ตอนที่ 13
“คนเลวคนนั้นพูดถูก ผู้ชายที่ชลรักสองคนตายไปแล้ว”
ยอดรักพยายามอธิบายแต่ชลดาไม่ฟังไล่ตะเพิดเขาออกจากห้อง เขาถามเสียงอ่อยเรื่องของเราจะจบลงตรงนี้จริงๆหรือ เธอส่ายหน้ายังไม่จบ เราสองคนติดค้างผู้กองมากเกินไป วันที่เราจัดการกับผจญและลบล้างมลทินให้ผู้กองได้เมื่อไหร่ วันนั้นคือวันสุดท้ายของเรา เพราะหลังจากนั้นเธอไม่ต้องการเห็นหน้าเขาอีก
ยอดรักรับรู้ได้ว่าเธอเกลียดเขาจริงๆ ได้แต่มองอึ้ง จังหวะนั้นมีเสียงป้าจุ๊ร้องไห้คร่ำครวญดังมาจากหน้าบ้าน
“ไอ้ยอดรัก หมอชล เสียงอะไรวะ”
เจ้าของบ้านรีบลงไปรับแขก ครั้นเขาไปพ้นแล้วใบหน้าเย็นชาเมื่อครู่ของชลดาเปลี่ยนเป็นเจ็บปวดและผิดหวังในตัวเขา...
ที่หน้าบ้าน ป้าจุ๊ยืนร้องห่มร้องไห้ในมือถือถุงกระดาษใบใหญ่ พอเห็นยอดรักออกมาก็โผกอดถามว่าเมื่อครู่นี้เสียงอะไร เขาโกหกว่าทำปืนลั่น แกแปลกใจทำไมคนอย่างเขาไปยุ่งอะไรกับปืนผาหน้าไม้
“ไอ้ยอดรัก นี่รู้ไหมว่าไอ้ซิ่งกับไอ้เหิมมันถูกยิงตายใกล้ๆวัดเราเหมือนหมาข้างถนน”
ป้าจุ๊เห็นยอดรักได้แต่พยักหน้าพูดอะไรไม่ออกก็สงสารเพราะรู้ว่าเขากับซิ่งสนิทกันมาก ยอดรักอยากรู้ว่ามีใครจัดงานศพให้ซิ่ง
“พวกเราไปคุยกับหลวงปู่แล้วว่าเราจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพให้งานศพมัน”
“แล้วเรื่องของไอ้เหิมล่ะป้า”
“เชอะ ไอ้นักเลงใหญ่นั่นน่ะเหรอ ก็ให้พ่อแม่มันจัดการเอาเองเถอะนะเพราะตอนมีชีวิตอยู่ที่มันเที่ยวรังแกผู้คนไว้ ใครๆก็เกลียดมัน”
“แต่บางทีคนบางคนก็อาจจะเปลี่ยนกันได้นะจ๊ะป้า”
ป้าจุ๊ไม่เชื่อ คนเลวๆไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ แล้วขอตัวกลับก่อน ต้องไปเรี่ยไรเงินชาวบ้านมาจัดงานศพให้ซิ่ง ยอดรักไม่มีเงินสักบาทที่จะช่วยเหลืองานศพเพื่อนรักถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้น
“คือไอ้เรื่องเงินเรื่องทอง ฉันไม่มีจริงๆ ตอนนี้ฉันลำบากจริงๆ”
“ไอ้ยอดรักแกช่วยพวกเรามามากแล้ว เรื่องไอ้ซิ่งถือว่าเราตอบแทนแกเถอะนะ แกอย่าเสียใจไปเลย เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้ยอด เออนี่ ข้าเอาชุดดำมาให้หมอชล เขาคงเตรียมตัวไม่ทันเพราะงานมันเย็นนี้แล้ว”
ยอดรักร้องไห้ออกมาอีกบอกว่าหมอชลคงไม่ไปงานศพเพราะไม่ค่อยสบาย ป้าจุ๊เป็นห่วงจะขึ้นไปดู เขาจับแขนป้าไว้ อย่าขึ้นไปเลยปล่อยให้เธอพักผ่อนดีแล้ว
“บางทีบ้านผมมันอาจไม่เหมาะกับเขา...เขาคงคิดถึงบ้านของเขาแล้ว เดี๋ยวเขาคงจะกลับแล้วล่ะป้า”
“โอ๋ นี่แกเลิกร้องไห้สักทีเถอะ นี่ข้าคงต้องไปบอกข่าวชาวบ้านต่อแล้วนะ อย่าลืมงานเริ่มห้าโมงเย็นนะไอ้ยอดรัก” พูดจบป้าจุ๊วางถุงเสื้อไว้ข้างๆยอดรักแล้วผละไป
ชลดาที่แอบฟังอยู่ได้ยินทุกประโยคที่ยอดรักคุยกับป้าจุ๊ แม้จะสงสารแต่ความแค้นที่อัดแน่นในอกทำให้เธอทิ้งเขาให้ร้องไห้ตรงนั้นเพียงลำพัง
ooooooo
สารวัตรกรุ๊นด์กับริสาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเตรียมบินไปขอนแก่น จากนั้นต่อรถเช่าไปหนองอียอด้วยเหตุผลสองข้อ ข้อแรกไปรับตัวเฮียกวง ข้อที่สองไปร่วมงานศพเหิมกับซิ่ง ริสานึกอะไรขึ้นมาได้
“สารวัตรติดต่อหมวดสมุทรเรื่องพ่อของส้มจี๊ดโดนผจญจับตัวไปแล้วใช่ไหม”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงผมบอกไปแล้ว”
“คนอย่างผจญลึกซึ้งชั่วร้ายเหมือนงูพิษ สาว่าคงกำลังคิดแผนการที่น่ากลัวอยู่แน่ๆเลย”
“ผมถึงอยากจะจัดการเขาให้เร็วที่สุดไง”...
ที่ห้องพักชั่วคราวของส้มจี๊ดซึ่งอยู่ในพื้นที่ของหน่วยพิเศษ ส้มจี๊ดถึงกับปล่อยโฮเมื่อรู้จากสมุทรว่าพ่อของเธอถูกผจญจับตัวไปโดยมีสมุทรคอยปลอบไม่ห่าง เธอขอให้เขารับปากจะต้องช่วยพ่อของเธอให้ได้ เขาให้สัญญาจะยอมตายหากช่วยพ่อของเธอออกมาไม่ได้
“ถ้าผู้หมวดช่วยพ่อส้มจี๊ดได้ ส้มจี๊ดสาบานส้มจี๊ดจะทำกับข้าวซักเสื้อผ้ากางเกงนอกกางเกงในรวมทั้งถุงเท้าเหม็นๆของผู้หมวดไปจนวันตายของส้มจี๊ดเลย” พูดจบส้มจี๊ดซบหน้าร้องไห้กับอกสมุทร เขาอดยิ้มไม่ได้ หยิบเหรียญเสี่ยงทายของจ้อออกมาดู บ่นพึมพำว่าแกแน่มาก ส้มจี๊ดได้ยินก็ดันตัวออกห่างเห็นเหรียญในมือเขาถามว่าเหรียญอะไร สมุทรเล่าว่ามันคือเหรียญนำโชคของเขา
“คือตั้งแต่มีมัน สิ่งดีๆที่ผมไม่เคยคิดเคยฝันว่าจะเกิดก็เกิดกับผม”
“งั้นผู้หมวดช่วยขอให้เหรียญช่วยพ่อส้มจี๊ดด้วยนะคะ”
“เรื่องพ่อส้มจี๊ดไม่ต้องให้เหรียญช่วยหรอก ผู้หมวดนี่แหละจะจัดการคนที่มันทำให้ส้มจี๊ดเสียน้ำตาด้วยมือของผู้หมวดเอง” สมุทรกำหมัดสีหน้ามุ่งมั่น...
ในขณะเดียวกัน นาวินยังคงพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ภคินีเตรียมอาหารให้เขาไปพลางร้องไห้สะอึกสะอื้นไปด้วย นาวินแปลกใจนั่นเธอร้องไห้ทำไม เธอเป็นห่วงลูกที่ต้องออกไปเสี่ยงไปสู้กับพวกผู้ร้ายจนต้องหนีกระเซอะกระเซิงทั้งที่ลูกเป็นหมอ ไม่ได้มีหน้าที่ต่อสู้กับใคร
“แต่ลูกเราเป็นทหาร เป็นลูกทหาร คุณอย่าลืมสิ”
ภคินีไม่เคยลืม แต่ขอบอกไว้ก่อนถ้าลูกเป็นอะไรไป เธอจะไม่มีวันให้อภัยนาวินหรือผู้กองนักรบเด็ดขาดไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน
ooooooo
ผจญเลวได้โล่ ตามหมอมารักษาอาการบาดเจ็บ ของตัวเองถึงห้องพักในโรงแรม ครั้นใช้งานเสร็จก็ฆ่าหมอทิ้งเพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหล แล้วถามสมุนว่าคนที่ให้ไปหาใกล้จะถึงหรือยัง