ตอนที่ 5
เมื่ออิสร์กลับถึงที่ทำการอุทยานทับสักก็จะโทร.บอกปอนด์คาดว่าป่านนี้คงอารมณ์ดีแล้ว แต่โทร.ไปครั้งแรกเสียงเรียกจนหยุดไปเอง ครั้งที่สองเรียกครั้งเดียวก็ถูกตัดสาย ครั้งที่สาม สี่ ห้า จนยี่สิบครั้งก็ไม่รับสาย
จนเย็นปอนด์ยังไม่หายงอน ไปนั่งหน้ามุ่ยอยู่ร้านขนมเค้ก เห็นตุ๊กตาหมีใส่ชุดลายพรางเหมือนอิสร์วางที่โต๊ะก็คว้ามาบีบคอขยำขยี้ระบายอารมณ์ เจนมาเห็นถามว่าเป็นอะไร พี่หมีอาการแย่แล้ว ปอนด์รู้สึกตัว มองตุ๊กตาหมีในมือ ปรากฏว่าเสื้อผ้าตุ๊กตายับย่นหลุดลุ่ยหน้าตาหมีก็ยับเยิน
เจนสั่งเค้กสตรอว์เบอร์รีกับชาร้อนในกาสวยจิบชาแล้วบอกปอนด์หลังจากฟังเรื่องราวแล้วว่า
“เรื่องมันเล็กน้อยเองนะ แค่รับของจากคนรู้จักแค่นั้นเอง”
ปอนด์ยังอารมณ์ค้างบอกว่าป่านนี้พี่อิสร์คงนั่งชื่นชมของที่ผู้หญิงให้มา ทุเรศ! เจนเตือนว่าอย่าเพิ่งคิดไปไกล ปอนด์เองก็ไม่รู้ไม่ใช่เหรอว่าของนั้นคืออะไรปอนด์โพล่งว่าจะอะไรก็ช่าง ทำไมต้องเอามาให้พี่อิสร์ด้วย พี่เจนไม่รู้ ยัยเก๋นี่เป็นแม่บุญทุ่ม ปอนด์อัดอั้นจนร้องไห้ออกมาอีก
ปอนด์ฮึดฮัดจะไปพูดกับเก๋ที่ร้าน “เก๋ไก๋โมบายล์” ในห้างให้รู้เรื่อง แต่พอไปถึงเจอโทรศัพท์ถูกขว้างออกมาเกือบถูกหน้า มองไปเห็นเก๋กำลังถูกแฟนทอมมาอาละวาดเพราะหึงว่าเก๋ปันใจให้คนอื่น ซื้อของฝากไปให้ตั้งเยอะแยะ เก๋โมโหว่าพูดกันไม่รู้เรื่องไล่ให้กลับไปเสีย แฟนทอมไม่ยอมกลับ ซ้ำด่าเก๋ว่าแรด บ้าผู้ชาย
เก๋ไล่ให้กลับไปเสียอย่ากลับมาอีก ประกาศเราเลิกกัน!! แฟนทอมโมโหปรี่เข้าทำท่าจะฟาดเก๋ รภป.ห้างเข้าไปลากแฟนทอมออกไป
“เอาตัวไปเลย อย่าให้มันเข้ามาในห้างอีกเลย” เก๋บอก รปภ.แล้วคว้ากระเป๋าวิ่งออกไป
ปอนด์ตามไปเห็นเก๋ไปยืนร้องไห้อยู่ ความคิดที่จะมาเอาเรื่องกับเก๋กลายเป็นเห็นใจ เจนจึงชวนกลับ
ooooooo
อิสร์เอากล่องที่เก๋ฝากมาให้ “ลุงชาติ” แซวว่าด็อกเตอร์นี่ร้ายมาก ตอนเขาวุ่นๆกันก็มีการแอบจีบสาวด้วย ชาติชี้แจงเขินๆตามความเป็นจริงตนแค่ไปส่งเก๋เท่านั้น แต่ยิ่งชี้แจงก็ยิ่งถูกแซว เลยเอาของแจกทุกคนบอกว่าทุ่นค่าใช้จ่ายได้หลายบาทเลย
แล้วบรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันทีเมื่อพนัสเดินหน้าตึงเข้ามาเรียกเสียงเข้มเต็มยศ
“ผู้ช่วยอิสร์”
เมื่อเข้าไปในห้องทำงาน พนัสเปิดคลิปรายการที่อิสร์ไปออกทางยูทูบในคอมพ์บนโต๊ะ มองหน้าอิสร์สายตาคมกริบ ถามเสียงเข้มว่าใครสั่งให้ไปออกรายการนี้ อิสร์บอกว่าไม่มีครับ พนัสเล่นงานอิสร์รุนแรงว่า
“คุณไปในนามของเจ้าหน้าที่อุทยานทับสัก คุณกล่าวหานายไกรสรออกสื่อแบบนั้น คุณอยากจะให้สถานการณ์ที่นี่มันแย่ลงกว่าที่แย่อยู่แล้วรึไง”
“แล้วหัวหน้าจะให้ผมทำยังไง นั่งเฉยๆดูมันไปหน้าด้านโกหกคนทั้งประเทศว่าทับสักมันเสื่อมโทรมจนต้องเอาไปทำเขื่อนเหรอครับ ผมแค่เอาความจริงไปสู้เท่านั้น”
“ถ้าคุณบอกแค่ว่า...ทับสักยังเป็นป่าที่สมบูรณ์ แล้วก็มีวิธีอื่นที่จะแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้โดยไม่ต้องสร้างเขื่อน มันจะดีกว่ามาก แต่คุณได้ล้ำเส้นไปแล้ว และบอกเลยว่าหลังจากนี้อย่าหวังเลยว่าพวกเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุข”
“เราไม่เคยอยู่กันอย่างสงบสุขอยู่แล้วนี่ครับหัวหน้า จะไปกลัวอะไร”