ตอนที่ 13
“พ่อต้องเข้มแข็ง พ่อต้องเป็นคนบอกพี่ยอดรักด้วยตัวพ่อเองนะพ่อนะ พี่เขาจะได้ดีใจ สัญญากับส้มจี๊ดนะพ่อนะ” ส้มจี๊ดกอดพ่อร้องไห้เป็นห่วงสุดๆ...
อีกมุมหนึ่งในห้องทำงาน ผจญนั่งหน้าเครียดอยู่ตอนนี้พนักงานสื่อสารสาวเปิดประตูเข้ามาถามว่าให้คนไปตามเธอมาต้องการให้รับใช้อะไร เขา
อยากรู้ว่าไอ้ตำรวจสองนายนั้นเคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง
“เราดักฟังการสื่อสารของตำรวจที่ชื่อริสา ได้ค่ะบอส เธอพยายามติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดีนายกวงเรื่องขอหมายค้นค่ะ แต่เราขัดขวางการสื่อสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว”
“อย่างที่ฉันคิด พวกมันคงรู้เรื่องที่นี่จากนายกวง แล้วคนที่ฉันส่งไปจัดการล่ะเข้าประจำที่หรือยัง”
“เรียบร้อยค่ะบอส เราได้พิกัดของตำรวจทั้งสองนายและให้มือสังหารไปดักสองนายนั่นไว้แล้วค่ะ”
“ดีมาก” ผจญยิ้มสะใจ
ooooooo
เฮียกวงในสภาพถูกสวมกุญแจมือบอกทางให้ริสาขับรถพายอดรัก สมุทรและสารวัตรกรุ๊นด์มาที่โกดังของตัวเอง ยอดรักมองไปรอบๆบริเวณ
“นี่น่ะเหรอเฮียกวง คลังอาวุธของเฮีย”
“แค่สาขาเล็กๆอ่ะ แต่ขอบอกถึงจะเล็กแต่มีอาวุธทุกชนิดยกเว้นขีปนาวุธกับตอร์ปิโดเพราะไม่รู้จะเอาไปขายใคร” เฮียกวงพูดไปขำไป สมุทรไม่ขำด้วย กระชากคอเขาจะเอาเรื่อง
“คนชั่วๆอย่างลื้อมันน่ายิงทิ้งตรงนี้จริงๆ พับผ่าเหอะ”
“อย่าเพิ่งทะเลาะกันเลย ตอนนี้เรามีกันอยู่แค่นี้” สารวัตรกรุ๊นด์รีบเข้าไปห้าม
“ก่อนที่สากับสารวัตรจะได้หมายค้นเพื่อจะนำกำลังตำรวจมาช่วยพวกเราก็มีแต่พวกคุณสามคนเท่านั้นที่จะขัดขวางพวกมันได้”
“งั้นจะรออะไรล่ะครับ ลงมือตามแผนกันเถอะนะ” ยอดรักเร่ง สารวัตรกรุ๊นด์ ริสาและสมุทรต่างมองเขาด้วยความเป็นห่วงโดยเฉพาะสารวัตรกรุ๊นด์พูดกับเขาอย่างไม่อ้อมค้อมว่าแผนของเขาเสี่ยงมากโอกาสรอดแทบไม่มี เขาจำเป็นต้องเสี่ยงเพราะคนอย่างผจญเจ้าเล่ห์เจ้ากล คิดว่าตัวเองฉลาดที่สุดในโลก
“แต่มันจริง มันนำพวกเราไปหนึ่งก้าวเสมอ” สมุทรเสริม ยอดรักแค่นหัวเราะ
“นั่นแหละคือจุดอ่อนของคนหลงตัวเองอย่างผจญ ผมจะทำเป็นพลาดให้มันจับผม ให้มันซ้อมผม อยากฆ่าผม เพราะตอนที่มันคิดว่ามันชนะมันจะพล่ามถึงแผนการทั้งหมดให้ผมฟังเพื่อเยาะเย้ยผม เราจะได้รู้ว่ามันคิดจะทำอะไร” ยอดรักเห็นริสาเดินเข้ามามองเขาอย่างพิจารณา ถามว่ามีอะไร
“คนที่จะคิดแผนระห่ำโลกอย่างนี้ที่สารู้จักมีเพียงคนเดียวเท่านั้น...คือผู้กองนักรบ ยอดรัก
รู้ไหม คุณไม่ใช่แค่เหมือนเขานะ แต่คุณคือเขาเลยล่ะ” พูดจบริสาดึงยอดรักมาจูบด้วยความรักและอาลัย
“เพื่อ?” ยอดรักมองริสางงๆ
“สาคงไม่ได้เจอผู้กองอีกแล้ว แต่สายังอยากจะเจอคุณอีก เพราะฉะนั้นอย่าตายนะยอดรัก อย่าตายนะ...ไปกันเถอะสารวัตร” ริสาว่าแล้วเดินกลับไปที่รถ สารวัตรกรุ๊นด์มองตามถอนใจเพราะแอบชอบเธออยู่ ก่อนเดินตามเธอไป เฮียกวงอดหมั่นไส้ยอดรักไม่ได้ ถามสมุทรว่าหน้าอย่างมันหล่อ
ตรงไหนหรือ
“หุบปากแล้วรีบพาพวกเราไปดูของกันเหอะ”
สมุทรเห็นด้วยกับยอดรักกระชากไหล่
เฮียกวงให้เดินเข้าไปในโกดัง ยอดรักเอามือจับริมฝีปากที่เพิ่งถูกริสาจูบสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนักก่อนเดินตามสมุทรกับเฮียกวงเข้าข้างใน
ooooooo
ระหว่างขับรถมาตามทางเปลี่ยว ริสาคอยมองนาฬิกาสีหน้าเป็นกังวลเพราะใกล้สี่โมงเย็นแล้วจะขอหมายทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ สารวัตรกรุ๊นด์รู้ว่าเราต้องรีบแต่ถ้าขืนเธอขับรถเร็วขนาดนี้เราอาจตายก่อนไปถึง
“แต่ถ้าเราไม่รีบ คนที่จะต้องตายแน่ๆคือผู้กอง ...เออ สาหมายถึง ยอดรักน่ะ”
สารวัตรกรุ๊นด์ถามริสาว่ายังรักผู้กองอยู่ใช่ไหม เธอนิ่งไม่ตอบ จังหวะนั้นรถแล่นมาถึงทางโค้ง เห็นรถคันหนึ่งจอดเปิดประตูค้างอยู่ กลางถนนมีร่างคนนอนเหยียดยาว ท่าทางไม่มีพิษสง เธอกระแทกเบรกตัวโก่ง หยุดได้ทันก่อนรถจะทับร่างนั้น ทั้งคู่รีบลงไปดู โดยไม่ลืมชักปืนขึ้นมาเตรียมพร้อม สารวัตรกรุ๊นด์กวาดตามองไปรอบๆเห็นปลอดภัยพยักหน้าให้ริสาเข้าไปดูคนเจ็บ เธอเก็บปืน ลองแตะชีพจรที่คอชายคนนั้นพบว่ายังไม่ตาย
ครั้นเธอจับคนเจ็บพลิกตัวขึ้นมาถึงได้เห็นว่ามีปืนอยู่ในมือ ยังไม่ทันร้องเตือนคู่หู กระสุนสองนัดซ้อนพุ่งเข้าเต็มท้องหงายหลังขาดใจตาย มือสังหารยิงใส่สารวัตรกรุ๊นด์สองนัดซ้อนเช่นกันเขาทรุดฮวบ พยายามคลานไปหาริสาจับมือมากุมไว้เป็นครั้งสุดท้าย
“ผมก็รัก...คุณนะ...” พูดได้แค่นั้นสารวัตรกรุ๊นด์สิ้นใจ มือสังหารถ่ายรูปเหยื่อแล้วส่งไปให้นายจ้าง...
ไม่กี่อึดใจถัดมา คลิปภาพศพของสารวัตรกรุ๊นด์กับริสามาปรากฏบนมือถือของผจญ
“คิดจะขอหมายมาจัดการผมเหรอคุณตำรวจ ศัตรูของผมต้องตายทุกคน” ผจญยิ้มเหี้ยม...
ตกค่ำ ชลดาถูกพาตัวมากินดินเนอร์ที่ห้องห้องหนึ่งซึ่งถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พนักงานสื่อสารสาวยกแก้วใส่แชมเปญมาวางตรงหน้าเธอหนึ่งแก้ว อีกแก้ววางตรงหน้าผจญซึ่งมองเธอด้วยสายตาหวานหยด
“จะไม่ถามหน่อยเหรอว่าเราจะฉลองกันเรื่องอะไร”