ตอนที่ 14
“ขอโทษครับพ่อ จริงครับแม่ ผมขอตัวครับ” สมุทรพูดจบบ่ายหน้ากลับไปทางเก่าเพื่อรายงานคำสั่งของนาวินให้ยอดรักรับรู้...
ยอดรักกับชลดายืนรอสมุทรอยู่ที่นอกประตูทางเข้าออกรังผจญ ทันทีที่สมุทรมาถึงก็ขอร้องทั้งคู่ให้รีบออกจากที่นี่เพราะเขาต้องหาทางทำลายรถบรรทุกระเบิดคันนั้น ยอดรักมองชลดาสีหน้าเศร้ามาก
“ชล คงถึงเวลาที่ผมต้องบอกลาคุณแล้วนะ ลาก่อน”
“นี่คุณคิดจะทำอะไร”
ชลดาว่าพลางมองยอดรักงงๆ เขาไม่ตอบแต่ตบเธอสุดแรงจนสลบแล้วอุ้มตัวไว้ สมุทรตกใจต่อว่าเขาว่าทำบ้าอะไร ยอดรักน้ำตาไหลพราก มองชลดาที่สลบในอ้อมแขนตัวเอง
“ผู้หมวดเชื่อเถอะ ผมเจ็บ ในหัวใจผมมันเจ็บมากกว่าชลหลายเท่า ผู้หมวด...ผมฝากหัวใจไว้กับผู้หมวดนะ”
ยอดรักรีบเข้าไปในประตูแล้วปิดอย่างรวดเร็ว สมุทรโวยวายนั่นเขาคิดจะทำอะไร
“ทำสิ่งที่ผมต้องทำ”
มีเสียงพนักงานสื่อสารสาวประกาศขึ้นอีกครั้ง “ทุกหน่วยโปรดทราบ สถานที่นี้จะถูกทำลาย นี่คือประกาศเตือนครั้งสุดท้าย”
เสียงประกาศนี้กดดันยอดรักสุดๆ บอกกับสมุทรผ่านประตูที่ปิดว่าเขาจะเป็นคนระเบิดรถ
คันนั้นเอง ถึงตัวจะต้องตายไปพร้อมกับการระเบิด แต่ทุกคนจะได้รู้ว่านี่คือวีรกรรมสุดท้ายของผู้กองนักรบ สมุทรตะโกนถามจะให้ตนบอกหมอชลว่าอย่างไร
“บอกชลว่าโลกของเราต้องการเรื่องราวดีๆที่ผู้คนจะจดจำไปเล่าให้ลูกหลานฟัง เรื่องของวีรบุรุษผู้ยอมพลีชีพกับคุณหมอคนสวยนะมันดีที่สุดแล้ว”
“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณคือยอดรัก นักร้องลูกทุ่งที่ไม่เอาไหน เพราะตอนนี้คุณคือผู้กองนักรบชัดๆ”
“ผู้หมวดเคยสัญญากับผมแล้วว่าชลจะต้องปลอดภัยใช่ไหม ถ้าจำได้ผู้หมวดก็ทำตามสัญญาสักทีสิโว้ย”
สมุทรซึ้งใจในความเสียสละของยอดรักบอกลาเขาเป็นครั้งสุดท้าย แล้วอุ้มชลดาออกไป ยอดรักที่ยืนโดดเดี่ยวในวาระสุดท้ายของชีวิต อดนึกถึงเหิมกับซิ่งไม่ได้
“ข้าคงจะได้ไปเจอเอ็งสองคนเร็วๆนี้แล้วล่ะ” ยอดรักยังนึกไปถึงหลวงปู่ที่อยู่วัดหนองอียออีกด้วย “หลวงปู่เคยขอให้ผมเป็นคนมีสัจจะใช่ไหมครับ ผมขอให้สัจจะ คืนนี้ผมจะคืนความยุติธรรมให้ผู้กองนักรบ ถึงผมจะต้องตายผมก็จะต้องทำให้ได้ครับหลวงปู่”
หลวงปู่ที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ในกุฏิวัดหนองอียอ คล้ายจะรับรู้คำอธิษฐานของยอดรักได้ เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ลมพายุพัดโหมเข้ามาทำให้เทียนไขที่ท่านจุดไว้ดับวูบ เหมือนเป็นลางร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับยอดรัก
ooooooo
ยอดรักชักปืนขึ้นมากระชับในมือ ตะลุยเข้าไปในรังของผจญกระทั่งถึงหน้าห้องเย็น เห็นสมุนยืนยามสองคนถืออาวุธคุ้มกันอยู่ เขารีบหลบมุม จำได้ว่ามันคือสมุนที่ผจญสั่งให้มาเฝ้าศพผู้กองนักรบ
จังหวะนั้นประตูห้องเย็นเปิด ลูกพี่สมุนกับสมุนอีกคนเดินออกมา ลูกพี่สั่งให้สมุนสามคนรออยู่ที่นี่ตนจะไปรายงานบอสว่าเราจัดการให้นักรบกับหมอโลภมากพร้อมออกศึกแล้ว ยอดรักที่ซุ่มดูอยู่รอจนลูกพี่สมุนไปแล้ว จึงเอาลูกปืนออกจากแมกกาซีนหนึ่งลูกโยนไปด้านหนึ่งไกลๆ
เสียงกระสุนกระทบพื้นทำให้สมุนสองคนเดินไปดูทำให้เหลือเม่นสมุนเพียงคนเดียวเฝ้าห้องเย็น ยอดรักย่องเงียบเข้าไปจัดการมันอย่างง่ายดาย
จากนั้นเขาลากร่างไร้วิญญาณของเม่นไปไว้ในห้องเย็นแล้วเปิดไฟ แสงสว่างทำให้เขาเห็นร่างนักรบกับหมอที่ตายแต่งชุดดำเตรียมออกรบอาวุธครบมือ เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ
“ในที่สุดเราสองคนก็ได้เจอกันอีกครั้งนะผู้กอง ครั้งแรกผู้กองช่วยไอ้ยอดรักคนนี้ให้รอดตาย แต่
ครั้งนี้ไอ้ยอดรักจะทดแทนบุญคุณผู้กอง คืนนี้ผู้กองจะคืนชีพแล้วจะเป็นคนจัดการกับไอ้ผจญ”
ฝ่ายผจญในชุดดำรัดกุมเตรียมปืนกับมีดพกเสร็จพอดีตอนที่พนักงานสื่อสารสาวเข้ามาแจ้งว่ารถบรรทุกระเบิดกับรถคุ้มกันสามคันพร้อมแล้ว
“ดี ให้มาจอดรอฉันที่หน้าประตูใหญ่ได้เลย บอกทุกคนนะว่างานนี้ฉันจะเป็นคนควบคุมด้วยตัวเอง”
สาวสื่อสารรับคำเดินออกจากห้องสวนกับลูกพี่สมุนที่เข้ามารายงานเรื่องจัดการศพนักรบกับหมอเรียบร้อยแล้ว ผจญสั่งให้ย้ายทั้งสองศพขึ้นรถบรรทุกระเบิดได้ สมุนรับคำรีบไปปฏิบัติตามคำสั่ง...
สมุนสองคนที่เดินตามเสียงกระสุนตกย้อนกลับมาหน้าห้องเย็นอีกครั้ง ต่างแปลกใจที่เม่นหายไป ลูกพี่สมุนกลับมาพอดีถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งคู่เองก็ไม่รู้เหมือนกันรู้แค่มันทะแม่งๆ
สามสมุนเข้าไปในห้องเย็นที่มืดสลัวพร้อมอาวุธ เจอศพเม่นที่ยอดรักเอามานั่งพิงเตียงวางศพนักรบ พวกมันไม่ทันดูอะไรทั้งนั้นสาดกระสุนใส่
ไม่ยั้งจนศพล้มลง พอเข้าไปดูชัดๆถึงได้รู้ว่าคือเม่น ลูกพี่สมุนสั่งห้ามเปิดไฟกลัวจะตกเป็นเป้าให้ผู้บุกรุก
“เอาไงดีลูกพี่”
“รีบเอาสองศพนี่ออกไปขึ้นรถแล้วฉันจะล็อกห้องนี้ถ้ามันยังอยู่ในนี้ก็ให้มันตายไปพร้อมกับตอนระเบิดตึก”
ลูกพี่สมุนสั่งเสร็จถือปืนกราดไปมาอย่างระแวดระวัง ส่วนสมุนสองคนช่วยกันลากเตียงใส่ศพทั้งสองเตียงออกไปโดยไม่รู้เลยว่ายอดรักเปลี่ยนตัวกับนักรบเอาชุดของเขามาสวม และให้เขาสวมชุดที่ยอดรักสวมใส่มา ซึ่งถ้าพวกสมุนเปิดไฟก็จะเห็นศพนักรบวางแอบๆอยู่ตรงมุมห้อง
ooooooo
ในเวลาเดียวกัน สมุทรอุ้มชลดาที่ยังหมดสติมาสมทบกับพวกของส้มจี๊ด
ทั้งหมดยังต้องซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าเนื่องจากไม่สามารถไปที่รถได้ ระหว่างนั้นรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์กับรถคุ้มกันมาจอดรอที่หน้าประตูรั้ว เสียงประกาศของพนักงานสื่อสารสาวดังขึ้นอีกครั้ง