ตอนที่ 14
ใส่ให้พวกมัน และให้พรางหน้าตาให้เหมือนพวกมันกำลังออกปฏิบัติการลับ แล้วให้รอตนที่นั่น กำชับว่า
นอกจากตนแล้วห้ามใครเข้าใกล้ห้องนั้นเด็ดขาด
สมุนสี่คนโดดลงจากตู้คอนเทนเนอร์รีบไปที่ห้องเย็นตามคำสั่งของผจญ ยอดรักกับชลดามองหน้ากันก่อนจะพากันออกจากบริเวณนั้น...
ทางด้านนาวินทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ไหวเปลี่ยนจากชุดคนไข้เป็นชุดไปรเวตเตรียมออกจากโรงพยาบาล ภคินีเห็นก็แปลกใจแต่งตัวแบบนี้ทำไมจะไปไหนหรือ เขาจะกลับหน่วยพิเศษไปรวบรวมกำลังสู้กับผจญ
“ใครอนุญาตให้คุณออกจากโรงพยาบาลไม่ทราบ ที่แน่ๆต้องไม่ใช่หมอ” ภคินีเสียงเขียวใส่
“ก็ผมนี่แหละอนุญาตตัวเอง” นาวินเสียงเขียวกลับไปบ้างแล้วหันไปถามหมึกว่าเวชหายไปไหน จังหวะนั้นมีเสียงเคาะประตูห้อง ก่อนแช่มเปิดประตูเข้ามารายงานตัว นาวินถามว่าแผลที่ก้นหายดีแล้วหรือ
“ก้นผมกับหัวใจผมพร้อมออกรบครับผม”
“แล้วมีอะไรหรือเปล่า”
“ผมขออนุญาตพากองหนุนมาเสริมทัพครับผม” แช่มว่าแล้วพานาวินออกมาจากห้อง เจอเวชยืนรออยู่พร้อมกับชะลอและจ้อซึ่งยังติดสายน้ำเกลือที่แขน
“ขออนุญาตครับผม จ่าเวชแจ้งให้ทราบว่าครูต้องการกำลังพลครับผม ผมกับจ่าจ้อจึงขอร่วมสู้ศึกครั้งนี้ด้วยครับผม” ชะลอเสียงเข้มแข็งผิดกับร่างกายที่ยังไม่หายดีนัก
“ถ้าเราสองคนจะต้องตายก็ขอตายในการร่วมรบกับผู้กองนักรบครับผม...คือครูครับ เราสองคนไม่อยากบวมน้ำเกลือตายครับผม ในปากผมมันเค็มเหมือนอมบ๊วยตลอดเวลาครับครู”
“จริงครับผม ให้พวกผมนอนบนเตียงทั้งวันทั้งคืนมันน่าเบื่อมากสำหรับลูกประดู่อย่างพวกเรา” ชะลอเสริม
“พูดได้ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะมามัวรออะไรกันอยู่ล่ะ”
นาวินพูดยังไม่ทันขาดคำ ภคินีสวนทันทีว่ารอเธออยู่ เขาชะงักจะให้รอเธอให้ศีลให้พรก่อนสู้ศึกใหญ่หรือ เธอเดินมายืนประจันหน้ากับเขา
“ฟังไว้นะนาวิน ทุกคนช่วยเป็นพยานด้วย ถ้าไม่มีลูกชลของฉันกลับมาด้วย ต่อให้ดินกลบหน้า
ก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นอีก”
“คุณภัค ผมจะพาลูกชลกลับมาหาคุณ ผมสัญญา” นาวินเสียงหนักแน่น
ooooooo
ชลดาวิ่งหลบหลีกพวกสมุนไปพลางบ่นกับยอดรักไปด้วยถ้าระเบิดพวกนั้นไปถึงหน่วยของพ่อเธอต้องมีคนบาดเจ็บล้มตายอีกมาก แล้วเราจะทำอย่างไรดี พลันมีเสียงพนักงานสาวประกาศทางลำโพง
“ทุกหน่วยโปรดทราบ สถานที่นี้กำลังจะถูกทำลาย เริ่มขั้นตอนการอพยพในอีกครึ่งชั่วโมง”
“ให้ไวเลยชล”
ยอดรักเร่งรัดเสร็จจูงมือชลดาวิ่งเลี้ยวหัวมุมตึกเจอกลุ่มของสมุทรพอดีต่างตกใจคิดว่าเป็นศัตรูยกปืนขึ้นเล็ง ครั้นเห็นว่าใครเป็นใครพากันถอนใจโล่งอก รีบลดปืนลง ชลดาเล่าถึงแผนชั่วของผจญให้สมุทรฟังว่ามันจะฆ่าพ่อแม่ของเธอ
“ไม่ต้องห่วงครับ ครูกับคุณแม่หมอปลอดภัยครับผม ทีมของผมกำลังอารักขาทั้งสองท่านอยู่ครับ”
ส้มจี๊ดที่ยืนเคียงข้างสมุทรจับแขนเขาเพื่อแสดงเป็นนัยๆว่าเธอกับเขาสนิทสนมกันแค่ไหน
เพื่อตัดปัญหา
“ส้มจี๊ดดีใจที่เห็นพี่ทั้งสองคนปลอดภัยนะคะ”
“หมอก็ดีใจที่ส้มจี๊ดกับทุกคนปลอดภัยเช่นกันจ้ะ”
ครูสมัยโผเข้าหายอดรัก ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้มีวันนี้ วันที่ตนจะได้ขอโทษเขาที่ตนทำไม่ดีกับเขาไว้เยอะ ยอดรักไม่ถือโทษโกรธอะไรครูสมัย เร่งให้สมุทรพาทุกคนหนีไปก่อน ชลดาจับแขนยอดรักไว้เตือนว่าอย่าลืมเรื่องระเบิด สมุทรชะงักหันขวับ ถามว่าระเบิดอะไร
“พวกมันจะขับรถบรรทุกระเบิดไปถล่มหน่วยพิเศษค่ะ ผู้หมวดต้องรีบเตือนพ่อชลนะ”
“ได้ครับ”
“ชลไปกับผู้หมวดนะ ผมจะเฝ้าตรงนี้ให้”
ชลดาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้นถ้ายอดรักไม่ไปด้วย แล้วบอกสมุทรว่าไม่ต้องเป็นห่วงเธอ ให้พาทุกคนออกไปก่อน เขาพยักหน้ารับคำเดินนำส้มจี๊ดกับครอบครัวออกไป ไม่นานนักสมุทรกับพวกส้มจี๊ดมาถึงด้านนอกตัวอาคารที่เป็นรังของผจญ แล้วตรงไปที่พงหญ้า
ลับสายตาคน
“ทุกคนเงียบๆนะ เราคงต้องหลบตรงนี้
สักพักนะ” สมุทรว่าแล้วหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หานาวิน รายงานเรื่องผจญจะระเบิดหน่วยพิเศษให้ราบเป็นหน้ากลอง นาวินตกใจมาก
“เฮ้ย แน่ใจนะหมวด นี่พวกมันเหิมเกริมขนาดจะบุกมาระเบิดที่นี่เชียวเหรอ”
“คือยอด...เออ ผู้กองกับคุณหมอชลเห็นกับตาได้ยินกับหูเลยครับครู มันกะฆ่าล้างบางพวกเราเลยครับครู ที่สำคัญ ชาวบ้านตาดำๆจะต้องเดือดร้อนไปด้วยแน่ๆ”
“เอาอย่างนี้หมวด บอกผู้กองด้วยทำลายที่นั่นให้สิ้นซาก ไอ้รถบรรทุกคันนั้นออกจากรังของมันไม่ได้และนี่คือคำสั่ง...อ้อ หมวดรีบส่งพิกัดรังของผจญมาให้ผมด่วน เลิกกัน”
นาวินวางสายไปอึดใจสมุทรส่งพิกัดที่ต้องการมาให้ จึงสั่งแช่มซึ่งเป็นพลขับจำเป็นว่า
“ตาแช่ม ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ตอนนี้พวกเราอยู่ใกล้รังขอผจญมากที่สุด เราคือด่านหน้าที่จะสกัดแผนร้ายของมัน ขับตามฉันสั่งนะ แยกหน้าเลี้ยวซ้ายไปทางเลี่ยงเมือง”
ooooooo
สมุทรส่งพิกัดไปให้นาวินเรียบร้อยก็หันบอกส้มจี๊ดกับพวกให้รออยู่ตรงนี้ก่อน ครูสมัยกับชบาพยักหน้ารับคำ ส้มจี๊ดจับแขนเขาไว้บอกให้ระวังตัวด้วย
“นึกว่าจะไม่ห่วงผู้หมวดซะอีก”
“อ้าว ถ้าส้มจี๊ดไม่ห่วงผู้หมวด ส้มจี๊ดจะห่วงใครล่ะคะ”
ครูสมัยกระแอมทันที “เอาอย่างที่สบายใจเลยเนอะแม่ชบาเนอะ ไม่ต้องนึกว่าพ่อเขายังอยู่ตรงนี้ทั้งคน”
“พี่ก็นะ แหมผู้ชายดีๆอย่างนี้หายาก” ชบายิ้มให้สมุทรอย่างเป็นกำลังใจให้ เขายิ้มตอบแบบแห้งๆ