ตอนที่ 12
ผจญแค้นใจมากที่กลับรังมือเปล่า ไม่สามารถจัดการกับยอดรักได้ ผู้กองนักรบที่ใครต่อใครว่าแน่ตนก็ฆ่ามันด้วยมือมาแล้ว ส่วนมาเฟียอย่างเฮียกวงที่ครองผืนทะเลตนก็ยึดอาณาจักรของมันมาได้
“แม้แต่เสือเฒ่าอย่างนาวินกับหน่วยพิเศษของมัน ฉันก็ใช้สมองของฉันทำลายมันลงได้ แต่ไอ้นักร้องบ้านนอกคอกนาคนเดียวอย่างไอ้ยอดรัก ทำไมมันถึงหลุดรอดเงื้อมมือของฉันได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำไมวะ แกเก่งมาจากไหนเหรอ...หา” ผจญหยิบรูปถ่ายของยอดรักขึ้นมาตะคอกใส่ มีเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น
สมุนสองคนที่ให้ไปเฝ้าบ้านสมุทรค่อยๆ เปิดประตูเข้ามา ผจญปรี่ไปตบสมุนคนซ้าย ต่อยท้องคนขวาระบายแค้นที่ทั้งคู่พลาดท่าให้สมุทรจับได้
“แต่ฉันจะให้โอกาสแกแก้ตัว ตามฉันมา” ผจญว่าแล้วเดินนำสมุนทั้งสองคนมาที่ห้องทรมาน เห็นซิ่งซึ่งหมดสติคาเก้าอี้เพราะถูกทรมานอย่างหนัก ผจญเอาน้ำสาดหน้าให้รู้สึกตัว ซิ่งลืมตาขึ้นมาได้ก็ตะโกนอย่างน่าเวทนาว่ากลัวแล้ว อย่าทรมานตนอีกเลย ผจญจะไม่ซ้อมเขาอีก หากเขาทำตัวว่านอนสอนง่าย
“นายอยากให้ผมทำอะไรก็สั่งมาเลย ผมยอมทุกอย่าง”
“ดี เพราะแกจะต้องพาเราไปบ้านนังส้มจี๊ดแล้วลากคอพ่อมันมาที่นี่ ฉันอยากจะรู้ว่านังส้มจี๊ดมันจะยอมแลกชีวิตของมันกับชีวิตพ่อของมันไหม”
“ส้มจี๊ด...ฉันขอโทษ” ซิ่งคร่ำครวญทั้งน้ำตา...
ขณะที่ผจญวางแผนชั่วจะจับครูสมัยมาเป็นเครื่องต่อรองกับส้มจี๊ด ชลดาขับรถมาจอดที่ท่าเรือแห่งหนึ่ง แล้วลงไปคุยกับคนเรือสักพัก ก็กลับมาหายอดรักที่รออยู่ในรถบอกว่าแผนการหนีของสารวัตรกรุ๊นด์ที่วางไว้เหนือชั้นมาก ยอดรักที่เริ่มเจ็บแผลเนื่องจากหมดฤทธิ์ยาชาไม่ค่อยจะชอบใจนักถามเธอว่าไว้ใจคนเรือนั่นหรือ
“เขาเป็นคนที่สารวัตรแนะนำ แต่ที่สำคัญยอดรักต้องการที่ที่ปลอดภัยสำหรับพักฟื้นนะ” ชลดาเห็นยอดรักยิ้มๆก็สงสัยว่ายิ้มทำไม เขาชอบเวลาได้ยินเธอเรียกชื่อจริงของเขา เธอเผลอยิ้มออกมาแล้วนึกขึ้นได้รีบกลบเกลื่อนหันไปหยิบซองยายื่นให้ เป็นยาแก้อักเสบกับยาแก้ปวดกินก่อนกินอาหารหนึ่งชั่วโมง ยอดรักลีลาท่ามากจะไม่ยอมกินยาเลยถูกเธอเอ็ดว่าอย่างอแงไม่ใช่เด็กๆแล้ว เขาถึงยอมกินยา
“ยอดรักอยู่นิ่งๆก่อนนะ ชลมีธุระของพ่อที่ต้องจัดการก่อน”...
ทางด้านสมุทรขับรถมาใกล้จะถึงบ้านตัวเองแต่เหลือบเห็นรถต้องสงสัยจอดซุ่มอยู่ไม่ห่างจากตัวบ้าน ตัดสินใจขับรถเลยไปก่อน หมึกทักท้วงว่าเลยบ้านเขาไปแล้ว สมุทรมองกระจกส่องหลังดูรถที่ขับเลยมา
“หมวดว่าเรามีแขกไม่ได้รับเชิญว่ะ ส้มจี๊ดรออยู่ในรถนะ” สมุทรเห็นสีหน้าหวาดกลัวของส้มจี๊ด ปลอบว่าไม่ต้องกลัว เขาให้สัญญาจะไม่ทิ้งเธอ แล้วหันไปพยักพเยิดให้หมึกกับเวชก่อนจะพากันลงจากรถ
ooooooo
คนร้ายไม่ได้แค่ซุ่มโป่งอยู่แถวหน้าบ้านสมุทร แต่ยังมีอีกกลุ่มหนึ่งดักรออยู่ตามจุดต่างๆในบ้านหมึกสังเกตเห็นอุปกรณ์สื่อสารและอาวุธต่างๆ ของพวกมันซึ่งล้วนแต่เป็นของดีและทันสมัยไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นพวกซี.ไอ.เอ. เวชถามสมุทรจะเอาอย่างไรดีจะซัดกับพวกมันไปเลยไหม สมุทรส่ายหน้า
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
มือถือของสมุทรสั่นมีสายเรียกเข้า เขาถอยออกมาจากจุดซุ่มดูจนเห็นว่าปลอดภัยจึงกดรับสาย
“ผู้หมวดนี่ชลนะ ผู้หมวดฟังดีๆนะ...”
“คุณหมอต่างหากที่ต้องฟังผม คุณหมอรู้ไหมว่าคุณหมอทำให้ครูเป็นห่วงแล้วตอนนี้ครูอยู่โรงพยาบาล”
“ชลรู้ ชลไปหาพ่อมาแล้ว คราวนี้ฟังชลให้ดีๆ เพราะชลกำลังจะต้องหนีจากที่นี่สักพัก แต่พ่อชลฝากเรื่องสำคัญให้ชลมาบอกกับผู้หมวดว่าปฏิบัติการรหัสแดง”
สมุทรถามย้ำแน่ใจใช่ไหมว่าท่านบอกว่ารหัสแดง ชลดายืนยันหนักแน่นว่าแน่ใจ...
ในเวลาเดียวกัน รถตู้ของผจญมาจอดที่สนามบินส่วนตัวแห่งหนึ่ง สองสมุนหิ้วปีกซิ่งที่หมดเรี่ยวแรงแทบยืนไม่อยู่ลงจากรถ มีเสียงมือถือของผจญดังขึ้น ซี.ไอ.เอ.ตัวแสบสั่งสมุนเอาตัวซิ่งไปขึ้นเครื่องบินก่อน แล้วถึงได้กดรับสาย พนักงานสื่อสารโทร.มาแจ้งว่าเราดักฟังการติดต่อระหว่างสมุทรกับใครบางคนได้
“ต้นสายมาจากที่ไหน”
“แถวท่าเรือค่ะบอส จะเปิดให้ฟังเสียงนะคะ แต่สัญญาณไม่ชัดค่ะ” พนักงานสาวเปิดเสียงที่ดักฟังได้ให้ผจญฟังจำได้ว่าปลายสายที่คุยกับสมุทรคือชลดา สั่งการทันที
“สั่งคนของเราให้หาเรือที่ออกจากท่าตั้งแต่เวลาที่มีการโทร. ...พวกแกเสร็จฉันล่ะ” ผจญยิ้มพอใจ...
ยอดรักเดินมาหาชลดาที่กำลังยืนดูพระอาทิตย์ตกอยู่ที่ท่าเรือ แจ้งว่าคนเรือให้ลูกน้องขับรถไปคืนเขมทัตที่โรงพยาบาลแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องออกเดินทางแล้ว เธอหันมองเขาด้วยความเป็นห่วง
“กินยาแก้ปวดแล้วดีขึ้นไหม”
“ค่อยยังชั่วขึ้น เราคงต้องออกเดินทางแล้วล่ะ มันอีกไกลกว่าจะถึง...”
“ยอดรัก ชีวิตของเราสองคนจะเป็นยังไงต่อไป”
“มีพระรูปหนึ่งที่หนองอียอที่ทุกคนเรียกท่านว่าหลวงปู่ ท่านเคยบอกผมว่าอดีตมันคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่มีวันหวนคืนมา อนาคตมันก็ยังไม่มาจะกังวลไปทำไม ปัจจุบันต่างหากที่เราต้องทำให้ดีที่สุด...ไม่ว่าอะไรจะรอเราอยู่ข้างหน้า เราจะฝ่ามันไปด้วยกันนะชล” ยอดรักหอมแก้มชลดาหนึ่งฟอดแล้วมองพระอาทิตย์ตกด้วยกัน
ooooooo