ตอนที่ 12
นักร้องหนุ่มเริ่มเพ้อ ชลดาใจคอไม่ดีเร่งสารวัตรกรุ๊นด์ให้รีบไป ยอดรักกำลังจะช็อก แล้วนึกอะไรขึ้นมาได้
“ชลรู้แล้วว่าเราจะพาเขาไปที่ไหน มันคงต้องเสี่ยงกันแล้วล่ะ”...
ขณะที่รถตู้ของสารวัตรกรุ๊นด์มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลทหารเรือ สัตหีบ สมุทรกับพวกเข้ามาสำรวจห้องพักของยอดรัก หมึกหยิบสไลด์ตรวจเลือดขึ้นมาถามสมุทรว่านี่อะไร เวชชี้ให้เขาดูแฟ้มประวัติผู้กองนักรบกับยอดรักมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร สมุทร
สั่งให้เก็บทุกอย่างกลับหน่วยให้หมด นาวินคงอยากรู้เรื่องนี้แน่ๆ แล้วโทร.หาท่าน ต้องตกใจเมื่อปลายสายแจ้งว่าท่านอยู่โรงพยาบาล สมุทรวางสายหน้าเครียด หมึกพลอยใจไม่ดีไปด้วย
“หมวด ครูเป็นอะไร”
“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ บก.สั่งระงับการดำเนินงานทั้งหมดของหน่วยพิเศษ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องกลับเข้าที่มั่นโดยด่วนเพื่อรอรับคำสั่งต่อไป”
หมึกเป็นห่วงถ้าอย่างนั้นจะทำอย่างไรกับส้มจี๊ด สมุทรจะพาเธอไปกับพวกเรา เพราะข้างนอกนี่ไม่ปลอดภัย บอกให้ลูกทีมกลับไปเอาของที่บ้านของเขาก่อนแล้วค่อยกลับเข้าหน่วย
ooooooo
ที่โรงพยาบาลทหารเรือ หมดเวลาเยี่ยมพยาบาลมาเชิญมะลิที่เฝ้าดูอาการของฉลามที่ยังนอนไม่ได้สติออกจากห้องไอซียู เธอขออยู่ต่ออีกหน่อย พยาบาลไม่ยอมให้อยู่ เธอเฝ้าเขามาหนึ่งวันเต็มๆแล้ว
“กลับไปพักผ่อนเถอะ คิดถึงลูกในท้องบ้างสิ... นะ ไปพักเถอะนะคะ”
“พี่หลาม พี่ต้องเข้มแข็ง พี่ต้องช่วยมะลิเลี้ยงลูกของเรานะ” มะลิจูบหน้าผากฉลามแล้วผละออกไป...
มาลัยเยี่ยมชะลอที่อาการดีขึ้นกำลังจะกลับเห็นมะลิเปิดม่านกั้นเตียงฉลามออกมาพอดีก็เลยชวนกลับพร้อมกันแล้วประคองมะลิออกไป...
อีกมุมหนึ่งด้านหลังโรงพยาบาล เขมทัตกับนีรนารถยืนรออย่างกระวนกระวายใจอยู่ สักพักรถตู้ของสารวัตรกรุ๊นด์แล่นมาจอด ทั้งคู่รีรอเพราะไม่แน่ใจว่าใช่รถเป้าหมายหรือเปล่า ครั้นเห็นชลดาเปิดประตูรถลงมาในสภาพมือเปื้อนเลือด ทั้งคู่ปรี่ไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“ชลไม่ได้เป็นอะไร แล้วเรื่องที่ชลขอไว้ล่ะ”
นีรนารถไม่พูดอะไร รีบเปิดประตูรถตู้ขณะที่เขมทัตเข็นเตียงมาให้ แล้วกลับไปเข็นถังออกซิเจนกับหน้ากากเอามาสวมให้ยอดรัก จากนั้นชลดา
สวมเสื้อกาวน์เดินนำหน้าเตียงเข็นที่มียอดรักนอนห่มผ้าสวมหน้ากากออกซิเจนมีเขมทัตช่วยเข็นเตียงให้ โดยมีนีรนารถถือถุงน้ำเกลือตามหลัง เธอหันไปปลอบยอดรัก
“อดทนอีกนิดเดียวนะยอดรัก”
“ถ้ามีใครเรียกฉันว่ายอดรักหรือที่รักบ้างคงดีนะ” นีรนารถกระเซ้า จังหวะนั้นมีเสียงมะลิร้องเรียกหมอชลดังขึ้น ชลดาหันมองตามเสียงเห็นมะลิกำลังพุ่งมาทางตัวเองก็ตกใจขืนให้มาเห็นยอดรักต้องเป็นเรื่องแน่ มาลัยพยายามห้ามเพื่อนให้ใจเย็นๆก่อน หมอชลไม่เกี่ยวอะไรด้วย ชลดาจะพายอดรักหลบก็ไม่ทันรีบเอาตัวเองบังไว้ มาลัยตามมาทันเปลี่ยนจากดึงแขนมะลิมาเป็นพยายามดันตัวให้ถอยหลังแทน สองสาวไม่ได้สนใจยอดรัก
“เกี่ยวสิทำไมจะไม่เกี่ยว ก็หมอชลเป็นแฟนผู้กองนี่”
“มะลิจ๊ะ หมอกำลังยุ่งอยู่จ้ะ” ชลดาต้องหยุดขบวนเตียงเข็นยอดรักไปโดยปริยาย
“พูดง่ายดีนะหมอ รู้ไหมพี่หลามเขายังไม่ฟื้นเลย จะอยู่จะตายก็ไม่รู้ ทำไมแฟนหมอถึงใจร้ายอย่างนี้”
“มะลิ เรื่องทั้งหมดอาจจะไม่ใช่อย่างที่มะลิคิดก็ได้ ผู้กองอาจจะไม่ใช่คนร้ายหรอกนะมะลิ” ชลดาอธิบายอย่างใจเย็นทั้งที่ข้างในร้อนรุ่มอยากพายอดรักเข้าห้องผ่าตัด โชคยังดีที่มาลัยไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เพื่อนทำ ลากตัวออกไปจนได้ ชลดาถอนใจโล่งอกที่มะลิไปพ้นสายตา หันมองอีกทีต้องชะงักเมื่อเห็นเขมทัตกับนีรนารถจ้องอยู่ กลัวทั้งคู่ไม่ยอมช่วย พยายามอธิบายว่ายอดรักไม่ได้ทำเรื่องไม่ดีอย่างที่มะลิกล่าวหา เขมทัตห้ามไว้
“หมอชลเราเป็นหมอ เขาเป็นคนเจ็บ หน้าที่เราคือรักษาเขา”
นีรนารถพยักหน้าเห็นด้วยกับสิ่งที่เขมทัตพูด แล้วเข็นเตียงต่อ ชลดาซาบซึ้งใจมากถึงกับน้ำตาไหล ขอบคุณทั้งคู่แทนยอดรักด้วย จากนั้นช่วยกันเข็นเตียงยอดรักไปที่ห้องผ่าตัดพิเศษ
ooooooo
บนรถตู้ ผจญกำลังคุยสายอยู่กับพนักงานสื่อสารของตัวเองด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว
“มันจะเป็นไปได้ยังไงก็ฉันเห็นว่าไอ้ยอดรักเจ็บหนักขนาดนั้น ทำไมมันถึงไม่โผล่ไปที่โรงพยาบาลสักทีนึงวะ คอยจับตาดูให้ดีๆล่ะ” ผจญวางสายอย่างหัวเสีย ครุ่นคิดหนักว่าชลดาจะเอาตัวยอดรักไปรักษาที่ไหน อึดใจก็คิดออก รีบโทร.กลับไปหาพนักงานสื่อสาร บอกสถานที่ที่ยอดรักไปรักษาตัว เธอแจ้งทุกหน่วยอีกทอดหนึ่ง
“ถึงทุกหน่วย พบตำแหน่งที่น่าจะเป็นที่ซ่อนตัวของเป้าหมายแล้ว”...
ภายในห้องผ่าตัดพิเศษ เขมทัตสามารถผ่าเอาหัวกระสุนออกจากไหล่ยอดรักและห้ามเลือดได้สำเร็จโดยมีชลดากับนีรนารถคอยเป็นลูกมือ ทันทีที่ล้างเลือดออกจากหัวกระสุน เขมทัตโวยวายว่านี่เป็นกระสุนชนิดเดียวกับที่ใช้ยิงฉลาม ชะลอและจ้อเมื่อสองวันก่อน เป็นกระสุนชนิดพิเศษแม้แต่หน่วยรบตามปกติก็ไม่ใช้กัน
“โชคดีที่กระสุนคงโดนอะไรก่อนแล้วกระดอนโดนผู้กอง ไม่งั้นคงแย่แน่ๆ”