กำลังสร้างตำนานรักถูกใจแฟนๆกับละครรักวินเทจวินใจชวนฝัน "หนึ่งในร้อย" (My Cherie Amour) ทางช่อง 3 ครั้งแรกของผู้จัด “แอน ทองประสม” แห่งค่าย "ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์" คว้าพระเอกฝีมือเฉียบ “ต่อ ธนภพ ลีรัตนขจร” ประกบคู่ครั้งแรกกับนางเอกแห่งยุค "ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์" กับภารกิจตามหาผู้ชายแสนดี หนึ่งในร้อย พร้อมกองทัพนักแสดงคับคั่งที่ตอนนี้แฟนๆลุ้นไปกับความรัก ความสัมพันธ์ของ วิชัย หรือ คุณพระ กับ อนงค์ ดอกฟ้าที่ชายในพระนครต่างแย่งชิง เลยชวน ต่อ มาเปิดใจถึงการคัมแบ็กกลับมาช่อง 3 ในรอบ 7 ปี และรับเล่นละครฟูลโรแมนติกหวานหยดครั้งแรก

เรื่องนี้เป็นความแปลกใหม่ของต่อยังไงบ้าง?

“อันดับแรกผมไม่เคยเล่นอะไรที่หลุดไปยุคอดีต เมื่อก่อนเราจะชอบรู้สึกว่าตัวเองอาจจะไม่เหมาะ บวกกับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เป็นฟูลโรแมนซ์สําหรับผม ผมไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้ หรือนี่มันคืออะไรที่มาตัด ต่อ-ธนภพ ได้พอดิบพอดีและเปิดช่องใหม่ๆของผมไปในตัว มันเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผมคิดภาพมันไม่ออก มันคือพระเอกนิยายแสนดี คนที่มีความเป็นมนุษย์มากๆ อย่างเรา ผมพูดตรงๆว่าช่วงแรกเราก็ต่อต้านเค้านิดนึง เราเป็นคนดีได้แต่อาจจะไปไม่ถึงเบอร์นั้น เสียสละทุกอย่าง เราชอบคนนี้พอน้องชายชอบปุ๊บไม่เอาเลย เลยทําให้เจอวิธีการทําการบ้านใหม่ๆ ผ่านการคุยกับทีม ไม่ว่าจะเป็นพี่แอน พี่แอ้ว-อำไพพร ขัดเกลากันไป จนสุดท้ายผมสามารถสร้างโลกของวิชัยขึ้นมาได้อย่างที่ผมก็กล้าพูดว่าก็สมบูรณ์แบบ ซึ่งโชคดีที่สุดคือผมว่าการที่ผมได้เจอพี่ญ่า เค้าโคตรเก่งเลย นี่คือหนึ่งในไม่กี่คนที่ผมเคยเจอและผมกล้าพูดว่านี่คือของจริง คนนี้ตัวจริง เค้าถึงไปหมดเลย และสิ่งที่มากกว่าคือมีกึ๋นของนักแสดง เราเจอหลายเหตุการณ์ เช่นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อย่างตอนเราไปถ่าย ที่ จ.ตรัง เราเจอสภาพอากาศที่โหดร้าย เป็นวันที่ร้อนที่สุดของปี จะออกไปกลางทะเล น้ำขึ้น น้ำเข้าเรือมาครึ่งลำ ความเป็นโปรเฟสชันนอล ทําให้ผมกับพี่ญ่าจับมือกันไปต่อและทําให้มันได้ และพี่แอนเป็นคนที่ผมเชื่อใจในพลังการเลือกแคสต์นักแสดง”

...

เคมีของต่อกับญาญ่าเป็นยังไงบ้าง?

“ผมว่าเราค่อนข้างเข้าขากันขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เราถ่ายเรื่องนี้ทิศทางของมันถ้าตามนิยายก็จะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องที่อนงค์จะไล่บี้วิชัย แต่ผมกับพี่ญ่าใส่อะไรมากกว่านั้น เราซัพพอร์ตซึ่งกัน และกัน วิชัยกับอนงค์จะซัพ พอร์ตซึ่งกันและกัน เชื่อมั้ยว่า การทํางานผมคุยกับเค้าน้อยมาก ไม่ได้นัดกัน มาถึงคือสาดกันเลย รับส่งกัน ส่วนความโรแมนติกอันนี้เป็นสิ่งที่ผมเรียนรู้เพิ่มเพราะมันเป็นเรื่องแรกของผมในแนวนี้ ผมอาจจะไม่ค่อยเข้าใจมุกโรแมนซ์หลายๆอย่าง ผมไม่เข้าใจด้วยซํ้าว่าตามนวนิยายสมัยก่อนฉากที่อยู่บนเรือเท่ากับโรแมนติกแน่ๆ ก็มีพี่ญ่าแนะนำ ส่วนความฟินฉากกุ๊กกิ๊กหวาน ไม่ขมเท่านิยายครับ ตัวละครมันจะค่อยๆ เปลี่ยน นอกจากความโรแมนติกน่ารักที่สร้างรอยยิ้ม ผมว่ายุคนี้คนต้องการสิ่งนี้หลายอย่างมันเครียดมากแล้วผมอยากให้คนยิ้ม และอีกสิ่งหนึ่งที่มาตัดคือการสืบคดี ซึ่งผมจอยมาก ผมสปอยล์ว่าผมหยอดความคอมเมดี้ไปในการสืบคดีด้วย”

ความเป็น แอน ทองประสม ที่ร่ำลือกันว่าโหดล่ะ?

“เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ผมได้บทเรียนชีวิตว่าผมจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว เราเคยได้ยินเข้าหูเรากลัวและเราเลือกที่จะไปถามเพิ่มเพื่อรับมือ แต่จริงๆสิ่งที่คนอื่นพูดมันคือมุมมองของเค้า ลิมิตคนเราไม่เท่ากัน ผมโตมาในบ้านที่หฤโหดกว่านั้น สําหรับผมพี่แอนใจดีมาก สิ่งที่ผมสัมผัสจากเค้าคือ เค้าทําให้ผมรู้สึกได้ว่าทุกครั้งที่ผมเจอเค้าที่กอง ไม่มีสักวินาทีที่เค้าไม่รักโปรเจกต์ตัวเอง มันอยู่ในทุกลมหายใจของเค้า มันเห็นเลยว่าพี่ยุ่งมากแต่พี่แคร์มาก เฝ้ามองอยู่ คําร่ำลือไม่ตรงปก เค้าไม่โหดแต่เค้าใจดี มีแพชชัน และเชื่อใจได้”

แอนเองก็ชมต่อว่าเป็นนักแสดงที่เก่งมากใช้หัวใจทํางาน?

“ดีใจครับ มีวันนึงตอนเวิร์กช็อปก่อนกลับบ้าน ผมอยู่กับเค้า ได้คุยกัน เค้าพูดกับผมว่า ต่อคุณรู้ป่ะ คุณโคตรเหมือนพี่เลย ผมก็คิดว่าคือยังไง พอได้เจอได้ค่อยๆคุยกัน อาจจะไม่เหมือนซะทีเดียวแต่วิธีการทํางานของเราคล้ายกัน ความเถรตรงบางอย่างและความซื่อสัตย์ในงาน ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าผมจะเจออะไรตรงหน้าที่แย่ขนาดไหน สุดท้ายผมจะดิ้นสุดตัวให้งานผมคลอดออกมาอย่างดี ผมเชื่อในพลังแพชชัน”

รักอะไรมากที่สุดในตัวละครนี้?

“ผมรู้สึกว่าความปล่อยวางของมันเป็นสิ่งที่ผมอยากเป็นเหมือนวิชัยให้ได้ กับการที่เค้าผ่านเรื่องเลวร้ายแค่ไหน สุดท้ายเค้าเลือกที่จะผ่านมันไปและเลือกที่จะยอมรับว่าตัวเองไม่ดี ซึ่งผมนับถือเค้าและอยากทําให้เค้าเฉิดฉาย มันเป็นตัวละครที่ไม่เฉิดฉายกลางเฟรมแต่เฉิดฉายอยู่ตามมุมของมัน มันจะค่อยๆซึมเข้าไป และผมรักตัวละครนี้มากพอที่จะให้อาวุธกับเค้า และไม่ได้ทําให้เค้าเป็นตัวเรียบๆ”

ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์อะไรบ้างจากเรื่องนี้?

“ผมยังเรียนรู้ตลอดเวลา ผมไม่เคยรู้สึกว่าผมเก่งพอและผมก็ยังรู้สึกว่าทุกเรื่องที่ผมไปผมเจอคนที่เก่งกว่าเสมอ”

ต่อ-ธนภพ มีอะไรให้ท้าทายไม่หยุด?

“ต่อให้มันไม่มีผมก็หาจุดท้าทายอยู่ดี ผมว่าถ้าเราโฟกัสกับมันมากพอและใส่ใจมากพอจะทำให้เรารู้ว่าเรื่องนี้เราอยู่จุดนี้ เราจะไปไหนต่อ มันไปเรื่อยๆนะ วันนึงมันจะมีลูกศรชี้กลับมาในแบบที่คนดูเคยชอบแต่เป็นเฉดใหม่ ผมไม่มีทางเล่นต่างไปได้ทั้งชีวิตหรอก แต่ถามว่าผมชอบเล่นต่างใช่มั้ย ใช่ ผมก็จะหารูของผมใหม่”

ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าเปิดตัวเองออกจากถ้ำไปไหนมาไหนมากขึ้นจนถึงตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

“กลับมาปิดอีกแล้ว แต่ตัวตนเปิดอยู่นะ แค่ผมออกกองตลอดตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้วเพิ่งได้พัก เราต้องการการอยู่นิ่งๆบ้าง ออกไปข้างนอกน้อยลง กลับมาเล่นเกม จริงๆปีนี้เป็นปีที่ผมแฮปปี้ งานที่ผมได้เป็นงานที่ผมอยากทํา ไม่เคยทําและได้ทํา ไม่ใช่แค่หนึ่งในร้อย โปรเจกต์อื่นหลังจากนี้เช่นกัน ได้ตอบแพชชันและตอบสิ่งที่ตัวเองตามหาไปในตัวด้วย”

มีอะไรท้าทายไปเรื่อยๆ?

“ตราบใดที่แพชชันไม่หมด ผมไม่มีทางหยุด ก็ รู้ตัวว่าเรานอนสต็อปเหมือนกัน”

ทางแฟชั่นก็เห็นภาพใหม่ของต่อที่เปิดมากขึ้นเรื่อยๆ?

“ใช่ครับ ก็ไปได้เรื่อยๆ อายุถึงตอนนี้มันทำให้รู้ว่าผมเปิดแต่ไม่ได้ลอง อะไรใช่คือใช่ อะไรไม่ใช่ผมก็ยอมรับความไม่ใช่” ประสบการณ์การทำงานของต่อถึงวันนี้ได้เรียนรู้อะไรบ้างว่าที่ตึงแล้วควรหย่อนหรือหย่อนแล้วควรตึง? “ณ ตอนนี้ผมเป็นพวกเดี๋ยวตึงเดี๋ยวหย่อน ก่อนหน้านี้ผมพยายามหาว่าตัวเองเครียดไปหรือเปล่าเราควรรีแลกซ์กว่านี้หรือเปล่า แต่สุดท้ายวันนี้ผมเจออีกแล้ว ว่าไม่มีหรอกเลิกคิดเถอะ มันจะมีงานที่คุณจะต้องเคลียร์กับมัน และงานที่คุณอย่าเครียดกับมัน เพราะผมได้ลองมาหมดแล้ว ตอนนี้เลยรู้สึกว่าอยากอะไรเป็นเอาที่รู้สึกว่ามันเหมาะ”

บาลานซ์ชีวิตยังไง ณ ตอนนี้?

“สุดท้ายคำคำนี้ วันนี้ผมศรัทธามันมากเลย Work Life Balance ผมอยากเชียร์ให้ทุกคนหา Work Life Balance ให้เจอ สุดท้ายมันไม่ใช่ 50-50 และของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอาจจะ 99-1 สำหรับผม งาน ชีวิต 70-30 ดีกว่า ตอนแรกจะบอกว่างาน 80 เพราะผมรู้สึกว่าผมโตขึ้น มายด์ เซตก็เปลี่ยน ความคิดเปลี่ยนมีความแคร์ตัวเอง ปลีกวิเวกมากขึ้น เวลาอยู่คนเดียวเป็นช่วงที่มีความสุขที่สุด”

แล้วเรื่องมีครอบครัวในอนาคตล่ะ?

“ยังครับ ไม่มีเลย เลือนลางไปก่อนเลย”

ยังไม่ใช่เรื่องที่อยู่ในโฟกัสของเรา?

“ณ ตอนนี้นะครับ ไม่ครับ เคยเหมือนจะมีนะครับ แล้วตอนนี้ก็มารู้สึกว่าไม่ เพราะสิ่งที่ผมรักตรงนี้ สิ่งที่ผมทำตรงนี้มันมากกว่ามากๆ”

ถ้าวันนั้นมาก็มาเอง?

“ใช่ครับ ผมเชื่ออย่างนั้น”.


เรื่อง: สุภลัคน์วุฒิกรีธาชัย
ภาพ : สุรกิจ แก้วมรกต

เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่