ตอนที่ 6
ปอนด์ได้ไปเห็นดอกไม้งาม นกสวย ป่าไม้เขียวชอุ่ม และสัตว์หายากอีกมากมาย ทั้งลำธาร น้ำตก ทุกสิ่งสวยงาม จึงนั่งกินอาหารกันอย่างมีความสุข
เมื่อชมธรรมชาติที่สวยงามล้ำค่ามากมายแล้ว อิสร์บอกว่าที่แห่งนี้กำลังจะถูกเขาสร้างเขื่อน ถ้าสร้างเขื่อนทุกอย่างจะหายไปหมด ข้างหน้าเราจะเป็นที่โดนน้ำท่วมหมด ปอนด์รำพึงว่ามันมหึมามากเลย
“ใช่ มันจะใช้พื้นที่ป่ามหาศาล เพื่อผลได้ที่ไม่คุ้มเลย”
ทั้งสองมองไปเบื้องหน้าต่างเงียบ แต่ในใจมีแต่ความกังวล
ปอนด์ถามว่าทับสักจะกลายเป็นเขื่อนจริงหรือ อิสร์บอกว่าไม่มีทางเราจะสู้ให้ถึงที่สุด
“แล้วเราจะสู้ไหวเหรอคะ”
“ไหวไม่ไหวเราก็จะสู้สุดชีวิต ป่าของประเทศเราเหลือน้อยจนเราไม่ควรยุ่งกะมันอีกแล้วนะ ไม่ว่าป่าผืนไหนทั้งนั้น” ปอนด์ถามว่าแล้วถ้าสู้แพ้ล่ะ “ถ้าแพ้...เราก็สูญเสียทับสัก แต่เราก็จะสู้ต่อ เพื่อรักษาผืนป่าต่อไป ทุกวันนี้ เราก็สู้เพื่อป่าที่เหลือไปเรื่อยๆ เพราะเราเกิดมาเป็นเรา... เป็นแบบนี้”
ปอนด์รับคำอย่างเข้าใจ อิสร์ถามว่าไม่ถามอีกแล้วหรือว่าระหว่างปอนด์กับป่าตนรักอะไรมากกว่ากัน ปอนด์บอกว่าไม่ถามแล้ว
“ยิ่งพี่รักปอนด์ พี่ก็ยิ่งรักป่านะ เพราะถ้าไม่มีป่า จะไม่มีใครอยู่กันได้อีก ยิ่งในเวลาที่เป็นวิกฤติโลกร้อนแบบทุกวันนี้ ป่าคือสิ่งเดียวที่จะช่วยชีวิตทุกชีวิตไว้ได้ แต่เขาก็ยังไม่รู้กัน ยังเกลียดชัง ทะเลาะ ต่อสู้กันไม่สำนึกเลยว่าเรากำลังเดินทางไปสู่หายนะของโลกด้วยกันอยู่เนี่ย”
ปอนด์ยิ่งฟังก็ยิ่งซึ้งกอดอิสร์ไว้ด้วยความรู้สึกท่วมท้น สองหัวใจในความรู้สึกหนึ่งเดียวกัน กอดกันนิ่งเหมือนจะร้องไห้...
ขณะเดินทางกลับทั้งสองเจอออด พัฒน์ เจิมและบุ้ง ร้องกรี๊ดกร๊าดแต๋วแตกกันลั่นป่า ถามได้ความว่ากล้องที่ติดดักไว้ได้รูปเสือกับลูกสองตัวน่ารักมาก
เมื่อกลับไปดูกันที่ทำการอุทยาน อิสร์ถามว่าบอกหัวหน้าพนัสหรือยัง ออดบอกว่าโทร.บอกแล้วหัวหน้าตื่นเต้นดีใจใหญ่เลย
เจิมถามว่าแล้วคณาหายไปไหนไม่เห็นเลย ออดนึกได้บอกว่าไม่เห็นแต่เช้าแล้ว
อิสร์ที่มีเรื่องกับคณาเมื่อคืนหน้าเจื่อน แต่พอนึกได้ก็ยิ้มกลบเกลื่อน
ooooooo
ค่ำนี้อิสร์นั่งดูคลิปครอบครัวเสือที่ดักถ่ายมาอย่างมีความสุข ปอนด์บอกว่าลูกเสือน่ารักดี อิสร์ก็ว่าน่ารัก เมื่อเข้านอนอิสร์ถามปอนด์ว่าอยากมีลูกกี่คน ปอนด์บอกว่าสองคนก็พอหญิงคนชายคน
แต่เมื่อพูดถึงการเลี้ยงลูก อิสร์บอกว่าตนอยากช่วยเลี้ยงด้วย ปอนด์ถามว่าเขาพร้อมแล้วหรือที่จะเป็นคุณพ่อที่กลับจากทำงานต้องมาช่วยเลี้ยงลูกแบบนั้น อิสร์เปรยว่าปอนด์คงอยากอยู่กรุงเทพฯมากกว่าที่นี่ ปอนด์ก็ว่าพี่อิสร์ก็คงอยากอยู่ที่นี่มากกว่าอยู่กรุงเทพฯ...แล้วต่างก็เงียบไปในความคิดของตัวเอง
วันนี้ปอนด์แต่งตัวสบายๆไปตลาดทับสักเพื่อซื้อของและอาหาร เห็นไกรสรกับกรรชิตลงจากรถมีลูกน้องประกบหน้าหลังก็รีบหลบ สงสัยว่าพี่เก้ามาทำอะไรที่นี่ กรรชิตกวาดตาผ่านไป เห็นปอนด์แต่จำไม่ได้ กรรชิตเปรยกับไกรสรว่าประชาชนที่นี่ดูยากจนกันมาก ท่าทางจะทำมาหากินฝืดเคือง
“ทับสักมันแล้งเต็มทีครับ ดินก็เป็นดินที่เสื่อมโทรม ปลูกอะไรก็ไม่ค่อยได้ผล”