ตอนที่ 5
คนดูหลายคนขอให้อิสร์พูดและเสนอข้อมูลที่ต่างกัน อิสร์พูดอย่างมั่นใจว่า
“ผมขอให้ข้อมูลเพียงสองข้อเท่านั้น แล้วจะไม่เถียงอะไรกับพวกคุณอีก คือข้อ 1 การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่ทับสัก ไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้จริง แต่เราจะแก้ปัญหาได้จริงด้วยการบริหารน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ มีการทำชลประทานขนาดกลางและขนาดเล็กในแต่ละชุมชน และหากอยากไปลงพื้นที่จริงที่เป็นชุมชนต้นแบบ ผมยินดีพาไปดู”
ระหว่างที่อิสร์เสนอข้อมูลของตนตอบโต้ไกรสรอย่างจริงจังตึงเครียดนั้น แม่มดกับเพื่อนสาวต่างซุบซิบกรี๊ดความหล่อเท่ของอิสร์จนไม่เป็นอันฟัง อิสร์ยังคง
พูดต่ออย่างมั่นใจว่า
“ข้อ 2 อุทยานแห่งชาติทับสักไม่ได้เป็นป่าหมดสภาพอย่างที่คุณไกรสรบอก อย่างที่พวกคุณเห็นในวิดีโอคลิปของผม คุณจะเห็นว่ายังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ถ้าป่าเสื่อมโทรมจริง จะไม่มีเสือเดินเล่นอยู่แบบนั้นแน่”
ไกรสรลำพองใจโต้อย่างลืมตัวว่า คลิปนี้คงถ่ายไว้นานแล้วเพราะปัจจุบันนี้เสือตัวนี้ไม่มีอยู่แล้วมันถูกยิงตายไปเมื่อเร็วๆนี้เอง และต้นสักใหญ่ที่เห็นปัจจุบันก็เหลือแต่ตอแล้ว ข้อมูลของอิสระจึงเป็นข้อมูลเท็จ
กรรชิตและพวกไกรสรฮือฮาที่ไกรสรตอบโต้ได้สะใจ อิสร์มองพวกนั้นอย่างสมเพช พูดเยาะในทีว่า
“ทำไมคุณรู้รายละเอียดดีจังนะ ผมกำลังจะพูดว่า น่าเสียดายที่เมื่อสองเดือนก่อนนี่เอง ต้นสักในคลิปที่เราเห็นเมื่อกี้ เดิมเป็นแบบนี้” อิสร์ส่งสัญญาณให้เต้ยเปิดรูปมีอิสร์และเพื่อนถ่ายรูปกับต้นสักอีกครั้ง พูดอย่างเจ็บปวดว่า “แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ในสภาพนี้ครับ” แล้วเปิดให้ดูต้นสักใหญ่ที่เหลือแต่ตอ และเจ้าแหว่งเสือหูแหว่งที่กลายเป็นศพไปแล้ว อิสร์พูดเป็นนัยว่า “มันก็ช่วยไม่ได้นะครับ ที่ผมอดคิดไม่ได้ ว่ามันน่าจะเป็นคนที่อยากสร้างเขื่อนนี่แหละ ที่พยายามทำลายทุกอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งชาติทับสักไม่ว่าต้นสักใหญ่ต้นนั้นหรือเสือเจ้าแหว่ง”
ไกรสรกินปูนร้อนท้อง ขู่จะฟ้องอิสร์ฐานหมิ่น ประมาท อิสร์สวนทันควันว่า
“ผมยังไม่ได้บอกซักคำนะว่าเป็นคุณ”
ไกรสรถูกตอกหน้าเลยเงียบเพราะยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ ได้แต่นั่งจ้องหน้ากันไปมา
ครูจันทราและปอนด์ที่ดูการถ่ายทอดสดอยู่ในที่ของตน ต่างสมใจ สะใจกับการตอบโต้ของอิสร์มาก
แต่พอดูจบ แม่มดเตือนปอนด์ว่า “พี่เก้าเขาเคยเป็นหนึ่งไม่มีสองนะปอนด์ แค่พี่อิสร์แย่งแฟนเขา แล้วยังแย่งซีนเขาอีกแบบนี้ น่ากลัวเหมือนกันนะปอนด์” ปอนด์ฟังแล้วอึ้ง
ฝ่ายเจ๊ชบาที่นั่งดูไกรสรออกทีวีที่หน้าจอโปรเจกเตอร์ มหึมาที่บ้านกับชาวบ้านจำนวนหนึ่ง พอจบรายการด้วยการโต้แย้งและแฉข้อมูลของอิสร์ ชาวบ้านก็วิพากษ์วิจารณ์กัน เจ๊ชบาเห็นว่าท่าไม่ดีเลยไล่ให้กลับไปทำมาหากินกันได้แล้ว พอชาวบ้านกลับไปแล้ว เจ๊ก็คำรามแค้น
“ไอ้อิสร์ ปล่อยเอาไว้ไม่ได้แล้ว มึง!”
ที่สำนักงานอุทยานแห่งชาติทับสัก ชาติ กับบรรจงชื่นชมอิสร์มาก แต่พนัสกลับบ่นอารมณ์ขุ่นว่า
“จะไปก็ไม่ลา จะไปออกสื่อก็ไม่ขออนุญาต จะไปพูดอะไรก็ไม่มาปรึกษากันก่อนแม้แต่คำเดียว” ชาติบอกว่าเป็นเรื่องกะทันหันพออิสร์รู้ก็รีบไปเลย “มันเป็นคนใจร้อน ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังนึกว่าตัวเองเป็นใคร ถ้ามีปัญหาอะไรมาถึงตัวแล้ว จะแบกรับไหวไหม แล้วจะคอยดู”