่าห์นั่งทำมาค่อนวันแล้ว ดิฉันเกรงใจ" พลางเอากล่องสำลีจะไปเก็บถูกอ๊อดฉวยโอกาสจับมือแต๊ะอั๋ง พูดเสียงหล่อตาวาวว่า
"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีและเต็มใจช่วยหมองามอยู่แล้ว"
จังหวะนั้นเอง อู๊ดอุ้มอัมเข้ามาพอดี อู๊ดเห็นภาพนั้นเต็มตาถึงกับอึ้ง ส่วนไทรงามเห็นอู๊ดอุ้มอัมระทวยเข้ามาก็ร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที
ooooooo
สาย วันนี้ เสี่ยโอเข้าไปบอกทนต์ขณะเช็กของอยู่ในร้านว่ามีคนมาหา พอเสี่ยเบี่ยงตัวออก ทนต์ก็เห็นอุษาในสภาพอิดโรยยืนอยู่
อุษาใส่ เสื้อแขนยาวบางๆปกปิดรอยช้ำจากถูกเข็มขัดฟาดเมื่อคืน เมื่อพากันไปนั่งคุยในมุมสงบลับตาคน อุษาระบายความคับแค้นใจที่ถูกกิติทำร้าย บอกทนต์ว่าตนไม่อยากเป็นทาสทั้งแม่ทั้งลูกคู่นี้อีกต่อไปแล้ว ทนต์แนะว่าก็แค่เดินออกจากชีวิตพวกนั้น
เธอก็ไม่ต้องทนอีกต่อไป
"ไม่ใช่ อุษาอยากอยู่กับพวกมันนะ ที่ต้องทนอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อมรดกก้อนสุดท้าย ถ้าได้เงินนั่นมาเมื่อไหร่ มันจะไปตายที่ไหนก็ช่างหัวมัน ตายวันนี้พรุ่งนี้เลยได้ยิ่งดี"
ทนต์พูดอย่างเลือดเย็นว่าไม่เห็นจะ ยาก ยิ่งคนใกล้ชิดอย่างนี้ยิ่งง่าย อุษาตกใจปฏิเสธปากคอสั่นว่าตนกลัวทั้งมีดกลัวทั้งปืน กลัวทั้งเลือด ตนฆ่าไม่ได้หรอก
"ไม่เห็นต้องทำอย่างนั้นเลย มันมีวิธีทำให้คนตายโดยไม่มีใครสงสัยตั้งหลายวิธี แล้วก็ไม่เกินความสามารถของเธอด้วย จะทนหรือจะลุกขึ้นมาเอาคืน ขึ้นอยู่กับเธอ" ทนต์พูดเรื่อยๆ แต่อุษาคิดหนัก
บ่ายแก่ๆอุษาก็ กลับถึงบ้าน กิติกำลังเดินงุ่นง่านเป็นหนูติดจั่นเพราะกลัวอุษาหนีไปจริงๆ แต่คุณหญิงกลับเห็นว่าคนหัวดื้อหัวแข็งอย่างนี้ต้องเจอไม้แข็งเสียบ้างจะได้ สำนึกว่าแม่ผัวกับผัวสำคัญอย่างไร
พอกิติเห็นอุษากลับมาก็โผเข้าหาอย่างดีใจสุดขีด กอดเธอไว้แน่นพลางขอโทษอย่างสำนึกผิดแล้วกิติก็ซาบซึ้งสะเทือนใจเมื่ออุษาบอกเขาว่าตนเองต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายขอโทษเขากับคุณหญิง แล้วเล่าว่า
"อุษาไปนั่งสงบจิตใจที่วัดมาค่ะ บังเอิญไปเจอพระธุดงค์ รูปหนึ่ง ท่านเทศน์ให้อุษาฟังจนอุษาปลงและคิดได้ว่าที่ผ่านมาอุษาดื้อดึงกับคุณและคุณแม่มากแค่ไหน อุษาขอโทษนะคะ" พูดจบก็กราบที่อกกิติแล้วคลานไปกราบที่ตักคุณหญิงอ้อน "ยกโทษให้
อุษาด้วยนะคะคุณแม่"
คุณหญิงแอบสบตากับกิติทำนองว่าเห็นไหมเจอไม้แข็งเข้าทีเดียวก็อ่อนข้อลงไปเป็นขี้ผึ้งลนไฟ
"นี่พระท่านให้สมุนไพรอุษามาด้วยนะคะ ท่านว่าเป็นยาคลายเครียด ดื่มแล้วจะทำให้สมองผ่อนคลาย ช่วยเจริญ อาหารด้วย อุษาเห็นพวกเราเครียดเรื่องไทรโศกมามากแล้ว ก็เลยขอเจียดจากท่านมา ว่าจะลองต้มดูน่ะค่ะ นี่ไงคะ" พูดพลางแกะห่อ
ใบตองออกให้ดูตัวยา
คุณหญิงมองยาสมุนไพรในใบตองอย่างแคลงใจ ในขณะที่กิติสบายอกสบายใจที่เห็นอุษาอ่อนข้อลงอย่างเห็นได้ชัด
ooooooo
อู๊ดอุ้มอัมไปที่คลินิกหมองามเธอก็ยังร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดจนไทรงามจะฉีดยาให้ พอเห็นเข็มฉีดยาเท่านั้นเธอก็ลุกพรวดหายเป็นปลิดทิ้งแถมยังเดินโชว์ให้ดูด้วย จากนั้นรีบหันไปทางอู๊ดพูดหวานว่า
"ขอบคุณมากนะคะคุณอู๊ดที่อุตส่าห์พามาหาหมอ แล้วเจอกันวันหลังนะคะ" ว่าแล้วออกไปเลย
อ๊อดได้ทีไล่อู๊ดทางอ้อมว่าเสร็จธุระแล้วก็รีบกลับไปทำงานเสีย อู๊ดรับคำแล้วผละไป ส่วนไทรงามก็บอกอ๊อดเช่นกันว่าให้กลับไปทำธุระอย่างอื่นได้แล้ว อ๊อดเลยเดินเซ็งๆออกไป ผ่านหน้าร้านค้าของเสี่ยโอ เห็นอัมกำลังดึงผ้าพันข้อเท้าออกอย่างหงุดหงิด
เลยแกล้งพูดประชดว่า
"ผ้าวิเศษของหมองามนี่ใช้ได้ผลชะงัดนะ ว่าไหม พันปุ๊บหายปั๊บ"
อัมหันไปไล่อย่างหงุดหงิดว่าจะไปไหนก็ไปให้พ้นๆหน้าตนไปเลย อ๊อดยังไม่ไปยืนยั่วโทสะถามว่าปวดจริงหรืออยากอ้อนอู๊ดกันแน่
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย อย่างกับตัวเองดีนักนี่ วันๆไม่เห็นทำอะไรนอกจากเดินตามตูดผู้หญิงคนนั้นทีคนนี้ที"
อ๊อดเลยยั่วว่าอย่างเธอก็น่าตาม อัมด่าสวนไปทันทีว่า
"ฝันไปเถอะ คนจับจดไร้สาระอย่างนาย ต่อให้รวยแค่ไหนฉันก็ไม่สน แค่ปลายเล็บฉันนายก็ไม่ได้แอ้มด้วยซ้ำ"
อ๊อดฉุนขาดท้าว่าคอยดูก็แล้วกัน อัมก็ใช่ย่อยหยามใส่หน้าว่าแล้วจะถ่างสองตาคอยดู
ทั้งคู่เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร อ๊อดไม่รู้ว่าข้างหลังเขา ทนต์นั่งมองอยู่ว่าหมอนี่เป็นใคร
ooooooo
อุษาเข้าครัวต้มยาสมุนไพรเองจนหวินกับดำสงสัยว่าร้อยวันพันปีไม่เคยเข้าครัว คราวนี้ทำไมจึงมาทำเอง ดำจะเข้าไปทำกับข้าวก็เลยต้องรอให้อุษาต้มยาให้เสร็จเสียก่อน
จนกระทั่งอุษาต้มยาเสร็จดำก็เข้าครัวไปผัดฉ่าปลาดุกหอมฉุยน่าอร่อย หวินถามว่ากับข้าวมีตั้งเยอะแล้วจะทำอีกทำไม ไทรงามอยากกินอย่างนั้นหรือ
ดำไม่ตอบเพราะตั้งใจจะทำกับข้าวอร่อยๆฝีมือตัวเอง ไปขอโทษใครบางคน
จนใกล้ค่ำก็มีปิ่นโตแขวนอยู่ที่กิ่งไม้ในสวนบ้านเจ้าคุณยงยศ เจ้าคุณถามเด่นดาวว่าปิ่นโตของใคร เมื่อกลางวันเห็นหลานทำกับข้าวไปส่งอู๊ดที่ไซต์งานไม่ใช่หรือ
เด่นดาวอึกอัก เจ้าคุณฯเลยเรียกเฟื้อที่รดน้ำต้นไม้อยู่ แถวนั้นมาถามว่านี่ปิ่นโตของใคร เฟื้อมองแล้วจำได้ว่าเป็นปิ่นโตที่บ้านแต่ใครเอามาแขวนไว้ไม่รู้ ว่าแล้วไปหยิบมาดูปรากฏว่ายังร้อนๆอยู่ หอมฉุยเสียด้วย บอกเจ้าคุณฯว่า
"คงเป็นชาวบ้านที่มาเช่าที่นา พอรู้ว่าท่านมาก็เลยทำส่งมาให้กระมังครับ" เฟื้อเดาสุ่ม
เจ้าคุณฯพยักหน้ารับรู้และไม่ติดใจอะไรอีก แต่เด่นดาวเอะใจมองไปรอบๆเพราะรู้ดีว่าใครเป็นคนทำกับข้าวมาแขวนไว้ให้
ดำแอบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ชายหนุ่มยิ้มสบายใจที่อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรมาชดใช้ความรู้สึกของเด่นดาวแล้ว
ooooooo
เสี่ยโอวางแผนจะใช้ "เส้น" ของอู๊ดประมูลวัสดุก่อสร้างทาง วันนี้เอาซองสองซองไปให้อู๊ด บอกว่าซองหนึ่งเป็นซองประมูลอีกซองเป็นค่าน้ำร้อนน้ำชา
อู๊ดคืนให้ทั้งสองซอง ซองแรกบอกเสี่ยว่ายื่นประมูลได้ด้วยตัวเองส่วนอีกซองนั้น อู๊ดบอกว่าตนไม่ดื่มทั้งน้ำร้อนและน้ำชา เสี่ยยังพยายามตื๊อว่า
"แต่ในฐานะนายช่างคุมงาน คุณอู๊ดมีสิทธิ์จะเลือกของจากร้านอั๊วไม่ใช่หรือ"
"คุณภาพของของและราคาที่ยุติธรรมเป็นตัวเลือกครับ ไม่ใช่ผม ในฐานะของข้าราชการผมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับประชาชนอยู่แล้ว ถ้าของเสี่ยมีคุณภาพดี มีราคาที่สมเหตุสมผลก็ไม่น่าต้องกังวลใจอะไรนี่ครับ"
เสี่ยยิ้มฝืดๆตีหน้าไม่ถูก อัมมองอู๊ดอย่างสุดปลื้ม ในขณะที่ทนต์ฟังนิ่งๆอย่างเก็บข้อมูล
เมื่อออกจากแคมป์งาน เสี่ยบ่นกับอัมอย่างโกรธจัดว่าอู๊ดบังอาจปฏิเสธเงินของตน
"ดีออกเตี่ย เพราะมันแสดงให้เห็นว่าคุณอู๊ดน่ะซื่อสัตย์ แล้วก็มือสะอาดขนาดไหน"
เสี่ยสวนไปทันทีว่าดีอย่างเดียวอั๊วไม่เอา ต้องเซ็งลี้เป็นด้วย อัมเลยเสนอให้ใจเย็นๆรับรองว่าเรื่องแบบนี้สอนกันทีหลังได้ รอให้ตนเป็นเมียอู๊ดเมื่อไรจะสอนเช้ากลางวันยันดึกเลย
ใบ้กำลังแบกถุงปูนผ่านมาได้ยินพอดี เห็นเสี่ยกับลูกสาวขึ้นรถและทนต์เป็นคนขับพาออกไป ใบ้ก็รีบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินเลี่ยงไป แต่ทนต์ยังติดใจสงสัยมองตามใบ้ ก่อนจะขับรถพาสองพ่อลูกไป
ooooooo
ฝ่ายอุษาตั้งอกตั้งใจต้มยาทุกขั้นตอน เมื่อต้มเสร็จก็เทใส่กากระเบื้องเอาไปให้กิติกับคุณหญิง สองแม่ลูกลองดื่มดู กิติชมว่าหวานชุ่มคอนิดๆ ลุ้นให้คุณหญิงที่ยังลังเลลองชิมดู พอคุณหญิงยกชิมก็ชมว่าดื่มง่ายดี คราวหลังอุ่นให้ร้อนกว่านี้อีกนิดก็จะยิ่งดี
"ค่ะ...คุณแม่" อุษาเสียงหวาน มองสองแม่ลูกยกน้ำสมุนไพรดื่มตาเป็นประกายวาว
เวลาเดียวกัน อ๊อดหรือเกียรติกร ธีระรัตน์ ก็รุกไทรงามอย่างต่อเนื่อง นอกจากไปเฝ้าเธอที่คลินิกแล้ว ตอนเย็นยังเคี่ยวเข็ญแกมขอร้องพาเธอไปส่งที่บ้านด้วย
ดำเพิ่งกลับจากเอาปิ่นโตไปแอบแขวนขอโทษเด่นดาว กลับมาถึงบานเย็นถามว่าไม่ได้กลับมาพร้อมไทรงามหรือ ดำปดเล็กๆว่า
"เผอิญหนูมีธุระต้องกลับมาบ้านก่อนน่ะน้าเย็น นี่ก็ว่าจะออกไปรับน้องงามอยู่พอดี"
ดำพูดไม่ทันขาดคำ รถของอ๊อดก็ขับพาไทรงามเข้ามาจอด อ๊อดลงจากรถไปไหว้บานเย็นบอกว่าตนแวะไปรับไทรงามแล้วขออนุญาตไปรับส่งเธอทุกวันจะได้ไหม บานเย็นอึกอักที่ถูกจู่โจม ดำไม่ลังเลสวนไปทันทีว่าไทรงามไม่ชอบนั่งรถชอบเดินออก
กำลังกายมากกว่า หันไปถามไทรงามว่าจริงไหม
"ค่ะ" ไทรงามตอบแล้วหันไปทางอ๊อด "อย่าให้ดิฉันต้องรบกวนคุณอ๊อดมากไปกว่านี้เลยนะคะ วันนี้ก็เสียเวลามาช่วยดิฉันที่คลินิกทั้งวันแล้ว"
อู๊ดที่ขับรถมาจอดไล่ๆกับอ๊อดได้ยินถึงกับหน้าเสีย ดำเองก็ไม่สบายใจ แต่อ๊อดยังคุยโวต่ออีกว่าตนเต็มใจและยินดีช่วย ย้ำว่าพรุ่งนี้จะไปช่วยอีก
ดำออกหน้าขวางอ๊อดสุดตัว พูดอย่างกันท่าเต็มที่ว่างานของไทรงามนั้นตนมีผู้ช่วยแล้วแต่บังเอิญวันนี้ตนไม่อยู่ก็เลยต้องพึ่งเขา แต่พรุ่งนี้และวันต่อๆไปตนไม่มีธุระอะไรแล้ว
ถูกกีดกันถึงขนาดนี้แล้ว อ๊อดก็ยังไม่ยอมถอย เปลี่ยนเป็นค่ำนี้เชิญไทรงามและบานเย็นไปรับประทานอาหารที่เรือนใหญ่ด้วยกัน บานเย็นขอตัวทันทีอ้างว่าเวลาอาหารเป็นเวลาส่วนตัวของคนในครอบครัว ตนไม่บังอาจละลาบละล้วง ส่วนไทรงามที่
ถูกรบเร้าก็ขอเวลาอยู่กับครอบครัวตัวเอง
"ไม่เป็นไรครับ แต่ผมหวังว่าสักวันเราคงได้นั่งรับประทานอาหารด้วยกัน ในฐานะคนในครอบครัวเดียวกันนะครับ" อ๊อดตีขลุมทำตากรุ้มกริ่มให้ไทรงาม
ดำแทบอยากจะพุ่งเข้าไปเหยียบให้สะใจ อู๊ดที่เงียบมาตลอดก็ได้แต่อึดอัดร้อนวูบวาบเป็นระลอก ไทรงามได้แต่แอบชำเลืองมองเขาด้วยความไม่สบายใจ เกรงว่าอู๊ดจะเข้าใจผิดว่าตนมีใจให้อ๊อด
มีแต่ใบ้กับบานเย็นที่สบตากันอย่างเข้าใจความรู้สึก ของไทรงามกับอู๊ดที่มีต่อกัน
ooooooo
ค่ำแล้ว ที่ครัวไทรโศก หลังอาหารหวินก็ตักของหวานแจกจ่ายกันคนละถ้วย บอกให้ทุกคนกินของหวานๆจะได้ชื่นใจไม่ต้องคิดมาก บานเย็นบอกว่าตนหวั่นใจกับท่าทีของอ๊อดที่แสดงอย่างเปิดเผยต่อไทรงาม กลัวว่าไทรงามจะถูกบังคับจิตใจเหมือนตน
ในอดีต
หวินยังหวังว่าคงไม่ถึงขั้นนั้นคนเราจะกล้าทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรือ เพิ่มแทรกขึ้นทันทีว่าคนอย่างคุณหญิงเคยคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดบ้างล่ะ
"นั่นล่ะที่เย็นกลัวที่สุด เพราะถ้าท่านต้องการอะไรท่านต้องได้ ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีใดก็ตาม เย็นเจอมาแล้วกับตัวเอง เย็นรู้ดีว่าชัยชนะของท่านมันทำให้เย็นเจ็บปวดแค่ไหน เย็นไม่อยากให้หนูงามต้องประสบชะตากรรมเดียวกับเย็นอีก" พูดแล้วบานเย็น
ก็น้ำตาไหลด้วยความอัดอั้น
ใบ้เองก็ตาแดงๆด้วยความสะเทือนใจ เพิ่มจึงปลอบใจว่า ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว และไทรงามเองก็เป็นคนมีความรู้ เป็นตัวของตัวเองสูง เชื่อว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาสั่งมาฝืนใจไทรงามให้ทำอะไรได้
บานเย็นฟังแล้วก็สบายใจขึ้นแต่ก็ยังอดหวาดหวั่นไม่ได้ กับเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น
อ๊อดกลับถึงเรือนใหญ่ ระหว่างร่วมโต๊ะอาหาร อ๊อดคุยฟุ้งอย่างดีอกดีใจที่วันนี้ได้ใกล้ชิดไทรงามทั้งวัน
อู๊ดกล้ำกลืนกับอาหารมื้อนี้จนแทบจะกลืนไม่ลง อุษาฟังแล้วฉุนหาว่าไทรงามใช้งานลูกตนถึงขนาดนี้ อ๊อดรีบแก้ว่าตนเสนอตัวไปรับใช้เธอเอง คุณหญิงได้แต่ฟังแล้วถอนใจพึมพำว่าอ๊อดอาการหนักเอาการ หลังจากตั้งหน้าตั้งตาเล่าเสร็จ อ๊อดก็ถามกิติว่า
"คุณพ่อว่าอย่างไรครับ ที่หมองามอนุญาตให้อ๊อดอยู่กับเธอทั้งวันแบบนี้ หมายความว่าเธอมีใจให้อ๊อดใช่ไหมครับ" กิติตอบแบบขอไปทีแล้วหันไปถามอู๊ดว่าใช่ไหม อู๊ดฝืนใจตอบว่าอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ อ๊อดเลยหันไปอ้อนคุณหญิงว่า "ถ้างั้น คุณย่า
ไปขอหมองามให้อ๊อดเลยได้ไหมครับ"
คุณหญิงท้วงติงว่าไม่เร็วไปหน่อยหรือ จะรักจะชอบใครก็ควรทำความรู้จักให้ดี ที่สำคัญต้องดูไปถึงเทือกเถาเหล่ากอของเธอด้วย
"อ๊อดไม่สนหรอกครับว่าโคตรเหง้าเขาเป็นยังไง อ๊อดรู้แต่เพียงว่าอ๊อดรักหมองาม เท่านี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอแล้วที่เราจะแต่งงานกัน ใครก็ห้ามอ๊อดไม่ได้ด้วย" อ๊อดรั้นแข็งกร้าวเสียจนไม่มีใครอยากพูดอะไรขัดใจอีก
อู๊ดที่นั่งฟังมาตลอด ถึงกับกลืนข้าวคำสุดท้ายไม่ลงคอ...
ooooooo
หลังจากนั้น คุณหญิง กิติ และอุษา มาคุยกันที่ห้องนอนของกิติ อุษาพูดอย่างอารมณ์เสียว่าตนเกลียดแม่ของไทรงาม ส่วนพ่อก็ไม่รู้ว่าใคร กิติเชื่อว่าเป็นใบ้นั่นแหละเพราะเห็นยังวนเวียนกันอยู่ อุษาเสนอให้ฟ้องทนายเสียเลยว่าบานเย็นคบชู้ จะได้ตัดไป
จากกองมรดก
"ทีแรกฉันก็ว่าจะทำอย่างนั้น แต่มาคิดดูอีกที มันคงไปโกหกคุณเจนไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณเจนก็ต้องเอาเรื่องมันแล้วล่ะ นี่ดันรับเด็กนั่นเป็นลูกบุญธรรมอีกต่างหาก ถ้าเราโวยวายไปก่อน ดีไม่ดีคุณเจนจะได้รู้ความจริงเรื่องตาอู๊ดเข้าให้" คุณ
หญิงพูดอย่างหนักใจ
อุษาถามว่าแล้วจะทำอย่างไรดีตนรับไม่ได้ถ้าจะมีสะใภ้กำพืดต่ำทรามแบบนั้น คุณหญิงโยนกลองให้สองผัวเมียไปคิดเองก็แล้วกัน เพราะแค่เรื่องอู๊ดกับที่ดินไทรโศกตนก็ปวดหัวจะระเบิดอยู่แล้ว ย้ำก่อนออกไปว่า
"เธอสองคนเป็นพ่อแม่ตาอ๊อด ก็ไปคิดเอาเองก็แล้วกัน สกุลรุนชาติกับเงิน จะเลือกอะไร"
อุษาจึงฉุกคิดได้ว่าไทรงามเป็นลูกบานเย็นมีสิทธิ์ได้รับมรดก 1 ใน 4 ของที่ดินทั้งหมดถ้าเรายอมให้อ๊อดแต่งงานกับไทรงามมรดกส่วนนั้นก็ตกเป็นของอ๊อด
พอกิติแย้งว่าไหนเกี่ยงเรื่องกำพืด อุษาวางแผนให้แต่งกันไปก่อนแล้วค่อยให้คุณหญิงบังคับให้หย่าภายหลัง
"คุณนี่ทั้งเก่งทั้งฉลาด แล้วก็...เซ็กซี่ตลอดกาลจริงๆ" กิติชมแล้วบรรเลงรักอย่างเมามัน
ooooooo
ที่ท่าน้ำไทรโศก...
ไทรงามไปยืนคิดอะไรเงียบๆอยู่คนเดียว อู๊ดออกมาเห็นเขาตัดสินใจเดินเข้าไปทัก ทำเอาไทรงามประหม่าเพราะวันนี้แทบไม่ได้พูดกับเขาเลย เมื่อชายหนุ่มเข้าไปทัก เธอถามว่างานเป็นอย่างไรบ้าง
อู๊ดบอกว่าไปได้เรื่อยๆแต่ตนอยากให้เสร็จก่อนสัญญาชาวบ้านจะได้ไปไหนมาไหนได้สะดวก จากนั้นก็ถามสิ่งที่ค้างคาใจว่า วันนี้อ๊อดคงช่วยงานเธอได้มากเห็นมีความสุขที่ได้ช่วยงานเธอ
ไทรงามอึดอัดใจที่จะตอบตามความรู้สึกแท้จริง จนเมื่ออู๊ดบอกว่าถ้าอ๊อดอยากไปช่วยงานอีกล่ะ เธอจึงตัดบทว่ามีดำคอยช่วยอยู่แล้ว
เมื่อถามอะไรไทรงามก็ตอบหลบเลี่ยง ในที่สุดอู๊ดถามตรงๆว่า
"ถ้าพี่อ๊อดสนใจหมองาม แล้วผู้ใหญ่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าพี่อ๊อดกับหมองาม เอ่อ...เหมาะสมกันดีล่ะครับ"
ไทรงามใจแป้วที่อู๊ดเป็นคนมาทาบทามแทนพี่ชาย เธอตอบอย่างไม่ลังเล ชัดเจน และแน่วแน่ว่า
"ดิฉันไม่ทราบว่าคุณอู๊ดพูดเรื่องนี้กับดิฉันเพราะอะไร แต่ดิฉันอยากจะบอกคุณอู๊ดว่าสำหรับดิฉันแล้ว ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่ใช่เรื่องของผู้ใหญ่ที่ไหน แล้วคนอย่างดิฉันก็ไม่มีวันจะอยู่กับใครเพียงเพราะว่าผู้ใหญ่เห็นดีด้วยเป็นอันขาด"
พูดแล้วไทรงามจะผละไปด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวดกดดัน อู๊ดรีบคว้ามือไว้ ไทรงามรู้สึกตัวชาร้อนผ่าวไปทั้งร่างกับสัมผัสนั้น เธอยืนใจเต้นแรง จนอู๊ดรู้ตัวปล่อยมือและขอโทษบอกว่าตนทำเพราะดีใจจนลืมตัว
"ดีใจ..." ไทรงามทวนคำ
"ก็...ถ้าหมองามพูดอย่างนี้ก็แสดงว่าหมองามยังไม่มีใครเป็นคนพิเศษ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ผมยังมีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์ตัวเอง เพื่อเป็นคนพิเศษของหมองามได้ ผมเข้าใจถูกต้องใช่ไหมครับ"
ฟังแล้วไทรงามวาบหวามหวั่นไหวคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่ม จะพูดตรงถึงขนาดนี้ เธอเขินจนเก็บอาการไม่อยู่ อู๊ดเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอมีใจให้ตัวเอง ดีใจจนพูดอะไรไม่ออกอีก ได้แต่ ยืนมองและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข
ที่เฉลียงเรือนใหญ่ อ๊อดยืนดูอยู่ ภาพบาดตานั้นทำให้เขากำหมัดแน่นกัดฟันจนกรามเป็นสัน เช่นเดียวกันที่ ต้นไม้ใกล้ๆนั้น ดำแอบดูอยู่ด้วยความชอกช้ำอย่างสาหัส...
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น อู๊ดเอารถไปรับไทรงามแต่เช้าจะไปส่งที่คลินิก เจอไทรงามกำลังลาบานเย็นและใบ้ จะไปทำงานพอดี อู๊ดยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองแล้วขออนุญาตรับไทรงามไปส่งที่คลินิก ไทรงามขอตัวบอกว่าตนไปกับดำก็ได้
บานเย็นเป็นใจให้อู๊ดกับไทรงามอยู่แล้วรีบบอกว่าดำยังไม่มาให้ไปกับอู๊ดเสียเดี๋ยวจะสาย ไทรงามก็อิดออดจะไปกับใบ้อีก กระนั้นอู๊ดก็ยังมีแก่ใจชวนใบ้ไปด้วยกันเพราะทำงานที่ไซต์งานอยู่แล้ว
ทันใดนั้นเอง ใบ้ที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ใกล้ๆอยู่ดีๆก็เกิดปวดท้องกะทันหันขึ้นมา พลางก็พยักพเยิดให้ไทรงามไปกับอู๊ดก่อน บานเย็นรีบช่วยพูดว่าใบ้ปวดท้องตั้งแต่เช้ามืดแล้ว เร่งไทรงามว่า
"รีบไปเถอะจ้ะ เราอาจจะช่วยชีวิตใครได้ด้วยการไปทำงานเร็วแค่ 5 นาที 10 นาทีนี่ล่ะ"
อู๊ดได้ทีรีบรับกระเป๋ายาจากไทรงามเอาไปที่รถ เธอ หลบตาเขาแล้วเดินตามไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง ใบ้กับบานเย็นมองหน้ากันด้วยความดีใจที่ได้ทำอะไรให้ไทรงามหัวใจแช่มชื่นพองฟูบ้าง
พอดีดำเดินมา เห็นอู๊ดกับไทรงามเดินเคียงคู่กันไปที่รถก็ได้แต่มองอย่างอกไหม้ไส้ขมอยู่ตรงนั้น....
ooooooo