ขึ้นแท่นพระเอกมาใหม่มาแรง ขโมยหัวใจ สาวน้อย สาวใหญ่ พากันอยากเป็นเลขาที่มี “ท่านประธานอาคิสึกิ โคจิ” เป็นเจ้านายสุดหล่อจอมอ่อย!! รับบทโดยหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นอเมริกัน “ลุค-อิชิคาว่า พลาวเด้น” หล่อเท่กร้าวใจเหมือนหลุดออกมาจากนิยายแจ่มใส มาโปรยเสน่ห์ระยะประชิดในซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้กระแสดี “นายคะอย่ามาอ่อย” เรื่องรักวุ่นวายของเลขาขี้อายกับเจ้านายขี้อ่อยจาก จีเอ็มเอ็มทีวี ประกบคู่นางเอก “มุก-วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์”
กระแสดีทั้งความจิ้นความฟินรวมไปถึงเสน่ห์ของหนุ่ม “ลุค” ที่ถึงจะยังใหม่สำหรับการแสดงแต่เจ้าตัวก็ทุ่มเทและตั้งใจเพราะมีฝันใหญ่ในวันข้างหน้า เรียกว่าเส้นทางจากนายแบบโฆษณาที่คนไทยหลายๆคนคุ้นหน้ามาสู่พระเอกซีรีส์ เป็นการเดินทางหลากหลายอารมณ์ “ลุค” เปิดใจเล่าให้ฟัง...
เริ่มจากบทบาทท่านประธานโคจิซัง เป็นยังไงบ้าง?
...
“โคจิซังเค้าเป็นคนหล่อมีเสน่ห์ แต่มีอดีตที่เป็นความลับอยู่ในใจ ไกลตัวผมมากครับ ต่างจากบุคลิกผมมาก ถึงตอนนี้ก็ต้องขอบคุณแฟนๆมากๆที่ชื่นชอบในการแสดงของผมและซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากความน่ารักก็มีความเซ็กซี่ และมีดราม่า อดีตของโคจิซังก็เป็นอีกจุดนึงที่จะทำให้คนดูเซอร์ไพรส์”
เล่นโปรยเสน่ห์เล่นยากมั้ย? “ถ้าถามว่าโคจิซังอ่อยเยอะเบอร์ไหนก็คงเบอร์สิบเลย อ่อยเต็มที่ ตอนแรกพานางเอกกลับบ้านแล้วก็จูบเค้าเลย ถ้าเป็นชีวิตจริงของลุคก็คงค่อยๆคุยกัน เป็นเพื่อนกันก่อน ค่อยๆทำความรู้จักกัน เรียนรู้นิสัยกันก่อนจะเริ่มเป็นอะไรมากกว่านั้น”
เม้าท์ชัด จัดทุกตอน ติดตามได้ที่ www.thairath.co.th/novel และ Facebook Fanpage : นิยายไทยรัฐ
เคมีกับมุก แฟนๆฟินมาก เปิดเรื่องมาก็จูบเลยและฟินขึ้นเรื่อยๆ?
“ตอนแรกเราเขินนะ ตั้งแต่ก่อนถ่ายอีพีแรก มีทีเซอร์ให้โปรโมตในวันแถลงข่าวก็จูบเลย ถามว่ากังวลมั้ยก็นิดหน่อย แล้วในเรื่องเราไม่ได้เล่นเป็นเด็กกลัวจะจูบ ต้องเล่นเป็นแบบแมนๆ ฉันจะจูบเธอนะ แล้วเธอจะชอบด้วย”
เวลาเข้าฉากเลิฟซีนใครเขินกว่ากัน? “ลุคเสมอ ทั้งเรื่องเลยครับ ลุคอาจจะพยายามทำตัวเก๊ก แต่ข้างในคือทำยังไงดี (หัวเราะ) มุกเค้าเป็นนักแสดงที่เก่งมากอยู่แล้ว แต่ลุคเป็นหน้าใหม่แทบจะไม่มีประสบการณ์ใดๆ”
ฟีดแบ็กสาวๆบอกว่าอยากเป็นมุก? “แฮปปี้มาก ดีใจที่หลายๆคนชอบครับ”
เล่าเส้นทางนายแบบสู่นักแสดงให้ฟังหน่อย?
“ตอนนี้ลุคอายุ 25 ลุคมาเมืองไทยปี 2017 มาเป็นนายแบบโฆษณา ก่อนหน้านั้นอยู่ที่วอชิงตัน ดีซี ไม่เคยมาเมืองไทยเลย เรียกว่ารู้จักเมืองไทยแค่เป็นประเทศนึง จนมีเอเจนซีพามาแคสต์งาน คนเห็นหน้าตาในงานโฆษณาเยอะ โชคดีที่ลุคตั้งใจแคสติ้งแล้วเป็นคนเล่นใหญ่อยู่แล้ว คนจำได้จากโฆษณาเยอะเลย”
จุดเปลี่ยนมาเป็นพระเอกล่ะ? “ตอนที่อยู่อเมริกา ลุคเป็นนักวิเคราะห์สถิติ ทำงานกับตัวเลข ในบริษัท นั่นคือแผนชีวิตของผมก่อนปี 2017 จริงๆตอนอยู่อเมริกาก็ไม่ได้เป็นนายแบบอาชีพ แต่พอมีคนทักมาในไอจีบอกว่าอยากให้มาเป็นนายแบบต่างประเทศ บอกว่าจะพาลุคไปสิงคโปร์ ฮ่องกง ไทย ก็เลยมานั่งคิดว่ามันน่าจะดีกว่าการทำงานกับตัวเลข เลยตัดสินใจมาซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ตัดสินใจถูกต้องครับ ตอนนั้นแผนคือไปอยู่สิงคโปร์ ฮ่องกง มาไทยแล้วกลับไปที่อเมริกาน่าจะอยู่ที่แอลเออีกครั้ง อยากใช้ผลงานการเป็นนายแบบที่นี่ไปดันอาชีพการเป็นนักแสดงที่อเมริกา นั่นคือแผนยาวๆ เพราะลุครู้ว่านายแบบเป็นอาชีพที่ดีแต่อาจจะทำได้ไม่นาน ถ้าเป็นนักแสดง เราจะได้ทำตรงนี้ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นเลยตัดสินใจว่าเราจะเป็นนักแสดงให้ได้ พอถึงเมืองไทยมีคนแนะนำว่า คนไทยน่าจะชอบหน้าตาแบบเรา ให้ตั้งใจเรียนภาษาให้ดีจะได้มีโอกาสเป็นนักแสดงอย่างที่ฝัน จนมีโอกาสได้มาเซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มทีวีในปี 2019”
รู้สึกยังไงกับคำว่าพระเอกเต็มตัว?
“คำเดียวเลยนะคือโชคดี ถ้าไม่ใช่จุดเริ่มจากหน้าตาลุครู้เลยว่าคงเข้าวงการยาก โชคดีพี่อาย ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ของสำนักพิมพ์แจ่มใสคิดในหัวว่านี่คือเจ้านายที่ทุกคนอยากเห็น แล้วภาพนั้นคือลุคเลย เป็นโชคดีของผมมากๆ ครับ”
ที่บอกว่าหน้าตาพาให้เราเข้าวงการมาก่อน มันกดดันเรามั้ยว่าต้องพิสูจน์ฝีมือให้คนเห็นมากกว่าหน้าตา? “เรื่องการแสดงถ้าให้ลุคพูดภาษาอังกฤษลุคเชื่อว่าทำได้ธรรมชาติและน่าจะทำได้ดี แต่ส่วนที่ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเราทำได้คือเรื่องภาษา หลายคนบอกว่างานแสดงถ้าเราพูดภาษาแล้วไม่น่าฟังเค้าจะไม่ดูเรา ลุคเลยตั้งใจมากๆ”
เห็นว่าต้องพยายามเรื่องภาษาเยอะมากในการแสดง?
“พอได้มาเป็นนักแสดงจริงๆ ตอนเริ่มครั้งแรกยากมาก แล้วเรื่องนี้พูดไทยและญี่ปุ่นด้วย ต้องโฟกัสมากขึ้น เลยต้องฝึกฝน ขยันท่องบทมากขึ้นกว่าเดิม มีส่งบทให้ครูสอนภาษาไทยอัดเสียงสอนทีละคำส่งกลับมาให้เพื่อให้เข้าใจภาษามากขึ้น และสื่อสารภาษาไทยออกไปได้ถูกต้อง เราก็ต้องอ่านบทให้เข้าใจ จินตนาการกับสถานการณ์และต้องเชื่อว่าสิ่งที่เกิดในฉากคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เราเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่านี่คือการแสดงที่ดีต้องทำแบบนี้ เรื่องภาษา ไทยถึงตอนนี้ถือว่าเข้าใจแต่การเรียงประโยคอาจจะยังไม่คล่อง ต้องพูดบ่อยๆ ทุกวัน จน ถึงวันที่เราไม่ต้องคิดแล้วว่าจะพูดอะไรใช้คำไหน ส่วนอะไรยากที่สุดในเรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องภาษาญี่ปุ่นครับ ภาษาไทยเรายังเรียนมา แต่ภาษาญี่ปุ่นเราไม่มีประสบการณ์เลย ลุคเป็นคนญี่ปุ่นแต่เกิดที่อเมริกา ตายายเป็นคนญี่ปุ่นแต่ไม่ได้สอนภาษาญี่ปุ่นคุณแม่ ลุคเลยพูดไม่ได้ ได้พี่เรียวตะที่เล่นด้วยกันในเรื่องนี้ช่วยลุคมากๆใช้วิธีเดียวกับครูภาษาไทยครับ ลุคเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตคือการเรียนรู้อะไรใหม่ๆตลอดและลุคชอบเรียนรู้อะไรใหม่ๆครับ”
พอเจออุปสรรคด้านภาษามีช่วงที่รู้สึกท้อบ้างมั้ย?
“มีฉากนึงที่เป็นฉากสุดท้ายของวัน มีประโยคที่ต้องพูดยาวๆใช้คำศัพท์ยากๆแล้วเราพูดไม่ได้สักที ก็เลยมีการปรับบทนิดหน่อยจะได้ง่ายขึ้นครับ ถามว่ารู้สึกท้อมั้ยก็ไม่ได้ขนาดนั้นแต่รู้สึกผิดกับตัวเองที่ทำไม่ได้”
มีอะไรมาทำให้เราฮึดขึ้นมา? “แค่บอกตัวเองว่าทำการบ้านให้เยอะขึ้น นอนให้เยอะ ออกกำลังกาย ทำอะไรก็ได้ให้เราไม่เครียด แล้วบอกตัวเองว่าอาจจะทำไม่ได้ครั้งนี้ไม่เป็นไร ถือเป็นบทเรียนของเรานำไปพัฒนาครั้งต่อไป”
คิดว่าเสน่ห์ของลุคคืออะไร?
“ลุคว่าคงเพราะลุคเป็นคนจริงใจ ทุกคลิปที่ออกมานี่คือตัวเราจริงๆ ตัวลุคคืออยากเป็นคนที่ดี อยากช่วยคนอื่น แฟนๆก็คงเชียร์และติดตามอยากให้เราประสบความสำเร็จ”
รู้สึกยังไงที่วันนี้คนติดตามและมีแฟนคลับเยอะขนาดนี้? “มันเป็นการเดินทางมีหลากอารมณ์มาก จากคนคนนึงที่ไม่รู้จะทำยังไงในชีวิต คือที่ไฮสกูลเราเป็นคนเนิร์ดมากๆมาถึงที่นี่เราได้เป็นซัมบอดี้คนนึง ต้องขอบคุณมากๆ จริงๆที่แฟนๆมาติดตามลุค”
เห็นพลังซัพพอร์ตจากแฟนๆเรื่องไหนที่ประทับใจบ้าง? “ลุคไม่เคยคิดว่าจะมีอะไรมาซัพพอร์ตเรามากขนาดนี้ในชีวิต มีฟู้ดซัพพอร์ตมาที่กองถ่ายนายคะด้วยแบบเพียงพอสำหรับทุกคนในกอง วันเกิดมีแฟนคลับจีนส่งเสื้อผ้ารองเท้ามาด้วย”
บอกว่าฝันไม่ได้หยุดแค่นี้ มองเห็นภาพตัวเองเป็นนักแสดงที่อเมริกา ตอนนี้ยังฝันอยู่มั้ย? “ฝันยังอยู่ครับ เป้าหมายลุคคือเป็นนักแสดงที่ไทยและที่อเมริกา ฝันคืออยากเล่นหนังฮอลลิวูดเรื่องนึงที่คนจดจำได้”
ถามเรื่องสเปกสาวๆบ้าง? “อยู่ที่เมืองไทยนานขนาดนี้ก็ชอบผู้หญิงไทยนะ แต่จริงๆ สเปกลุคอยู่ที่นิสัย ความคิด ความเชื่อมากกว่า”
ผลงานต่อๆ ไปล่ะ? “กำลังเตรียมตัวสำหรับเรื่องนางฟ้าคาบาเรต์ เล่นเป็นตำรวจ และได้เล่นเป็นนางโชว์ผู้หญิงด้วย เล่นกับพี่เกรซ-กาญจน์เกล้า ครับ”.
เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัย