ตอนที่ 14
“พอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตามเก็บรวบรวมชิ้นส่วนอวัยวะที่คงกระจัดกระจาย พวกเขาจะรู้ว่า มันคือร่างชู้รักของผู้กองนักรบ เรือเอก แพทย์หญิง ชลดา มลายอริคล้าม ลูกสาวหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่รู้เห็นเป็นใจกับโจรเพราะความรักทำให้ตาของเธอบอด หนังเรื่องนี้น่าจะชื่อ หญิงก็ร้าย ชายก็เลว”
พูดจบผจญหัวร่องอหายทั้งที่ไม่ขำสักนิด ชลดาแค้นสุดๆจะเข้าไปตบมันอีกแต่สมุนรั้งตัวไว้
“ไม่มีใครในโลกเชื่อแกหรอกผจญ”
“ตรงกันข้าม คนเราพร้อมจะเชื่อเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว”
ooooooo
ชลดากับผจญมัวแต่คุยกันก็เลยไม่มีใครสนใจยอดรักที่แอบดีใจเพราะได้ล่วงรู้แผนการของผจญ
“ไหนๆแกจะพล่ามแผนชั่วของแกแล้วก็ขอถามเลยแล้วกันว่าแกไม่มีบทให้ฉันเล่นบ้างเหรอ”
“สวะอย่างแกเป็นตัวประกอบในหนังของฉันยังไม่ได้เลย ไอ้บ้านนอก”
ผจญมองยอดรักอย่างเหยียดๆ เขาลอยหน้าใส่ด่าแค่นี้ไม่เห็นจะเจ็บ
“งั้นถ้าฉันจะบอกว่าเรื่องของแกกับชลดามันเพราะเขาเข้าใจผิดนึกว่าแกคือผู้กองนักรบล่ะ เจ็บไหม”
ยอดรักยอมรับว่าเจ็บ ผจญจิกผมชลดามา เผชิญหน้ากับยอดรัก สั่งให้บอกเขาไปว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขาเป็นเพราะความเข้าใจผิด ถึงจะถูกจิกจนเจ็บไปหมดแต่เธอไม่ปริปากพูด ผจญไม่พอใจจิกผมหนักมือขึ้น
“บอกมันไปให้มันได้ยินจากปากของคุณว่าคุณไม่เคยรักมัน”
ชลดาเจ็บจนน้ำตาไหลแต่กัดฟันไม่ยอมพูด ยอดรักสงสารเธอจับใจขอให้เธอพูดออกมาอย่าต้องเจ็บตัวเพราะเขาเลย เขารู้ตัวดีว่าไม่คู่ควรกับเธอ ไม่ว่าผจญจะบีบบังคับอย่างไรชลดาไม่ยอมพูดอะไร ผจญถึงบางอ้อหรือว่าที่เธอยอมเจ็บตัวเพราะรักยอดรักจริงๆ เธอยังคงเงียบไม่พูดอะไร ผจญปล่อยผมเธอ แล้วหันหลังให้
“ผมว่าคุณมีปัญหาเรื่องรสนิยมแล้วล่ะ”
“แล้วคนอย่างแกมันสูงส่งกว่าเขาตรงไหน ถ้าวัดกันด้วยความเป็นคน แกไม่มีวันเทียบเขาได้หรอก”
ผจญหันมาสะบัดหลังมือตบหน้าชลดาอย่างแรงแทบล้มทั้งยืน แต่สมุนประคองไว้ทัน ยอดรักเจ็บแค้นแทนคนรักจะเข้าไปเล่นงานมันแต่ติดโซ่ ผจญสั่งสมุนให้ปล่อยเธอเป็นอิสระ ทันทีที่สมุนปล่อยมือ ชลดา ทรุดลงไปกองกับพื้น ผจญพยักพเยิดให้สมุนคลายโซ่ ที่มัดยอดรักออก แล้วมองทั้งคู่
“ใช้เวลาช่วงสุดท้ายของคุณอยู่กับคนรักให้เต็มที่เถอะ เพราะหลังจากเรื่องนี้จบลง มันจะต้องหายไปจากโลกนี้ น่าจะเป็นก้นทะเลสักที่หนึ่งที่จะไม่มีใครเจอมันอีก นั่นแหละคือจุดจบของพระเอกของคุณ”
พูดจบผจญเดินออกไปกับสมุน ยอดรักทำเป็นคลุ้มคลั่งตะโกนไล่หลัง
“ได้ยินไหม กลับมาสู้กันอย่างลูกผู้ชายสิวะ”
เสียงยอดรักดังลอดออกมาจากห้องขัง ผจญที่ยืนอยู่หน้าห้องได้ยินทุกคำหันมายิ้มเย้ยกับสมุน
“เฝ้าให้ดี พวกมันมีประโยชน์ตอนที่ยังไม่ตาย” สั่งเสร็จผจญเดินจากไป ทิ้งสมุนยืนอยู่ตรงนั้น
ooooooo
ภายในห้องพักฟื้น มือสังหารพร้อมเข็ม ฉีดยาพิษในมือย่างสามขุมเข้าหานาวินที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง ยังไม่ทันเงื้อมือเพื่อปักเข็ม มันถูกคมกระสุนจากมือปืนสไนเปอร์ที่แขนถึงกับร้องลั่นเข็มหลุดมือ
เสียงร้องของมันปลุกให้นาวินกับภคินีรู้สึกตัวตื่น โดยเฉพาะภคินีตกใจมากอ้าปากค้างร้องไม่ออก
หมึกที่นอนราบอยู่บนตึกฝั่งตรงข้ามพร้อมปืนสไนเปอร์เล็งไปที่อกมือสังหารยิงซ้ำกระสุนเข้าเต็มๆทรุดลงจมกองเลือด นาวินรีบวิ่งไปประคองภคินีที่ตัวสั่นพูดอะไรไม่ออก พลันประตูห้องเปิดผลัวะ เวชวิ่งเข้ามาทำความเคารพนาวินแล้วตรงไปที่หน้าต่างห้อง ชมหมึกผ่านวิทยุสื่อสารตัวจิ๋วที่หูว่าสุดยอดมาก
“ไอ้หมึก จ่าเวช นี่มันอะไรกัน”
“ผู้หมวดแจ้งให้เราทราบว่าจะมีความพยายามลอบสังหารท่านครับผม”
สักพักหมึกตามเข้ามาสมทบ นาวินหันมาถามว่าใครเป็นคนส่งมือสังหารมา
“ผจญครับครู”
เวชค้นตัวมือสังหารเจอโทรศัพท์มือถือ เปิดรูปในนั้นดูก็ตกใจ รายงานนาวินว่าพวกมันจัดการริสากับสารวัตรกรุ๊นด์เรียบร้อยไปแล้ว นาวินคว้ามือถือไปดูถึงกับสบถว่าเลวมาก ภคินีที่เพิ่งตั้งสติได้ถามถึงชลดาว่าเป็นอย่างไรบ้าง หมึกรู้มาจากสมุทรอีกทอดหนึ่งว่าหมอชลยังมีชีวิตอยู่ นาวินกับภคินีกอดกันด้วยความดีใจ แล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นสมุทรอยู่ด้วย ถามเวชว่าตอนนี้เขาอยู่ไหน
“ผู้หมวดกำลังช่วยผู้กองนักรบชิงตัวหมอชลกับเชลยคนอื่นอยู่ครับผม”
“มันต้องให้ได้อย่างนั้น” นาวินสีหน้ามีความหวังขึ้นมาทันที...
ทางด้านผจญเดินมาที่ลานจอดรถใหญ่เพื่อดูความเรียบร้อย เป็นจังหวะที่รถบรรทุกสิบแปดล้อพร้อมตู้คอนเทนเนอร์แล่นมาจอด เขาถามคนขับรถที่วิ่งลงมาหาว่ารถคันนี้ใช่ไหมที่จะใช้บรรทุกระเบิด
“ครับบอส ขโมยมาครับ ไม่มีทางสืบกลับมาถึงบอสได้”
“ดีมาก...ทุกคน ขนระเบิดขึ้นรถได้ เราจะออก จากที่นี่เที่ยงคืน”
สมุนรับคำพากันทยอยขนระเบิดอานุภาพแรงสูงขึ้นไปไว้บนตู้คอนเทนเนอร์ ผจญบ่นเสียดายที่นาวินคงไม่ได้เห็นอวสานของหน่วยที่ตัวเองสร้างขึ้นมากับมือ