ตอนที่ 1
สภาพโทรศัพท์มือถือถูกยิงกระจาย บุ้งเจอปลอกกระสุนปืน หยิบให้ทุกคนดูแล้วพากันสงสัยว่า
ใครยิงและยิงเพื่ออะไร เกี่ยวกับเด็กสองคนนั้นหรือเปล่า
พัฒน์สังหรณ์ใจเดินลิ่วนำไปบริเวณต้นสัก
ที่วันก่อนถูกตัดแต่ไม่สำเร็จ แต่วันนี้สักต้นนี้ไม่มีแล้ว ถูกโค่นจนเหลือแต่ตอ รอบข้างเศษไม้กระจุยกระจายเกลื่อนแสดงถึงการแปรรูปเรียบร้อย กิ่งไม้ที่ถูกตัดทิ้งกองพะเนิน เลื่อยยนต์ยังถูกวางทิ้งไว้
อิสร์ยืนอึ้งอยู่กับที่ ขบฟันจนเห็นเป็นสันนูนแค้นใจ
ไม่ต่างจากพัฒน์แต่ไม่โวยวาย มือเกร็งกำเข้าหากันแน่น
“เมื่อวานนี้เราจับพวกมันได้ตั้งหลายคน แล้วใครมันกลับมาอีก”
“มันฆ่าพ่อผม กลับมาเอาพ่อไปจนได้...พ่อ!!” พัฒน์คร่ำครวญอย่างเจ็บปวด เปรียบต้นสักเหมือนพ่อ
ทันใดมีเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทุกคนวิ่งไปเห็นสองหนุ่มถูกมัดโยงมือติดกับต้นไม้กลางลำธารที่น้ำปริ่มถึงเอว คนหนึ่งคอพับไปแล้ว อีกคนหน้าซีด ปากแห้งแตกเป็นขุย แหกปากตะโกนอย่างคนสิ้นหวัง
ปิ๊กกับต๊ะนั่นเอง อิสร์นำทีมลงไปช่วยสองหนุ่มขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ปิ๊กยังมีสติจำอิสร์ได้ พูดทักทายก่อนบอกเล่าเรื่องเห็นคนตัดไม้ว่ามีคนงานต่างชาติ แต่หัวหน้าเป็นคนไทย มันมัดตนกับเพื่อนไว้แล้วขนไม้ไป
พัฒน์จะตามไปล้างแค้นพวกมัน แต่อิสร์เห็นสภาพปิ๊กกับเพื่อนย่ำแย่จึงคัดค้านจนพัฒน์ชักสีหน้า
ไม่พอใจ บอกว่าแบ่งกันไปก็ได้
“สองต่อสิบเนี่ยน่ะเหรอพัฒน์ อันตรายเกินไป พี่จะไม่ยอมให้พวกเราต้องเสี่ยง จะต้องไม่มีลูกน้องพี่คนไหนตายในหน้าที่ ถ้าจะตาย ต้องเป็นพวกมัน”
อิสร์ประกาศกร้าว จ้องหน้าพัฒน์อย่างคนที่มุ่งมั่นไม่ต่างกัน แต่รอบคอบกว่าและเจนจัดกว่า...พัฒน์
ถอนหายใจ สะบัดหัวฮึดฮัด ใจร้อน หงุดหงิดเต็มที่
“เป็นแผนของพวกมัน”
“แผนอะไรวะ” บุ้งตะโกนมาจากข้างหลังอิสร์
“แผนที่เอาไอ้เด็กพวกนี้มาเป็นตัวถ่วงพวกเรา มันรู้ว่าเราต้องช่วยคนมากกว่าจะเลือกไปตามจับมัน”
“ผมว่าเราต้องรีบพาเด็กสองคนนี้ออกจากป่า ก่อนอาการจะหนักมากกว่านี้นะอิสร์” ชาติเร่ง
“พี่...ถ้าเราไปตอนนี้ เราอาจจะตามจับมันไม่ได้อีกเลยนะ พี่ดูมันรีบแค่ไหนถึงขั้นยังทิ้งเลื่อยยนต์ไว้แบบนั้น...หยามกันฉิบเป๋ง”
“ใช่ มันรีบ แต่พัฒน์เชื่อพี่ วันหนึ่งมันจะพลาด...มาเร็ว ช่วยเด็กก่อน”
พัฒน์จำยอม...ทุกคนช่วยกันแบกร่างผู้หลงป่าเดินไปตามทางคดเคี้ยวของป่าทึบ
ooooooo
อิสร์แวะรับปอนด์ก่อนพาปิ๊กกับเพื่อนส่งโรงพยาบาลประจำอำเภอ หมอตรวจและให้น้ำเกลือแล้วบอกอิสร์กับปอนด์ที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องผู้ป่วยว่า
“เราต้องเอาตัวคนไข้ไว้ดูอาการก่อนนะครับ ต้องตรวจร่างกายหลายอย่างจะได้แน่ใจว่าปลอดภัย”
“น้องจะไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ”
“ตอนนี้มีอาการไข้ หมอส่งเลือดเข้าแล็บแล้ว...
พรุ่งนี้ก็ทราบ ถ้าเป็นแค่ไข้ธรรมดา ไม่ใช่ไข้มาลาเรีย สองสามวันก็กลับบ้านได้ครับ ส่วนคนไข้รายนี้ก็เหมือนกันนะครับ สถานการณ์เดียวกัน ทางเราโทร.ไปบอกญาติตามเบอร์ที่คุณให้แล้ว เขาจะมากันวันพรุ่งนี้”
“ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ ฝากน้องด้วยนะคะ”