ตอนที่ 12
สมุทรเองก็จ้องเธอเขม็งจนเธอตกใจว่ามีเรื่องอะไรกัน
“ส้มจี๊ด หมวดอยากรู้เรื่องคนคนนั้น”...
ขณะที่ส้มจี๊ดเล่าถึงวีรกรรมชั่วของชายที่ชื่อผจญให้สมุทรกับลูกทีมฟัง พนักงานสื่อสารเข้ามาหาผจญพร้อมกับแล็ปท็อปในมือแจ้งว่าพบวิธีง่ายๆที่จะตามหาตัวยอดรัก แล้วเปิดแล็ปท็อปให้ดูภาพรถตู้ต้องสงสัยที่ขับหนีออกจากหน่วยพิเศษในช่วงเวลาเดียวกับยอดรักหายตัวไป เธอเจาะโปรแกรมกล้องวงจรปิดของตำรวจจราจรพบว่ารถตู้คันนี้หายไปในบริเวณที่มีโรงแรมเล็กๆหลายแห่งน่าจะเป็นที่ซ่อนตัวอย่างดีของเป้าหมาย
“ส่งพิกัดบริเวณต้องสงสัยและส่งคนของเราออกแกะรอยทุกโรงแรมในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรจากจุดสุดท้ายที่พบรถตู้คันนั้นและบอกคนของเราให้ฆ่าทุกคน ฉันไม่ต้องการให้คนพวกนั้นมีชีวิตอยู่อีกต่อไป” ผจญยิ้มเหี้ยม...
ระหว่างสมุทรกับพวกมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองสัตหีบ มีข้อความส่งมายังมือถือของสมุนที่หมึกยึดได้ เขาเปิดดูเป็นพิกัดตำแหน่งล่าสุดของผู้กองนักรบ ทุกคนดีใจในที่สุดก็ได้เบาะแสของผู้กอง ยกเว้นหมึกที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เวชสงสัยทำไมเขาถึงทำหน้าเหมือนก้นพะยูนแบบนั้น
“ในนี้มันบอกให้ค้นหาเพื่อสังหารว่ะ” คำตอบของหมึกทำเอาทุกคนตกใจ สมุทรรีบหยิบมือถือขึ้นมา
“ต้องรีบบอกครู”
ooooooo
นอกจากจะเครียดเรื่องที่ลูกสาวมีส่วนช่วยนักโทษหลบหนีแล้ว นาวินยังต้องมาเครียดเพิ่มขึ้นเพราะภคินีตามมาชวนทะเลาะเรื่องที่ชลดาหายตัวไปถึงที่ทำงานมือถือของเขาเปิดโหมดสั่นเอาไว้ สมุทรโทร.หาก็เลยไม่ได้ยินเสียงเนื่องจากมัวแต่เถียงกับภคินี
มีเสียงโทรศัพท์ของที่ทำงานดังขึ้น ผู้บังคับบัญชาโทร.มาเล่นงานนาวินที่ปล่อยให้เสพยานปากเอกถูกฆ่าตาย แถมคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หลบหนีไปได้ และจากที่ได้อ่านรายงานของผจญ ทำให้ท่านตัดสินใจยุติบทบาทหน่วยพิเศษเพื่อรอการสอบสวน นาวินพยายามขอร้องให้ท่านทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งแต่ไม่เป็นผล
นาวินจำต้องทำตามคำสั่งโดยจะแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกคนให้ทราบ ความเครียดที่ถาโถมใส่ทำให้โรคความดันโลหิตสูงของเขากำเริบปวดหัวจนต้องเอามือกุมขมับ ภคินีไม่ทันเห็นเพราะยืนหันหลังให้
“ดี เลิกไปเลยก็ดี คุณจะได้มีเวลาออกไปหายัยชลกับฉัน”
ทันใดนั้นมีเสียงโครมดังขึ้นจากด้านหลัง ภคินีหันกลับไปมองเจอนาวินทรุดลงไปกองกับพื้น รีบเข้าไปประคอง พร้อมกับตะโกนเรียกให้คนมาช่วย
“นาวิน คุณอย่ามาเป็นอะไรไปตอนนี้นะนาวิน”
“ลูกชล...” นาวินพูดได้แค่นั้นก็หมดสติ...
เหมือนมีลางบอกเหตุสื่อถึงกัน ขณะชลดากำลังนั่งเศร้ากับเรื่องระหว่างตัวเองกับยอดรัก มีเสียงนาวินร้องเรียกเธอดังแว่วเข้ามา เธอมองไปรอบๆห้องไม่เห็นใคร สังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องร้ายกับพ่อ คว้ากระเป๋าหามือถือ นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้เอามาเพราะริสาเตือนว่าหากเธอใช้มือถือ ใครที่ตามหาเธออยู่จะรู้ทันทีว่าเธออยู่ไหน ตัดสินใจย่องออกจากห้องไปซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่กับซิมที่ร้านสะดวกซื้อแล้วรีบโทร.หาแม่
“แม่เหรอ นี่ชลนะ”
ภคินีกำลังอยู่ในรถพยาบาลที่นำตัวนาวินไปส่งห้องฉุกเฉิน ร้องไห้คร่ำครวญไปพลางต่อว่าลูกไปด้วยว่ายังเห็นว่ามีแม่คนนี้อยู่ในโลกอีกหรือ นึกว่าจะรอให้พ่อตายก่อนค่อยโทร.มา ชลดาตกใจละล่ำละลักถามว่าพ่อเป็นอะไร ภคินีเองก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ๆ ก็ล้มลงไปเลย นี่รถพยาบาลกำลังจะเอาพ่อไปส่งโรงพยาบาล
ชลดาร้องไห้โฮเป็นห่วงพ่อ รีบวิ่งกลับโรงแรม เป็นจังหวะที่สมุทรขับรถผ่านมาพอดี ส้มจี๊ดเห็นเธอวิ่งข้ามถนนจึงร้องบอกทุกคนให้ดู สมุทรเห็นชลดาก็รีบจอดรถ บอกให้ส้มจี๊ดรออยู่ที่นี่ แล้วสั่งหมึกกับเวชเตรียมอาวุธให้พร้อม จากนั้นพากันลงจากรถ ส้มจี๊ดมองตามไม่สบายใจนี่ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันเลยหรือ กลัวสมุทรจะเป็นอันตราย แอบสะกดรอยตาม...
อีกมุมหนึ่งใกล้โรงแรม สมุนของผจญกำลังใช้จีพีเอสหาพิกัดตามที่พนักงานสื่อสารส่งมา ทันใดนั้นชลดาวิ่งตัดหน้ารถตู้จนคนขับต้องเบรกหัวทิ่ม
“เฮ้ย นั่นคือคนที่บอสสั่งให้เก็บ เร็ว...รีบตามไป” คนขับชี้ชวนให้พรรคพวกดู เหล่าสมุนชักปืนขึ้นมากระชับในมือแล้ววิ่งตามชลดาไป คนขับรีบวิทยุแจ้งไปถึงทุกหน่วยว่าพบเป้าหมายแล้ว ต้องการกำลังเสริมด่วน แล้วส่งพิกัดที่ตัวเองอยู่ไปให้...
ทางฝ่ายชลดาวิ่งอย่างเสียขวัญไปที่ห้องพักของยอดรักทุบประตูปังๆเรียกให้ริสามาเปิด ยอดรักได้ยินเสียงเธอก็ลุกพรวด ทันทีที่ริสาเปิดประตูรับชลดาร้องไห้ฟูมฟายเข้ามาขอให้ช่วยพาไปโรงพยาบาล พ่อของเธอไม่สบายมาก ยอดรักตกใจถามว่าครูเป็นอะไร
“ไม่รู้ แต่ชลต้องกลับไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”
สารวัตรกรุ๊นด์พุ่งไปที่หน้าต่างห้องโดยมีริสาตามติด ถามชลดารู้เรื่องพ่อได้อย่างไร เธอชูมือถือให้ดูบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เครื่องนี้เพิ่งซื้อใหม่ไม่มีใครรู้ ริสาส่ายหน้า
“คงไม่ใช่แล้วล่ะ ดูสิ” ริสาชี้ลงไปข้างล่าง ยอดรักกับชลดามองตามมือเห็นสมุนของผจญกำลังดาหน้ามาที่โรงแรม ริสาถามสารวัตรกรุ๊นด์จะเอาอย่างไรดี เขาเดินไปหยิบปืนจากเป้ส่งให้ยอดรักหนึ่งกระบอก
“พี่ยอดรักพาคุณหมอหนีไปทางบันไดหนีไฟแล้วไปรอเราสองคนที่รถ ผมกับริสาจะถ่วงเวลาไว้ให้ก่อน”