ตอนที่ 14
“แต่คุณสู้ผจญไม่ได้หรอก ขนาดผู้กองยังโดนมันฆ่าเลย ชลเห็นมากับตา ชลเลยไม่อยากเสียคุณไปอีกคน”
“ผมกับผู้กองสู้ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน ผู้กองสู้เพื่อชาติ แต่ผม...ผมสู้เพื่อชล”
คำพูดของยอดรักซาบซึ้งใจมาก ชลดาโผกอดเขาไม่สนใจว่านี่คือรังโจร เขากอดเธอตอบ สักพักก็ดันตัวเองออกห่าง
“ไปชล ผมจะให้คุณเห็นว่าคนบ้านผมเวลามันสู้...มันสู้ยังไง ตามผมมา”
ยอดรักจับชลดาไว้ด้านหลังตัวเองอย่างปกป้องแล้วเดินลุยลึกเข้าไปในรังโจร เธอมองเขาอย่างประทับใจแต่อยู่ๆเขาหันมายิ้มแห้งๆ
“ยอดรักจะเปลี่ยนใจพาชลหนีแล้วใช่ไหม”
“เปล่า คือใจน่ะผมเตรียมปะทะเต็มร้อย แค่ผมไม่รู้ว่าเขาเก็บร่างผู้กองไว้ที่ไหนน่ะสิ ชลรู้หรือเปล่า”
ชลดาอาสาจะนำทางไปเองเพราะผจญเคยพาไปที่นั่น...
ระหว่างยอดรักกับชลดามุ่งหน้าไปยังห้องเย็น สมุทรเดินมาตามทางที่พนักงานสื่อสารสาววาดแผนที่ คร่าวๆให้ เฮียกวงที่ตามมาด้านหลังมีเสื้อผ้าของเธอติดมือมาด้วย ถามเขาแน่ใจใช่ไหมว่ามาถูกทาง
“เออ ก็มาตามแผนที่ที่ยัยนั่นบอกมาอ่ะ ว่าแต่มันจำเป็นที่แกจะต้องถอดเสื้อถอดผ้าเขาด้วยเหรอ”
“เออสิ ก็อั๊วให้ลื้อฆ่านังนั่นปิดปากลื้อก็ใจอ่อนไม่ยอมทำ แค่มัดกับอุดปากอีไว้ ขืนอีหลุดออกมาได้ อีได้วิ่งโร่ไปฟ้องไอ้ผจญสิ”
“แล้วแค่แก้ผ้าเขาเนี่ย ช่วยอะไรได้อย่างนั้นหรือ”
“ลื้อเชื่ออั๊วเหอะ ในโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะล่อนจ้อนวิ่งไปวิ่งมาหรอก อีเป็นคนไม่ใช่ชะนีอีต้องมียางอายหลงเหลืออยู่บ้าง”
เฮียกวงพูดไม่ทันขาดคำ มีเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา สมุทรกับเฮียกวงรีบซ่อนตัว สมุทรทำท่าเดิม คือจุ๊ปากให้เงียบแล้วใช้มือตีที่หัวตัวเองสองที
“เออๆ ให้คอยคุ้มกันไม่ต้องตีกบาลมัน รู้แล้ว” เฮียกวงกระซิบ ทั้งคู่รอพวกมันเดินผ่านจนลับสายตา จึงออกจากที่ซ่อน สมุทรดูแผนที่อีกครั้ง มองตรงไปที่ห้องซึ่งอยู่ไกลออกไป
“ห้องที่พวกมันขังส้มจี๊ดกับพ่อแม่ต้องเป็นห้องนั้นแน่ๆ...ไป”
สมุทรเดินนำเฮียกวงไปอย่างรวดเร็วและระแวดระวัง
ooooooo
ภายในห้องกักตัว ส้มจี๊ดกับชบากำลังช่วยกันดูแลครูสมัยที่ยังบาดเจ็บอยู่ ทันใดนั้นประตูห้องเปิดผลัวะ ครูสมัยเป็นห่วงความปลอดภัยของสองสาวลุกพรวดขึ้นปกป้องทั้งที่ตัวเองอาการไม่ค่อยดีนัก
ครั้นเห็นคนที่บุกเข้ามาคือสมุทรกับเฮียกวง ส้มจี๊ดดีใจมากร้องเรียกสมุทรเสียงลั่น เฮียกวงตัดพ้อมาช่วยกันสองคนแต่เธอทักแค่คนเดียวน่าน้อยใจสุดๆ เขาอุตส่าห์ซื้อเสื้อผ้ามาให้แล้วชูเสื้อที่ถอดจากพนักงานสื่อสารสาวคนนั้นให้ดู สมุทรด่าสวนว่าหน้าด้านเขาไม่ได้ซื้อมาสักหน่อย
“ส้มจี๊ดไม่ต้องการของขวัญจากคนที่เคยทำไม่ดีกับส้มจี๊ด”
“อั๊วรู้แต่อั๊วก็กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีมาช่วยลื้อกับเตี่ยกับม้าเลี้ยงของลื้อเพื่อไถ่โทษแล้วไง”
ครูสมัยมองสองหนุ่มอย่างไม่ไว้ใจนัก ถามทั้งคู่ว่าเป็นใคร สองคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายว่าเป็นแฟนส้มจี๊ด ครูสมัยมองลูกสาวขวับ
“ส้มจี๊ดบอกพ่อซิ ลูกไปเข้าพิธีสมรสหมู่มาเหรอ ทำไมอยู่ๆว่าที่ลูกเขยพ่อถึงดกอย่างนี้ล่ะ”
“ผมว่าเรื่องสำคัญตอนนี้คือเราต้องหนีจากที่นี่นะครับพ่อ”
เฮียกวงไม่พอใจโวยใส่สมุทรว่าอย่ามั่ว ใครเป็นพ่อของเขา ชบาขอร้องอย่าเพิ่งทะเลาะกัน ไว้หนีออกไปได้ก่อนค่อยตีค่อยต่อยกันก็ยังไม่สาย
เฮียกวงเห็นด้วยแล้วชิงเข้าไปพยุงครูสมัย ส้มจี๊ดเห็นสมุทรไม่พอใจก็คว้าแขนเอาไว้ ปลอบว่าอย่าน้อยใจไปเลย เขาคอยปกป้องเธอก็ได้
เฮียกวงอิจฉาสมุทรเลิกพยุงครูสมัยหน้าตาเฉย เข้าไปหาส้มจี๊ดแทน ครูสมัยยืนเองไม่ไหวร่วงลงไปกองกับพื้น สมุทรปราดเข้าไปประคองท่านเอง
ชบาช่วยสมุทรประคองครูสมัยอีกข้าง ขณะที่ส้มจี๊ดเกาะแขนสมุทรดูเป็นครอบครัวอบอุ่น เฮียกวงเลยกลายเป็นส่วนเกินจะขอแก้ตัวโดยให้ครูสมัยขี่คอ ทุกคนตวาดแว้ดว่าไม่ต้อง จากนั้นพากันออกจากห้อง เฮียกวงได้แต่เดินคอตกตาม...
ทางฝ่ายชลดานอกจากจะพายอดรักหลงทางหาห้องเย็นไม่เจอ ยังถูกสมุนสองคนจับตัวไว้ได้ ยอดรักเห็นจวนตัวจะร้องเพลงสะกดพวกมันแต่ไม่สำเร็จยังไม่ทันอ้าปากร้องเพลงโดนสมุนต่อยท้องจุกตัวงอ
ooooooo
แผนชั่วที่ดำเนินไปอย่างราบรื่นทำให้ผจญเดินยิ้มพอใจเข้ามาในห้องทำงาน แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเจอสมุนสองคนนอนหมดสติอยู่ รีบชักปืนขึ้นมากระชับในมือตรวจชีพจรที่คอพบว่าทั้งคู่ยังไม่ตาย
“ใครแอบดอดเข้ามาจัดการกับคนของฉันวะ”
ผจญแก้มัดให้สมุนทั้งสองคนแล้วตบหน้าเพื่อเรียกสติ ทั้งคู่ค่อยๆลืมตาลุกขึ้น แต่แล้วมีเสียงดังมาจากหลังโต๊ะทำงาน ผจญกระชับปืนในมือย่องกริบไปดู เจอพนักงานสื่อสารสาวถูกมัดปากไม่สวมเสื้อผ้า ตกใจเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน
“บอกฉันมาฝีมือใคร...ใครมันทำกับเธอแบบนี้”
“หมวดสมุทรกับเฮียกวงค่ะบอส แต่ที่หนูอยู่ในสภาพนี้เพราะไอ้เฮียกวงล้วนๆเลยค่ะบอส”
“หรือว่า...ทั้งหมดนี่คือแผนของพวกมัน” ผจญคิดได้ดังนั้น เดินไปเปิดตู้หยิบปืนโยนให้สองสมุน “เปิดสัญญาณเตือนภัยแล้วแจ้งพวกเราให้หาตัวพวกมันด่วน” ผจญว่าแล้วเดินลิ่วออกจากห้องโดยมีสมุนเดินตาม